"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เผยเดินทางสู่แดนอิเหนาวันที่ 11 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะลงทำการซ้อมเย็นต่อในทันที เพราะต้องการทดลองกลยุทธ์และวิธีการก่อนเกมนัดชิง เกมแรกให้ได้มากที่สุด รวมทั้งยังมีข้อมูลข้อผู้เล่นตัวจริงกับสำรองอินโดนีเซียไว้หมดแล้ว มั่นใจธนบูรณ์ เกศารัตน์ สลัดอาการบาดเจ็บหายกลับมาทันแน่นอน ส่วนเรื่องสถิติที่จะชนะในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นเกมที่ 6 ติดต่อกัน ทำลายสถิติเดิมที่ทำไว้ในปี 2000 ยังไม่คิดถึงเนื่องจากเป้าหมายของทีมมีความกดดันอยู่แล้วในการที่จะต้องชนะทุกแมตช์

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งทะลุเข้าไปป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 สมัยที่ 5 โดยจะพบกับ คู่ปรับเก่าอย่าง อินโดนีเซีย ที่เจอกันมาในรอบแรกซึ่ง "ช้างศึก" เอาชนะได้ 4-2 เกมแรกต้องออกไปเยือนก่อนในวันที่ 14 ธ.ค. ก่อนกลับมาเล่นในบ้านนัดสอง วันที่ 17 ธ.ค.นี้

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา "ซิโก้"  ได้แบ่งนักเตะออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆซึ่งชุดแรกเป็นตัวจริงที่พบกับ เมียนมาร์ ได้ทำการลงสระน้ำ เพื่อทำการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ส่วนคนที่เป็นตัวสำรองได้เข้าห้องฟิตเนส เพื่อรักษาความฟิตให้คงอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ก่อนที่ในช่วงเย็นของวันที่ 9 .ค.ที่ผ่านมา จะไม่มีการฝึกซ้อมแต่อย่างใด

หลังการซ้อม "ซิโก้" บอกว่า "หลังจากที่เราซ้อมอีก 1 มื้อที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ กำหนดการเที่ยวบินไปอินโดนีเซีย เราจะไปตอนเช้าของวันที่ 11 ธ.ค. เพื่อที่เราจะซ้อมต่อในช่วงเย็นทันที 1 มื้อ และอีกอย่างละมื้อในวันที่ 12-13 ธ.ค. จากนั้นวันที่ 14 ธ.ค. จะเข้าสู่โหมดเกมการแข่งขัน"

"ผมมองว่าการซ้อมในช่วงเย็นวันที่ 11 ธ.ค.นี้ นักเตะคงไม่น่าจะเกิดอาการล้า เนื่องจากใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นเมื่อเราแข่งเสร็จวันที่ 14 ธ.ค. ในวันที่ 15 ธ.ค. เราจะเดินทางกลับมายังประเทศไทย และจะได้ทบทวนแท็กติกอีก 1 วัน"

อีกทั้งกุนซือจอมตีลังกายังบอกอีกว่า "ณ ตอนนี้ถ้าอินโดนีเซียไม่แน่จริง คงจะไม่เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้เราจะชนะเขาในรอบแรก 4-2 ถึงเวลานี้เราเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 11 ผู้เล่นคนแรกของเขาเป็นใครบ้าง หรือตัวสำรองที่จะลงมาเปลี่ยนเกม เรียกได้ว่ารู้แผนกับวิธีการของเขาแล้ว"

กรณีของ "เจ้าตั้ม" ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังเกมชนะ เมียนมาร์ 4-0 นายใหญ่ทีมชาติไทย ได้บอกว่า "อาการของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ คงจะไม่ได้มีความร้ายแรงเหมือนกับที่ใครหลายคนคาดคิด เพราะจากนี้ไปเหลืออีก 5 วัน ที่เราจะต้องเจอกับ อินโดนีเซีย มั่นใจว่าเขาจะฟิตสมบูรณ์กลับมายืนเกมรับให้ทีมได้อีกครั้ง"

หากว่าชนะ อินโดนีเซีย ได้ในรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 14 ธ.ค.นี้ ทีมชาติไทยจะสร้างสถิติชนะ 6 นัดรวดใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ซึ่งจะกลายเป็นทีมแรกทันที และทุบสถิติเดิมที่เคยทำไว้ในปี 2000 จากรอบแรกถึงการคว้าแชมป์ 5 เกมรวด

"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" บอกว่า "เรื่องของสถิติการชนะเป็นเกมที่ 6 นั้น เราคงจะยังไม่มองถึงจุดนั้น เนื่องจากเราต้องการให้นักเตะทำผลงานในแต่ละเกมที่ดีที่สุดออกมา โดยเฉพาะเป้าหมายที่เราต้องการเอาชนะให้ได้ทุกนัด หากว่าเราสามารถป้องกันแชมป์ได้ สถิติใหม่ๆจะเกิดขึ้นเอง"