ถือเป็นเกมการตัดสินแชมป์ก็ว่าได้ ในศึกบิ๊กแม็ตช์ สุดสัปดาห์นี้ ระหว่าง กิเลนผยอง กับ ปราสาทสายฟ้า ซึ่งก่อนเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีฐานะเป็นจ่าฝูง มีคะแนนมากกว่า เอสซีจี เมืองทอง 4 คะแนน นั่นทำให้ เกมนี้ ลูกทีมของ ธชตวัน ศรีปาน ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก ต้อ

เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ อาวุธใครหนักกว่า ในการเจอกันวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม นี้...

ผู้รักษาประตู
กวินทร์ ( 8 ) : รักษาฟอร์มได้สม่ำเสมอ แม้ผลการแข่งขันที่ผ่านมาจะออกในทำนองที่ไม่เป็นใจกับทีมมากนัก แต่ความกระหายและมุ่งมั่นยังเชื่อว่า นายด่าน กิเลนผยอง ยังมีเต็มเปี่ยม และเชื่อว่าเหนือกว่า ศิวรักษ์

ศิวรักษ์ ( 8 ) : ฟอร์มช่วงหลังถือว่ายอดเยี่ยม 5 เกมหลัง สามารถรักษาคลีนชีทได้แบบสบาย ส่วนหนึ่งมาจากที่ การได้ ตูเณช กลับมาช่วยให้เกมรับแน่นขึ้นด้วย ซึ่งทำให้ความมั่นใจของ เจ้าตัว ก็ไม่กลัวใครเหมือนกัน ในเกมที่จะเจอกัน

แนวรับ
อาโอยามะ ( 8 ) : เป็นผู้คุมและจัดการ แนวรับ ช่วงหลังเกมรับของ กิเลนผยอง มักมีจุดอ่อนให้เล่นงาน เห็นได้จาก 5 เกมหลังในลีก เสียไปถึง 4 ประตู ซึ่ง อาโอยามะ เอง ก็ไม่ได้มีดีเพียงแค่เกมรับ บางจังหวะก็ยังขึ้นไปเล่นลูกกลางอากาศ ช่วยทีมทำไประตูได้ แต่เทียบความแข็งแกร่งกับ ตูเญช แล้ว ยังถือว่าเป็นรอง 

ตูเญช ( 9 ) : การกลับมาคุมเกมรับให้ ปราสาทสายฟ้า ในเลกที่ 2 เขาแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย แถมพิสูจน์ตัวเองด้วยว่า นี่คือกองกลังที่ดีที่สุดในลีกไทย มีทั้งความแข็งแกร่ง และ การทำประตูจากลูกโหม่งที่ กิเลนผยอง จะประมาทไม่ได้ นี่คือกองกลังที่ครบเครื่องและหัวใจสำคัญสำหรับทีม 

 กองกลาง
ชาริล ชัปปุย ( 7 ) : การย้ายมาสู่ กิเลนผยอง ของกองกลาง ลูกครึ่งรายนี้ ถือว่าถือว่าเป็นการเข้ามาเชื่อมเกมในแดนกลาง แต่ก็ยังไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก เกมนี้ทำให้เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าคุ้มค่าหรือไม่กับค่าตัว และจะหวนกลับไปสู่ทีมชาติไทยได้หรือไม่ ซึ่งเกมสถานการณ์แบบนี้ประสบการณ์ของ ชาริล จะนำมาช่วยทีมได้มาก แต่ถ้าเทียบฟอร์มนะปัจจุบัน ยังถือว่าเป็นรอง จักรพันธ์ แก้วพรม

จักรพันธ์ ( 8 ) : เป็นนักเตะที่มีการเล่นคงเส้นคงวามากที่สุด ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี จักรพันธ์ คือหัวใจในการเดินเกมรุกให้กับปราสาทสายฟ้า ซึ่งการจ่ายบอลออกจากเท้าแต่ละครั้ง ในการส่งต่อให้ โคเอลโย่ และ ดิเอโก้ ถือว่าสำคัญ หาก กิเลนผยองสามารถตัดออกจากเกมได้ มีโอกาสที่จะทำผลงานได้ดีนั้นมีสูง

กองหน้า
ธีรศิลป์ ( 8 ) : กองหน้าที่ดีที่สุดของเมืองไทย ความอันตรายของ มุ้ย ยังน่ากลัวเสมอ แม้ว่าสภาพร่างกายจะไม่สมบูรณ์ แต่ด้วยสัญชาตญาณ การเป็นดาวยิง เกมแบบนี้ เจ้าตัวจะสำคัญอย่างมาก กับการเป็นผู้นำในการพาทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญ

ดิเอโก้ ( 9 ) : เชื่อว่าทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี สรรพคุณ อันตรายทุกครั้งที่ได้รับโอกาส ละก็มักจะใช้โอกาสที่มีเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เป็นอย่างดีซะด้วย 16 ประตู ของ ดิเอโก้ คือเครื่องการรันตรี ว่าจะเป็นผู้มีชื่อขึ้นบนสกอร์บอร์ด

หน่วยสนับสนุนเกมรุก
อัสซัมเซา ( 9 ) : ผลงานของ อัสซัมเซา ถือว่าตอบโจทย์ในการเสริมทัพผู้เล่นในเกมรุกที่เข้ามาช่วย ธีรศิลป์ อย่างแท้จริงในช่วงที่ผ่านมา และการที่ได้เล่นคู่กับ เฮเบอร์ตี้ เพื่อนร่วมชาติยิ่งทำให้เขามีความอันตรายเพิ่มอีกเท่าตัว เกมใหญ่ๆแบบนี้ อัสซ่า จะเป็นคนที่ทำให้ทีมมีความสุขได้เหมือนกับเกมที่ผ่านมา

โคเอลโญ่ ( 9 )  : การมาค้าแข้งเพียงฤดูกาลแรกของเจ้าตัว ดูเหมือนจะง่ายไปซะทุกอย่าง เกมนัดนี้ แนวรับเมืองทองห้ามประมาทเป็นเด็ดขาด การประสานงานกับ ดิเอโก้ อันตรายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

กุนซือ
ธชตวัน ( 8 ) : ผลงานช่วงต้นฤดูกาลยอมรับว่าหาใครที่จะเทียบด้วยยาก ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้ง ในลีก และ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยน ลีก แต่เมื่อถึงเวลานี้ ผลงานกับดาวส์ลงเป็นเพราะเสริมทัพมากเกินไปหรือไม่ และยังหาจุดลงตัวของนักเตะไม่เข้าที่ แต่ด้วยมันสมองแล้ว เชื่อว่าไม่เป็นรอง 

บันโดวิช ( 8 ) : กุนซือชาว เซอร์เบีย กลับขึ้นมาคุมทับ บุรีรัมย์ รอบที่สอง และทำผลงานได้ยอดเยี่ยม เกมนี้คือการพิสูจน์ตัวเองกับนายใหญ่ หากบุกมาเก็บ 3 คะแนน ได้ พวกเขคงคว้าแชมป์แน่นอน