สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่ง ประเทศไทย ตัดสินใจจับมือกับทีมงานเอ็คโคโน่ เพื่อผลประโยชน์ของทีมชาติทุกชุด โดยทำสัญญากันอย่างเป็นทางการเมื่อวัน 4 เมษายน 2560 อย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนยังสงสัยอยู่ก็คือ "เอ็คโคโน่" เขาคือใครกันแน่ และจะพัฒนาฟุตบอลไทยไปในทิศทางไหน พัฒนาอย่างไร

         เราจะลองไปเปิดประวัติของเอ็คโคโน่ กับความรับผิดชอบที่เขาจะต้องทำให้กับทีมช้างศึก นับจากนี้เป็นต้นไป...

1. ใครคือเอ็คโคโน่?

         เอ็คโคโน่ เป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน แต่เดิมเป็นบริษัทที่ "ดีไซน์" การซ้อม เริ่มมีชื่อเสียง จากการออกแบบการซ้อมให้บาร์เซโลน่าในปี 1997

         ตามปกติ ในกีฬาฟุตบอล การซ้อมถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะอย่างในฟุตบอลลีก นักฟุตบอลจะใช้เวลาถึง 5 วันในการซ้อม แต่ 1 วันเท่านั้น สำหรับการแข่งขันจริงในแต่ละสัปดาห์ ดังนั้น การซ้อมจึงถือว่ามีบทบาทกับนักฟุตบอลเป็นอย่างมาก

         การซ้อมฟุตบอลนั้น แต่ละสโมสรใช้เวลาไม่เท่ากัน บางทีมวันละ 1 ชั่วโมง บางทีมวันละ 2 ชั่วโมง บางทีมกำหนดเวลานักกีฬาในการเข้ายิม แถมวิธีการซ้อมก็มีเป็นพัน เป็นหมื่นวิธี ไม่ใช่แค่ลงซ้อมทีม 11-11 อย่างเดียว  ซึ่งหน้าที่ของเอ็คโคโน่ คือ คิดคำนวณ วิธีการซ้อมให้สโมสร ว่า ใน 1 ชั่วโมงต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

         ดาวิด เอร์นันเดซ และ คาร์ลอส โรมาโกซ่า คือสองผู้บริหารผู้ริเริ่มไอเดีย การออกแบบวิธีการฝึกซ้อมเหล่านี้ ซึ่งหลายๆสโมสร นำไอเดียของเอ็คโคโน่ไปฝึกตาม และปรากฎว่าได้ผลดีมากจริงๆ จึงขยายความน่าเชื่อถือของเอ็คโคโน่มาเรื่อยๆจนปัจจุบัน

2. ความสำเร็จ และผลงานของเอ็คโคโน่

         เอ็คโคโน่ เริ่มต้นจากการดีไซน์การซ้อม ให้บาร์เซโลน่า จากนั้น ก็เริ่มขยายไปที่สโมสรอื่นๆ เนื่องจากมีการจ้างเอ็คโคโน่ให้ออกแบบการซ้อมให้

         บาร์เซโลน่า (1997-2001) ในยุคที่มีผลิตผลเก่งๆ ทั้ง เชส ฟาเบรกาส, การ์เลส ปูโยล และ จอร์ดี้ อัลบา ปาชูก้า (2011-2013)

         ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (2015-ปัจจุบัน)  เบเธสด้า ซอคเกอร์ คลับ (2014-ปัจจุบัน)

         ตอนที่ พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เดินทางไปที่ฝรั่งเศส ก็เพื่อไปที่สโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่ง ทางเอ็คโคโน่ รับออกแบบการซ้อมให้อยู่ จากนั้น ได้เห็นวิธีการซ้อมของเปแอสเช เชื่อว่า "บิ๊กอ๊อด" น่าจะชื่นชอบในแนวคิด และไอเดีย ก่อนมองว่า นี่เป็นทีมงานที่เชื่อใจได้ และมีความรู้จริงๆ ที่จะมีออกแบบวิธีการซ้อมให้กับทีมชาติไทยทุกระดับ

3. จาก "ดีไซน์" ยกระดับเป็น "พัฒนา" เต็มรูปแบบ

         เอ็คโคโน่ เริ่มต้นจากการดีไซน์การซ้อมก็จริง แต่ในภายหลัง พวกเขาได้ปรับบทบาทของบริษัทตัวเอง และเข้าไปรับงานพัฒนาองค์กรที่มาว่าจ้างเต็มรูปแบบ

         พวกเขามีทีมงานที่มีความรู้ด้านกีฬาโดยตรงหลายร้อยคน บางคนจะการศึกษาจากระดับมหาวิทยาลัยในยุโรป และมีแหล่งข้อมูลมากมายจากประสบการณ์ทำงานมา 20 ปี ดังนั้นจึงสามารถทำได้มากกว่า "ดีไซน์" การซ้อม

         เอ็คโคโน่ รับงานเป็นที่ปรึกษา และช่วยพัฒนาทีมชาติด้วย โดยจะมาช่วยในเรื่องเหล่านี้

 - 1. ดีไซน์การซ้อมของทีมชุดใหญ่ 
 - 2. ดีไซน์การซ้อมของระดับเยาวชน เพราะในฟุตบอลเด็ก สิ่งที่ต้องพัฒนาไม่ใช่รายละเอียดเรื่องแท็กติกส์ แต่เป็นความเข้าใจเกม และ การเสริมสร้างร่างกาย ซึ่งก็จะใช้แนวคิดที่ต่างไปกับฟุตบอลชุดใหญ่
 - 3. ทีมวิเคราะห์ เอ็คโคโน่มีทีมงานวิเคราะห์ฟอร์มของคู่แข่ง จุดที่ต้องระวัง และคีย์แมน รวมถึงมีทีมงานวิเคราะห์นักเตะฝั่งตัวเอง ถึงจุดอ่อน จุดแข่ง เพื่อให้โค้ชเอาไปพัฒนาต่อ
 - 4. ทีมแมวมอง  โดยเอ็คโคโน่จะทีมแมวมองของตัวเองในการค้นหานักเตะฝีเท้าดี รวมถึง จะดึงจุดเด่นของผู้เล่นแต่ละคนที่ซ่อนอยู่ขึ้นมา
 - 5. ทีมที่ปรึกษา นักฟุตบอลแต่ละคน จะมีปัญหาในสนามแตกต่างกัน ซึ่งทางเอ็คโคโน่ จะใช้ประสบการณ์ของตัวเอง ในการช่วยเหลือนักเตะว่า เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ จะแก้ไขอย่างไร
 - 6. ทีมพัฒนาโค้ช โดยสอนให้โค้ช ได้เรียนรู้ศาสตร์ของเอ็คโคโน่ และ สอนให้เข้าใจว่า การฝึกแต่ละแบบมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งเมื่ออนาคต หากหมดสัญญากับเอ็คโคโน่แล้ว โค้ชเหล่านั้น ก็จะสามารถนำไปต่อยอดได้
 กับฟุตบอลไทย หากเอ็คโคโน่ เข้ามาพัฒนาเต็มรูปแบบ ก็จะส่งคนไปทำตามหัวข้อต่างๆเบื้องต้น และใช้ศาสตร์ของตัวเอง นำมาให้ความรู้ในจุดต่างๆกับทั้งนักเตะและโค้ชของไทย

4. ทีมชาติที่ว่าจ้าง "เอ็คโคโน่"

 เอ็คโคโน่ มีลูกค้าอยู่ 3 รูปแบบ 

 คือ 1. ทีมชาติที่พร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว คือมีแนวทางการเล่นของตัวเองที่ต้องการอยู่แล้ว
 2. ทีมชาติที่มีแนวทางการเล่นของตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากได้การฝึกแนวทางใหม่ๆ เพื่อทำให้มีสไตล์การเล่นที่มีมิติเพิ่มขึ้นจากเดิม
 และแบบที่ 3. คือทีมชาติที่ยังไม่มีแนวทางอย่างชัดเจน และต้องการให้เอ็คโคโน่ เข้ามาเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่นับหนึ่ง
 มิเกล ฟาร์เรโร่ ตัวแทนจากเอ็คโคโน่ กล่าวว่า ทีมชาติไทยเป็นแบบที่ 3 เพราะสมาคมฯไทยนั้น เปิดกว้าง ทั้งเรื่องระยะเวลา และ วิสัยทัศน์ ให้บริษัทออกไอเดียได้เต็มที่  โดยมองว่าสมาคมฯกับบริษัทจะต้องผสมผสานกัน

 โดยทีมชาติที่เคยร่วมงานกับเอ็คโคโน่มาแล้วในอดีตนั้น ได้แก่
 - สมาคมฟุตบอลจีน
 - สมาคมฟุตบอลฟินแลนด์
 - สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น

5. ไทยจะเวิร์กหรือไม่ ภายใต้เอ็คโคโน่

         เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ ว่าทีมชาติไทย จะมีทิศทางอย่างไร แต่การได้รับประสบการณ์การซ้อม และร่วมงานกับบริษัทที่มีชื่อเสียงก็นับว่าเป็นเรื่องดี

         ที่เรายังไม่รู้คือ ขอบเขตของเอ็คโคโน่ คืออะไรบ้าง และ พวกเขาจะถ่ายทอดความรู้ที่มี ให้คนไทยที่เกี่ยวข้องได้มากแค่ไหน

         เรื่องนี้ก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไป  อย่างใกล้ชิด...