ลิเวอร์พูล กลับไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเปิดแอนฟิลด์ ถล่มเอาชนะมิดเดิลสโบรห์อย่างขาดลอย 3-0 โดยได้ประตูจากจินี่ ไวจ์นัลดุม , ฟรีคิกของคูตินโญ่ และ อดัม ลัลลาน่า คว้าที่ 4 ของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ขณะที่มิดเดิลสโบรห์ ปิดฉากซีซั่นด้วยการจบอันดับ 19 ของตารางคะแนน

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ (นัดสุดท้าย)

 วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2560

 ลิเวอร์พูล 3-0 มิดเดิ้ลสโบรช์
 
 สนาม : แอนฟิลด์

         หงส์แดงต้องการชัยชนะเพื่อการันตีจบท็อปโฟร์ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หายเจ็บทันเวลากลับมายืนกองหน้าคู่กับแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำให้ดิว็อก โอริกี้ หลุดไปนั่งสำรอง ส่วนทีมเยือน  โบโร่  เตะทิ้งทวนก่อนลงไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เกมนี้ใช้ความสูงใหญ่ของรูดี้ เกสเตด เป็นหัวหอกแทนอัลวาโร่ เนเกรโด้

          เริ่มเกมมา 22 วินาที ฟีร์มิโน่ ได้ส่องไกล บอลเรียดเข้ากรอบแต่แบรด กูซาน ล้มตัวรับสบาย

          ลิเวอร์พูล ครองบอลเดินหน้าบุกใส่ แต่โบโร่ งัดหมาก 4-5-1 บีบพื้นที่ให้เหลือน้อยที่สุด

          นาทีที่ 6 เจมส์ มิลเนอร์ โยนจากปีกซ้ายมาหน้าประตู กองหลังโบโร่ โหม่งสกัดไม่ดี ลูกหลุดมาถึงเสาไกล แต่เนธาเนียล ไคลน์ กลับยิงหลุดกรอบไม่ใกล้เคียง

          ผ่าน 8 นาที ทั้งแมนฯ ซิตี้ กับอาร์เซน่อล ต่างขึ้นนำคู่แข่งไปแล้ว ทำให้ลิเวอร์พูล หล่นไปอันดับ 5 ถ้ายิงประตูโบโร่ไม่ได้

          เจ้าถิ่นพยายามลักไก่ เปิดบอลทะลุไลน์กองหลัง 2-3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ผล บอลมักลึกเกินไปถึงแบรด กูซาน

          15 นาทีแรก ลิเวอร์พูลครองบอลมากกว่า 85 เปอร์เซนต์ แต่โอกาสลุ้นประตูมีแค่ 2 ครั้ง

          นาที 16  บอลโยนจากมิลเนอร์ ทางซ้าย ฟีร์มิโน่ โหม่งเช็ดมาเข้าเท้าจอร์จินโย่ ไวนาดุม พยายามกลับตัวยิง แต่ก็ติดบล็อกกองหลัง

          นาที 18 โบโร่ ได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะหวังผล แต่สจวร์ต ดาวนิ่ง เด็กเก่าหงส์ ยิงไม่ผ่านกำแพง

          หงส์แดงมีโอกาสอีกครั้งจากลูกยิงนอกเขตของเอ็มเร่ ชาน แต่บอลลอยข้ามคาน

          นาที 22 แฟนหงส์ใจหายวาบ เมื่ออดัม ฟอร์ชอว์ ทำชิ่งให้แพทริค แบมฟอร์ด หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนโดนเดยัน ลอฟเรน ใช้มือผลักจากด้านหลังจนล้มลง แต่ผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน โบกมือให้เล่นต่อ

          เจ้าถิ่นก้มหน้าบุกต่อ คูตินโญ่ ซัดไกลแต่ยังไม่ผ่านมือกูซาน ส่วนโบโร่ เริ่มมีจังหวะตอบโต้ ดาวนิ่ง โยนให้ เกสเตด โหม่งเช็ดออกทางเสาไกล

          ครึ่งชั่วโมงผ่าน คูตินโญ่ พยายามปั้นเกมให้ลิเวอร์พูล แต่แนวรับโบโรแทบไม่มีช่องให้โจมตี

          นาที 33 เจ้าถิ่นต่อบอลได้สวย แต่จังหวะจบ สเตอร์ริดจ์ ยิงเรียดด้วยขวา ลูกเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว

          ยิ่งเวลาผ่านไป นักเตะลิเวอร์พูล เริ่มลน ลัลลานา กับฟีร์มิโน่ ผลัดกันยิงไกล แต่ก็ไร้ผล ขณะที่มีความผิดพลาดในการรับส่งบอลให้เห็นเป็นระยะ

          ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ประตูที่ต้องการ ไคลน์ ผ่านบอลขึ้นหน้าฝากที่ลัลลานา ชิ่งต่อให้ ไวนาดุม หลุดขึ้นทางขวาก่อนซัดโป้งเข้าเสาแรก หงส์แดงนำ 1-0

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์, เนธาเนียล ไคลน์, โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวนาดุม, เอ็มเร่ ชาน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลานา, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

 ตัวสำรอง : ลอริส คาริอุส, มาร์โก กรูยิช, รักนาร์ คลาวาน, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, ดิว็อก โอริกี้, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์

 มิดเดิ้ลสโบรช์ : แบรด กูซาน, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, คาลัม แชมเบอร์ส, เบน กิ๊บสัน, จอร์จ เฟรนด์, แกรนท์ ลีดบิทเทอร์, อดัม เคลย์ตัน, อดัม ฟอร์ชอว์, แพทริค แบมฟอร์ด, รูดี้ เกสเตด, สจวร์ต ดาวนิ่ง

 ตัวสำรอง : ดิมิทริออส คอนสแตนโตปูลอส, แดเนียล อยาล่า, แบร์นาร์โด้ ซูนิก้า, อัลวาโร่ เนเกรโด้, วิคเตอร์ ฟิสเชอร์, มาร์เท่น เด รูน, คริสเตียน สตูอานี่

 ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน