เชลซี แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก เจอข่าวร้ายเมื่อ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ต้องพักแข้งใน 6 นัดถัดไปแน่นอน หลังจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าระหว่างไปรับใช้ทีมชาติเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ก็องเต้ จะเริ่มต้นพลาดลงสนามตั้งแต่นัดไปเยือน คริสตัล พาเลซ วันเสาร์นี้ ต่อด้วยเจอ โรม่า ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก, รับมือ วัตฟอร์ด ในลีก, พบ เอฟเวอร์ตัน ในศึก คาราบาว คัพ, เจอ บอร์นมัธ ในลีก และไปเยือน โรม่า ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก

ดาวเตะร่างเล็ก คือคีย์แมน "สิงโตน้ำเงินคราม" หลังนำทัพคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก นับเป็นการชูโทรฟี่แชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษปีที่สองติดต่อกันกับสองโมสร แถมด้วยรางวัลผู้เล่นแห่งปีสองสถาบันทั้งสมาคมนักเตะอาชีพและสมาคมนักข่าว

นอกจากผลงานบนสนามแล้ว ไลฟ์สไตล์ของดาวเตะผิวหมึก ก็เป็นที่ชื่นชมเช่นกัน วันนี้ทีมงาน Siamsport ขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ ที่คุณอาจไม่รู้ของ ก็องเต้ มานำเสนอ...

1. หวิดเป็นนักบัญชี

สมัยเด็กๆ เขาเรียนบัญชี และวางแผนว่า จะเป็นนักบัญชีหากไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพตามที่ฝันไว้

"ตอนนั้น ผมเล่นให้ทีมชุดสองของ บูโลญจ์น ในทีมสำรอง ในลีกระดับหก จากนั้นก็ขึ้นมาห้า ผมยังไม่ได้เป็นนักเตะอาชีพ ดังนั้น ผมก็เลยต้องตั้งใจเรียน เผื่อจะประกอบอาชีพอื่นๆ"

     "ตอนอายุ 18 ผมสอบได้ จากนั้น ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอีก 2 ปี แต่พอผมขึ้นทีมชุดใหญ่ได้ และกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมก็เลยหยุดเรียน จริงๆ ผมสอบเป็นนักบัญชีได้ แต่ตอนนี้ ขอทุ่มสมาธิให้กับฟุตบอลมากกว่า"

 
2. ขับรถเล็กๆ มือสอง

ทุกวันนี้ แม้จะมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองจากค่าแรงกว่า 110,000 ปอนด์ (ราว 4.95 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แต่เขากลับยังคงขับรถ มินิ คันเล็กจิ๋ว ไม่ใช่รถซูเปอร์คาร์สุดหรูเหมือนสตาร์ดังในพรีเมียร์ลีกคนอื่นๆ

สำหรับรถมินิคันนี้ ว่ากันว่า เป็นรถมือสองด้วย และมีคนมอบให้เป็นของขวัญ ตอนที่เขาย้ายมาอังกฤษใหม่ๆ และไม่มีเงินมากพอ

"ผมไม่ใช่คนบ้ารถ ผมก็เลยไม่ได้ฝันว่าอยากจะมีมากมมายอะไร ส่วนรถมินิคันนี้ ตอนแรกๆ ก็สนุกในการเรียนรู้การขับพวงมาลัยซ้าย ผมได้ตั้งแต่สมัยเล่นให้ เลสเตอร์ และยังใช้อยู่ รถใช้ดีมาก"

3. จริงๆ แล้วไม่อยากได้รถด้วยซ้ำ!

อันที่จริง ความสมถะของเขา มันยิ่งน่าประทับใจกว่าที่คุณเคยรับรู้มาอีก โดย แดเนี่ยล เทย์เลอร์ นักข่าวสังกัดสื่อน้ำดีอย่าง "เดอะ การ์เดี้ยน" เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เป็นอดีตเพื่อนเก่าของ ก็องเต้ ที่ เลสเตอร์ ว่า จริงๆ แล้ว แข้งจอมขยัน ไม่ได้ต้องการมีรถขับด้วยซ้ำไป

"ตอนย้ายสู่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ใหม่ๆ มีคนพูดกันมากเรื่อง ก็องเต้ อยากขับรถมินิ แทนที่จะเป็นรถแต่งหรูราคาแพงที่เป็นรถในฝันของหลายๆ คน แต่จริงๆ แล้ว ตอนที่ ก็องเต้ ย้ายมา เลสเตอร์ ใหม่ๆ เขายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า ต้องการมีพาหนะส่วนตัว" เทย์เลอร์ เล่าไว้ในคอลัมน์สุดเอ๊กซ์คลูซีฟของตัวเอง

"เรื่องมันยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ ก็องเต้ คิดถึงความเป็นไปได้ในการวิ่งมาซ้อมทุกๆ วัน แต่ถูกเพื่อนท้วงไว้ว่า นั่นไม่ใช่เรื่องปกติในพรีเมียร์ลีกนะ" เทย์เลอร์ เปิดเผยโดยยืนยันว่า ก็องเต้ ไม่ได้แค่อยากขับมินิ แต่เขายังไม่อยากมีรถ และใจจริง อยากวิ่งมาซ้อม แล้ววิ่งกลับบ้านไปใช้ชีวิตอย่างสงบด้วย

4. ถึงไม่มี ทีวี ตู้เย็น ก็ไม่เห็นเป็นไร

นอกจากนี้ ทีมงาน Siamsport ยังได้รับการเปิดเผยจาก มาสเตอร์ คนองพจน์ สิทธิเทศานนท์ ที่เคยไปดูแลเยาวชนไทยที่ เลสเตอร์ ว่า ก็องเต้ เป็นนักเตะที่น่าชื่นชมในโลกลูกหนังยุคนี้ มุ่งมั่นสร้างผลงานในสนามด้วยฝีเท้า ตั้งใจซ้อม ไม่มีปากเสียงกับใคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่เคยฟุ่มเฟือย เพราะสำเหนียกเสมอว่าครอบครัว ญาติพี่น้องมาจากความยากลำบาก เงินที่ได้จากการค้าแข้งจึงใช้สอยอย่างประหยัด

มาสเตอร์ คนองพจน์ เผยว่า สมัย ก็องเต้ อยู่ เลสเตอร์ มีความสนิทสนมกับตนมาก และไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ โดย ก็องเต้ อาศัยอยู่แฟลตห้องธรรมดา ในห้องไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ขับรถมือสอง ไม่ชอบเที่ยว และรักความสงบ ครั้งหนึ่ง ตอนก่อนย้ายจากคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ไป เชลซี เคยมีนักเตะดังในทีม "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ซื้อนาฬิกายี่ห้อหรูราคาแพงระยับมาใส่ ตนได้ถามว่า ทำไมไม่ซื้อมาใส่บ้าง ก็องเต้ ยิ้มแล้วตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ยูรู้ไหมราคานาฬิกาเรือนนี้สามารถตีเป็นเงินเลี้ยงญาติพี่น้องที่บ้านเกิดผมราว 20 คนได้ถึง 1 ปีเลยนะ!"

5. แมวเก้าชีวิต

เชื่อหรือไม่ว่า มิดฟิลด์จอมขยันที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง เคยเล่นในลีกระดับดิวิชั่นเก้าของฝรั่งเศส เมื่อเจ็ดปีที่แล้วนี้เอง กับสโมสร ซูแรนส์ ชานกรุงปารีส ก่อนจะผ่านเส้นทางอันยาวไกลกว่าจะถึงพรีเมียร์ลีกอย่างทุกวันนี้

เริ่มจากย้ายไป บูโลญจ์น ในดิวิชั่นสาม ซึ่งหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมอย่าง เซดริก ฟาเบียง เล่าให้ฟังว่า "นอกสนาม เขาเงียบ แต่ในสนาม เขาเหมือนปีศาจร้าย ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยเห็นใครวิ่ง วิ่ง และวิ่ง บ้าคลั่งเหมือนเขามาก่อน"

"นอกจากนี้ เขายังมีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งมาก เขาสามารถเล่นเกมให้จบ แล้วไปวิ่งมาราธอนต่อได้สบายๆ"
    

6. เด็กแว้น

ย้อนกลับไปสมัยอยู่ บูโลญจ์น ระหว่างปี 2010 และ 2013 พ่อหนุ่มจอมขยันอย่าง ก็องเต้ ยังไม่มีเงินพอซื้อรถ 
เขาไม่สนอยู่แล้ว และสบายๆ กับการขับรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ ไปซ้อมแล้วก็กลับบ้าน

7. เกือบไม่ได้ย้ายซบจิ้งจอก

ก็องเต้ เกือบจะย้ายเข้ารัง มาร์กเซย เมื่อปี 2015 แทนที่จะเป็นผู้เล่น เลสเตอร์

เขายอมรับว่า ต้องการเดินตามรอยเท้าตำนานสโมสรอย่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ และ ซามีร์ นาสรี่

"ตอนนั้น สโมสรที่ต้องการผมก็มีอย่าง มาร์กเซย และ เลสเตอร์ ผมคิดว่า ผมผ่านงานที่ฝรั่งเศสแล้ว ผมจำได้ นักเตะดังๆ อย่าง มามาดู เนียง, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ ซามีร์ นาสรี่ และ มาร์กเซย คือทีมที่ผมชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้เล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก"

แต่เมื่อตัดสินใจย้ายสู่ เลสเตอร์ ทุกอย่างก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกสองปีกับสองสโมสร คือ เลสเตอร์ (2015-16) และต่อมาคือ เชลซี (2016-17) ที่หลายคนมองว่า ทำหน้าที่มิดฟิลด์ตัวรับได้ไม่แพ้อดีต 2 แข้งตราไก่ในถิ่น เดอะ บริดจ์ อย่าง โคล้ด มาเกเลเล่ และ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า เลย