ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5ข้อแบบชัด! สิ่งที่หงส์แดงได้รู้ หลังซิวรองแชมป์ออดี้คัพ

5ข้อแบบชัด! สิ่งที่หงส์แดงได้รู้ หลังซิวรองแชมป์ออดี้คัพ

Posted 03/08/2017 by siamsport

 

ลิเวอร์พูล จบรายการออดี้คัพที่มิวนิค ด้วยการได้รองแชมป์ หลังแพ้จุดโทษแอตเลติโก มาดริด ในรอบชิง อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้แชมป์แต่ทัพหงส์แดงก็สะท้อนอะไรให้เห็นไม่น้อย จากการมารายการนี้ นี่คือ 5 เรื่องที่แฟนหงส์แดงต้องรู้

    1) ลิเวอร์พูลไม่กลัวทีมใหญ่

    ซีซั่นที่แล้ว หงส์แดงไม่แพ้ทีม 1-8 ของตารางคะแนนแบบเหย้าเยือน มันแสดงให้เห็นว่า ถ้าต้องเจอกับทีมใหญ่ด้วยกัน ลิเวอร์พูลไม่เคยกลัว

    ในศึกออดี้คัพ ซึ่งลิเวอร์พูลเจอกับบาเยิร์น มิวนิค และ แอตเลติโก มาดริด ก็พิสูจน์อีกครั้งว่า ถ้าต้องเจอทีมระดับเดียวกันหรือเหนือกว่า กลยุทธ์ของทีม สามารถต่อกรได้

    บาเยิร์น มิวนิค ส่งผู้เล่นชุดเกือบใหญ่ที่สุดลงสนาม อาจขาดแค่ มานูเอล นอยเออร์ คนเดียวเท่านั้น แต่ลิเวอร์พูลใช้เกมสวนกลับเร็ว เอาชนะได้สวยงาม 3-0 ขณะที่เกมกับแอตเลติโก มาดริด ลิเวอร์พูลพักตัวหลักเพียบ เพราะต้องแข่งติดกันสองวัน แต่ทรงบอลยังใช้ได้ ก่อนเสมอในเวลา 1-1 และไปพ่ายเอาในช่วงจุดโทษ

    ปัญหาเดิมๆ ของหงส์ที่ต้องแก้กันให้ได้ คือเมื่อต้องเจอกับทีมเล็ก พวกเขาจะเจาะอย่างไร นี่ต่างหากคือปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าเจอทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันเสียอีก ลองคิดดูว่า หงส์เสมอแอต.มาดริด ได้ 1-1  แต่ตอนอุ่นเครื่องกับวีแกน ทีมระดับลีกวัน ก็เสมอ 1-1 เหมือนกัน ซึ่งตามหลัก มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

    2) เกมรุกหลากหลายขึ้นชัดเจน

     ในช่วงปรีซีซั่น ตั้งแต่เกมแรกสุดกับทรานเมียร์ มาจนถึงเกมแอตเลติโก มาดริด ลิเวอร์พูลยิงประตูได้ 16 ลูก ใน 7 เกม ค่าเฉลี่ยก็เกมละ 2 ลูกนิดๆ ถือว่าโอเค

    จุดที่น่าสนใจคือ ประตูที่ได้มา เกิดขึ้นจากการเข้าทำหลากรูปแบบ 16 ลูกแบ่งเป็น ยิงในเขตโทษ 5 ลูก, ยิงนอกเขตโทษ 5 ลูก, โหม่ง 3 ลูก และ จุดโทษ 3 ลูก 

    การโจมตีคู่แข่ง มีทั้งการแทงบอลทะลุช่อง เหมือนลูกที่คูตินโญ่ วางบอล ให้ซาลาห์เข้าไปยิง ในเกมกับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน หรือ การครอสด้านข้าง เหมือนลูกนำบาเยิร์น 2-0 ที่โมเรโน่ ครอสเข้ากลางมา ก่อนจะเป็นซาลาห์โหม่งเข้าไป

    ยังไม่รวมการยิงไกลสวยๆ ปีที่แล้วเราจะเห็นแต่คูตินโญ่ แต่ปรีซีซั่นครั้งนี้ เห็นทั้ง มาร์โก กรูยิช ,จินี่ ไวจ์นัลดุม และ โดมินิค โซลันกี้ ลองยิงไกลกันดู ซึ่งดูแล้วทีมมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม

    3) ดาวรุ่งสอบผ่านแทบทุกคน

    การที่ลิเวอร์พูลซื้อนักเตะมา 3 คน อาจดูน้อยเกินไป แต่นั่นเป็นเพราะ ซีซั่นนี้ คล็อปป์จริงจังที่จะให้โอกาสเยาวชนของทีมมากขึ้น

    โดมินิค โซลันกี้ มีข่าวตอนแรกว่าอาจโดนปล่อยให้ยืมตัว ไปเก็บประสบการณ์ก่อน แต่หลังจากปรีซีซั่น คล็อปป์ จะเก็บเอาไว้ต่อแน่นอน การที่ส่งเป็นตัวจริงในเกม กับแฮร์ธ่า เบอร์ลิน และ แอตเลติโก มาดริด พิสูจน์ได้อย่างดี

    เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วัย 18 ยิ่งกว่าสอบผ่าน นี่จะเป็นแบ็กขวาตัวจริงของทีมในซีซั่นหน้าด้วย , เบน วู้ดเบิร์น จากกองหน้าตัวเป้า บางคนบอกว่ามีบางอย่างคล้ายโอเว่น ตอนนี้ถูกถอยมาเล่นมิดฟิลด์ เกมกับแอต.มาดริด ก็เล่นกองกลางเต็มตัว

    ไรอัน เคนต์ ปีกความเร็วจัด มีเกมเคาน์เตอร์แอทแท็กสวยๆให้เห็นหลายครั้ง จังหวะโยกหลบสวยๆในเกมกับบาเยิร์น มิวนิค ยังคงติดตาแฟนๆ

    นี่คือกลุ่มที่จะได้อยู่ในทีมต่อ แต่ก็แน่นอน บางคนก็ต้องไปเก็บประสบการณ์กับทีม ตัวอย่างเช่น เปโดร ชิริเวย่า ที่ไปวิลเล่ม ทเว หรือ เชยี่ โอโจ กับ โอเวีย โอจาเรีย ที่น่าจะตามไปในไม่ช้า

    4) ตำแหน่งที่แย่งชิงกันที่สุดคือนายทวาร

    ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ พอเห็นภาพแล้วว่าใครจะเป็น 11 ตัวจริง แต่กับตำแหน่งผู้รักษาประตู ยังเป็นคำถามใหญ่ที่สุดว่าใครควรเป็นมือหนึ่งของหงส์แดง

    ซิมง มิโญเล่ต์ ทำดีมาตลอดตั้งแต่ซีซั่นก่อน แต่ถ้าเราสังเกตุ ในเกมสำคัญๆในปรีซีซั่น ทั้งรอบชิงเอเชียโทรฟี่ กับเลสเตอร์ และ เกมกับบาเยิร์น มิวนิค คล็อปป์เลือกใช้งานลอริส คาริอุส ทั้งสองนัด มันอาจเป็นการแสดงถึงอะไรบางอย่างหรือเปล่า

    ไม่เพียงแค่ 2 คนนี้ แต่ แดนนี่ วอร์ด มือ 3 ของทีม ที่ปล่อยให้ฮัดเดอร์ฟิลด์ยืมเมื่อซีซั่นก่อน ปีนี้ กลับมาแอนฟิลด์อีกครั้ง และได้โอกาสลงเล่นในเกมกับแอตเลติโก มาดริด

    ในนาที 27 จังหวะเซฟลูกยิงของอังเคล กอร์เรีย เป็นเซฟที่งามที่สุดในปรีซีซั่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งนอกจากจังหวะเสียประตู (ซึ่งวอร์ดทำอะไรไม่ได้) เขาไม่ได้ก่อข้อผิดพลาดอะไรเลย ถือว่าสอบผ่าน

    ดังนั้น สงครามระหว่าง มิโญเล่ต์,คาริอุส และ วอร์ด จะดำเนินต่อไป และในเกมแรกกับวัตฟอร์ด ก็ยังเดายากว่า คล็อปป์จะเลือกใครกันแน่

5) เซ็นเตอร์แบ็กอีก 1 คน หงส์ปิดตลาดซื้อขายได้

    2 นัดในออดี้ คัพ ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นแล้วว่า แนวรุก ไม่ใช่ปัญหา ถ้า ตัวหลักลงครบหมด ยิงได้ทุกทีม เช่นเดียวกับกองกลาง เฮนโด้, ไวจ์นัลดุม และ เอ็มเร่ ชาน มีมาตรฐานของตัวเองอยู่แล้ว ส่วนกรูยิช ก็พัฒนาขึ้นทุกวัน

    ปัญหาเดียวจริงๆคือ เซ็นเตอร์แบ็ก ที่ไว้ใจได้แค่ โจเอล มาติป กับ เดยัน ลอฟเรน  ส่วนที่เหลืออีก 3 นั้นทั้ง รักนาร์ คลาวาน ยังทะเล่อทะล่า เกมกับแอต.มาดริด มีจังหวะโฉ่งฉ่างให้เห็น ขณะที่โจ โกเมซ ยังเป็นดาวรุ่ง แถมน่าจะโดนโยกไปเล่นแบ็กขวาบางนัดด้วย ส่วนอีกราย มามาดู ซาโก้ ยังไม่รู้ชะตากรรม

    เท่ากับว่า ถ้า มาติป กับ ลอฟเรน เจ็บไปสักคน ทีมอาจถึงหายนะได้เลย ดังนั้นนาทีนี้ไม่ต้องไปสนใจกองหน้าตัวเป้าคนใหม่ หรือ มิดฟิลด์ตัวรับอีกแล้ว แต่เซ็นเตอร์แบ็ก เป็นตำแหน่งที่ต้องหามาให้ได้ 1 คนก่อนปิดตลาด

    เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค คือเป้าหมายเบอร์หนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้ คล็อปป์ ต้องมองหาคนอื่นไว้ด้วย ซึ่งถ้าได้กองหลังตัวกลางระดับคุณภาพมาอีกหนึ่ง หงส์แดงก็ปิดตลาดซื้อขายได้ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »