ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ซาเน่ฮีโร่ยิงเบิ้ล! เรือใบเฉือนแบ็กกี้ส์หืด 2-1, ทอฟฟี่ถลุง 3-0

ซาเน่ฮีโร่ยิงเบิ้ล! เรือใบเฉือนแบ็กกี้ส์หืด 2-1, ทอฟฟี่ถลุง 3-0

Posted 21/09/2017 by siamsport

  ลีรอย ซาเน่ กลายเป็นฮีโร่ให้ทัพ "เรือใบ" ในเกมนี้หลังเหมาคนเดียวสองประตูก่อนบุกไปเฉือนชัยเหนือ เวสต์บรอมวิช 2-1 เช่นเดียวกับ "ทอฟฟี่" เอฟเวอร์ตัน ที่ปลดล็อกคว้าชัยได้เสียทีหลังไล่ยิง "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ จากแชมเปี้ยนชิพ 3-0 ทะลุเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือรอบ 4 ศึกคาราบาว คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 3
วันพุธที่ 20 กันยายน 2560
เวสต์บรอมวิช (พรีเมียร์ลีก) 1 - แมนฯซิตี้ 2 (พรีเมียร์ลีก)

สนาม: เดอะ ฮอว์ธอร์นส์, (เวสต์บรอมวิช)

     "แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิชฯ เข้ารอบนี้ หลังถล่มแอ็คคริงตัน 3-1 ในรอบที่แล้ว ก่อนเสมอเวสต์แฮม 0-0 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 3 เกมแล้ว

    เกมนี้ต้องขาด โอลิเวอร์ เบิร์ค ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และ นาเซอร์ ชาดลี่ ที่เจ็บต้นขา โดยแดนกลางวาง เคลาดิโอ ยาค็อบ, เจมส์ มอร์ริสัน และ เกรกอร์ซ ครีโชเวียค ลงทำเกมสนับสนุนคู่หน้าทั้ง เจย์ โรดรีเกซ กับ ฮัล ร็อบสัน-คานู เข้าถล่มตาข่าย
    ทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ พาทีมถล่มวัตฟอร์ด 6-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติดรวมทุกรายการ

    นัดนี้ แมนฯซิตี้ ไม่มี แว็งซ็องต์ ก็องปานี กองหลังกัปตันทีมที่ไม่หายเจ็บน่อง โดยเกมนี้ให้ เคลาดิโอ บราโว นายทวารมือสองลงเฝ้าเสา พร้อมให้โอกาสบรรดาแข้งสำรองอย่าง ดานีโล่, เอเลียควิม ม็องกาล่า, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ลีรอย ซาเน่ ได้เล่นเป็นตัวจริง

    เปิดเกมครึ่งแรกมาได้เพียงแค่ 3 นาที แมนฯซิตี้ ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว เมื่อ ลีรอย ซาเน่ สับด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมขวาบนเข้าไป

    ผ่านมา 19 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นอีก เอเลียควิม ม็องกาล่า ปราการหลังขึ้นโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารเวสต์บรอมวิช

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 35 เจ้าถิ่นตั้งหลักได้บ้างแล้ว มีโอกาสจากจังหวะที เจย์ โรดรีเกซ โหม่งในกรอบเขตโทษ ไม่ผ่านการป้องกันของ เคลาดิโอ บราโว นายทวารของแมนฯซิตี้

    ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวเก่งของเรือใบสีฟ้า ซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารเวสต์บรอมวิช ปัดออกหลังไปได้ หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ บุกมานำก่อน 1-0

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 59 เรือใบสีฟ้า ต้องถอด อิลคาย กุนโดกัน ที่มีอาการบาดเจ็บออกมาพักแล้วส่ง ไคล์ วอล์คเกอร์ ลงเล่นแทน

    สองนาทีต่อมา แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นอีก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์

    เจ้าบ้านพยายามดันเกมรูกสู้ เจมส์ มอร์ริสัน ตะบันด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้ายระยะแค่ 6 หลา บอลหลุดเสาสองไปในนาทีที่ 69

    ถัดมาสามนาที "เดอะ แบ็กกี้ส์" มาไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ คีแรน กิ๊บบ์ส โยนให้กับ เคลาดิโอ ยาค็อบ มิดฟิลด์ตัวรับวัย 30 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ หวดด้วยซ้ายจ่อๆเข้ากลางประตูไป

    กระเถิบมานาทีที่ 77 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 เมื่อ แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายให้กับ  ลีรอย ซาเน่ สับไกยิงด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายบนเข้าไป และเป็นประตูที่สองของซาเน่ ในเกมนี้ด้วย

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาชนะ 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบ 4 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม    

    เวสต์บรอมวิช: เบน ฟอสเตอร์ - อัลล็อง นีย็อม, เคร็ก ดอว์สัน, จอนนี่ อีแวนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ (แม็ตต์ ฟิลลิปส์ น.62), คีแรน กิ๊บบ์ส - เคลาดิโอ ยาค็อบ (เจมส์ แม็คคลีน น.80), เจมส์ มอร์ริสัน, เกรกอร์ซ ครีโชเวียค - เจย์ โรดรีเกซ (โซโลม่อน รอนดอน น.67), ฮัล ร็อบสัน-คานู 

    สำรองไม่ได้ใช้: โบอาซ มายฮิลล์ (ผู้รักษาประตู) - อาห์เหม็ด เฮกาซี่, แซม ฟิลด์, แกเร็ธ แบร์รี่

    แมนฯ ซิตี้: เคลาดิโอ บราโว - ดานีโล่, จอห์น สโตนส์, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ฟาเบียน เดลฟ์ - ยาย่า ตูเร่, อิลคาย กุนโดกัน (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.59) - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ลีรอย ซาเน่ (แฟร์นานดินโญ่ น.79) - กาเบรียล เชซุส   
    สำรอง: เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู) - โตซิน อดาราบิโอโย, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้, ฟิล โฟเด้น, บราฮิม ดิอ๊าซ

    ผู้ตัดสิน: ไมค์ โจนส์

 เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก) 3 - ซันเดอร์แลนด์ (แชมเปี้ยนชิพ) 0

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

    เอฟเวอร์ตัน ทีมที่ไม่ชนะ 6 เกมซ้อนและแพ้ 4 นัดติดต่อกันชนิดที่ยิงไม่ได้สักประตูเดียว เปิดกูดิสัน พาร์ค พบ ซันเดอร์แลนด์ ทีมท้ายตารางลีกแชมเปี้ยนชิพ ในฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ อังกฤษ รอบสาม

    โรนัลด์ คูมัน กุนซือชาวดัตช์ของ ทอฟฟี่สีน้ำเงินการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นหลายตำแหน่ง เปิดโอกาสให้สำรองและคนที่ไม่ได้เล่นในเกมล่าสุดได้ลงโชว์ฝีเท้าบ้างอย่าง  มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก, ดาวี่ คลาสเซ่น, มูฮาเหม็ด เบซิช และ เมสัน โฮลเกต ส่วน เวย์น รูนี่ย์ ได้พักหลังเพิ่งผ่านคดีการตัดสินบทลงโทษเมาแล้วขับมาหมาดๆ

    ส่วน ไซม่อน เกรย์สัน กุนซือซันเดอร์แลนด์นำทีมชนะเกมเดียวในการเล่น 8 นัดหลังสุดในลีกส่ง แจ็ค ร็อดเวลล์, ดาร์รอน กิ๊บสัน สองนักเตะเก่าเอฟเวอร์ตัน ลงสนาม

     เกมครึ่งแรก เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายบุกมากกว่า นาที 21 ซานโดร รามิเรซ กองหน้าซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคาน

    จากนั้น รามิเรซ ยิงไกลสองครั้งนาที 25, 30 แต่ไปตรงตัว เจสัน สตีล นายทวารซันเดอร์แลนด์

    และแล้วนาที 38 เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูนำ 1-0 นิโกล่า วลาซิช ทำชิ่งกับ ดาวี่ คลาสเซ่น ก่อนบอลมาถึง โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย

    จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน นำ 1-0

    ในครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน นำห่าง 2-0 รามิเรซ ทำทางให้ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กองหน้าวัย 20 ปี หวดด้วยซ้ายระยะเผาขนเข้าประตู นาที 51 นับเป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้

    แปดนาทีต่อมา คัลเวิร์ต-เลวิน เกือบทำแฮท-ทริค เมื่อเขาโขกหน้าประตู บอลพุ่งชนเสาขวาอย่างจัง

    ขณะที่ซันเดอร์แลนด์ มีลุ้นจากลูกโหม่ง 6 หลาของ เจมส์ วอห์น ทว่าบอลเข้าข้างตาข่ายนาที 69

    และนาที 76 วอห์น ได้โขกหน้าประตู ก็หลุดกรอบออกไปอย่างน่า

    ท้ายเกม นาที 83 เจ้าถิ่นได้ประตูปิดท้ายนำห่าง 3-0 ทอม เดวิส มิดฟิลด์เปิดแม่นยำไปที่ อูมาร์ แนสส์ หัวหอกตัวสำรอง ซัลโวเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเรียบร้อย

    จบเกม เอฟเวอร์ตัน ต้อน ซันเดอร์แลนด์ ขาดลอย 3-0 นับเป็นชัยชนะนัดแรกของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ในรอบ 7 เกมหลังสุด

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เอฟเวอร์ตัน : มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก - จอนโจ เคนนี่, ไมเคิล คีน, แอชลี่ย์ วิลเลียมส์, เมสัน โฮลเกท - ทอม เดวิส, มูฮาเหม็ด เบซิช, ดาวี่ คลาสเซ่น - โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน, ซานโดร รามิเรซ, นิโกล่า วลาซิช

    ซันเดอร์แลนด์ : เจสัน สตีล - บิลลี่ โจนส์, โดนัลด์ เลิฟ, ลามิเน่ โกเน่, อดัม แม็ทธิวส์ - ดาร์รอน กิ๊บสัน, แจ็ค ร็อดเวลล์, ดิดิเย่ร์ เอ็นดงช์, จอร์จ ฮันนี่แมน - เจมส์ วอห์น, ลิย์นเดน กูช

    ผู้ตัดสิน : โอลิเวอร์ แล็งฟอร์ด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »