"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 33 และในรอบ 5 ปี นับแต่ปี 2011-12 ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ หลังเกมปิดซีซั่นบุกไปสอย มาลาก้า 2-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดเบิกร่องและเป็นประตูที่ 25 ในฤดูกาลนี้ พร้อมพาทีมเก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 93 คะแนน ทิ้งอันดับ 2 บาร์เซโลน่า สามคะแนน แถมมีลุ้นดับเบิ้ลแชมป์ในปีนี้ ด้วยการยกพลไปป้องกันแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะพบกับ ยูเวนตุส วันที่ 3 มิ.ย. ที่คาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์
 

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน (นัดปิดฤดูกาล)

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2560

มาลาก้า 0 - เรอัล มาดริด 2

 สนาม: เอสตาดิโอ ลา โรซาเลด้า, (มาลาก้า)

มาลาก้า ภายใต้การคุมทัพของมิเชล กอนซาเลซ ออกไปเสมอ เรอัล โซเซียดาด 2-2 เป็นการหยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 4 นัด รั้งอันดับ 11 ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว

         เกมนี้ต้องขาด ดีเอโก้ ยอเรนเต้ ซึ่งยืมมาจากเรอัล มาดริด ลงเล่นในเกมนี้ ขณะที่ โรเบร์โต้ โรซาเลส, ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช, ฮวนปี และ บาการี่ โกเน่ บาดเจ็บทั้งหมด แต่ได้ อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีม

         ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน บุกทุบ เซลต้า บีโก้ 4-1 ในนัดตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับยังทำสถิติโลกในการพังประตูต่อเนื่องเป็นนัดที่ 63 ติดต่อกันแล้ว (จากทุกรายการ) ทะยานขึ้นไปเป็นจ่าฝูงนำหน้า บาร์เซโลน่า 3 คะแนน โดยขอแค่เพียง 1 แต้มเท่านั้น เพื่อตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12

         เกมนี้ เรอัล ได้ ฮาเมส โรดริเกซ หายเจ็บเท้ากลับมามีชื่อเป็นสำรอง ส่วน ดาเนียล การ์บาฆาล กับ แกเร็ธ เบล ยังไม่พร้อมคืนสนามเหมือนเดิม แต่จะร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อการฉลองแชมป์

         สามประสานแดนหน้าส่ง อีสโก้, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาหน้าเข้าถล่มประตู

         ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่สองนาที เรอัล มาดริด ออกนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่  อีสโก้ เก็บบอลได้แล้วจ่ายตามช่องขึ้นหน้าไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปแตะบอลหลบ การ์ลอส กาเมนี่ นายทวารมาลาก้า แล้วแปด้วยขวาโล่งๆ เข้าประตูไป เป็นประตูที่ 25 ของโรนัลโด้ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้

         สิบนาทีต่อมา มาลาก้า ทำเกมลุยเข้ามาบ้าง ปาโบล ฟอร์นาลส์ จ่ายบอลออกไปทางซ้ายให้ ซานโดร รามีเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมา ล็อกเข้าเขตโทษมาหวดด้วยขวา บอลพุ่งหามุมแคบเสาแรก แต่ นาวาส พุ่งไปเซฟได้

         ผ่านมาถึงนาทีที่ 21 มาลาก้า มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา เยื้องทางซ้าย ซานโดร รามิเรซ รับหน้าที่สังหาร ยิงด้วยขวาเล็งหาสามเหลี่ยมเสาแรก เล่นงาน นาวาส ต้องบินไปแบบสุดเหยียดปัดทิ้งออกหลัง จนตัวไปกระแทกเสา ต้องปฐมพยาบาล ก่อนกลับมาเล่นต่อได้

         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 34 เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูที่สอง คาริม เบนเซม่า พาบอลลากจี้เข้าไปทางซ้าย แล้วจ่ายยัดเข้าเขตโทษ กองหลังเจ้าบ้านพยายามสกัด แต่พลาด บอลมาเข้าทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีเวลาได้จับแล้วตะบันด้วยซ้าย แต่บอลยังไปติดเซฟ การ์ลอส กาเมนี่ นายทวารเจ้าบ้าน หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำก่อน 1-0

         กลับมาเตะได้ 10 นาที เรอัล มาดริด หนีไป 2-0 โทนี่ โครส เปิดเตะมุมจากทางขวาเข้ามากลางเขตโทษให้ รามอส สอดมาแปโล่งๆ กาเมนี่ทุบออกมา บอลโดนหน้าอก วารานมาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า หวดด้วยขวาจ่อๆ เข้าประตูไป
 
         หลังจากนั้นนาทีที่ 58 มาลาก้าได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมทางซ้าย เปิดเข้ามาที่เสาสองให้โฆนี่เปิดยาวเข้าไปทางเสาสองให้ อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ โขกเต็มหัว แต่บอลยังไม่ผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส

         ผ่านมาถึงนาทีที่ 70 ทีมเยือนพลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย ฮาเมส โรดริเกซ ได้บอลทางซ้ายของเขตโทษ แล้วจ่ายยัดไปทางเสาสอง คาริม เบนเซม่า ชาร์จจ่อๆ เข้าประตูไปแล้ว แต่กรรมการมองว่าล้ำหน้าก่อน ไม่ให้เป็นประตู

         กระทั่งนาทีที่ 78 มาลาก้ามาได้ลุ้นจากจังหวะเปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษให้ อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ โขกเต็มหัว แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

         ช่วงท้ายเกม เรอัล มาดริด ลุยขึ้นมาอีกครั้ง มาร์เซโล่ได้บอลทางซ้ายลากตัดมาหน้าเขตโทษ แล้วซัดด้วยซ้าย แต่บอลไต่หลังเท้าหลุดกรอบออกหลังไป ครบ 90 นาที ''ราชันชุดขาว'' บุกมาเชือดมาลาก้า 2-0 พร้อมกับคว้าแชมป์ ลา ลีกา เป็นสมัยที่ 33 ไปครอง และเป็นแชมป์ลีกหนแรกนับตั้งแต่ปี 2012 ด้วย

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         มาลาก้า : การ์ลอส กาเมนี่ - มิเกล ตอร์เรส, มิเกล วียานวยวา, หลุยส์ เอร์นานเดซ, เฟเดรีโก้ ริกก้า - เรซิโอ, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (กัปตันทีม) - เกโก้ (กอนซาโล่ กาสโตร น.60), ปาโบล ฟอร์นาลส์, โฆนี่ (ดูด้า น.72) - ซานโดร รามีเรซ (ชาร์ลส์ น.69)

         เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดานิโล่, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), มาร์เชโล่ - ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่ (มาเตโอ โควาซิช น.66) , โทนี่ โครส - อีสโก้ (ฮาเมส โรดรีเกซ น.66) - คาริม เบนเซม่า (อัลบาโร่ โมราต้า น.73), คริสเตียโน่ โรนัลโด้

         ผู้ตัดสิน : ริการ์โด้ เด บูร์โกส เบนโกเอ็ตเชีย