ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » เปิดสถิติโค้ชใหม่ "คอนซะ" ให้นิยามว่า "มวยแลกหมัด"

เปิดสถิติโค้ชใหม่ "คอนซะ" ให้นิยามว่า "มวยแลกหมัด"

Posted 04/12/2017 by siamsport

หลังจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ประกาศแต่งตั้ง มิไฮโล เปโตรวิช อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเข้ามากุมบังเหียนทีมอันดับ 11 ของตารางใน เจ ลีก ซีซั่น 2018 พร้อมกับมีกุนซือคนเก่าอย่าง ชูเฮ โยโมดะ ในฐานะผู้ช่วยที่จะอยู่กับทีมต่อไป

แต่มีเครื่องหมายคำถามว่า เฮดโค้ชตาน้ำข้าวจากเซอร์เบียรายนี้ จะสามารถเค้นศักยภาพของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ออกมาได้หรือไม่ เพราะด้วยการเล่นของดาวเตะทีมชาติไทย ที่จะเล่นบอลกับพื้นเสียเป็นส่วนใหญ่ ประกอบด้วยปีที่ผ่านมา ชูเฮ โยโมดะ มักจะเลือกให้ทีมใช้สไตล์ บอลโยนยาวเป็นหลัก ตลอดจนการเล่นเกมรับเพื่อโต้กลับเท่านั้น

วันนี้เราจะทำการเปิดโผรไฟล์การทำงาน 11 ปีบนแผ่นดินญี่ปุ่นของกุนซือวัย 60 ปีรายนี้ หลังจากได้ตกลงเข้ามารับงานในถิ่น ซัปโปโร โดม ซีซั่น 2018

 

มิไฮโล เปโตรวิช เข้ามาทำงานในญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2006 กับ ซานเฟรสเช่ ฮิโรชิม่า แทนที่ของ คาซูโยริ โมชิซูกิ ด้วยผลงาน 22 นัด ใน เจ ลีก ชนะ 11 เสมอ เสมอ 2 แพ้ 9 เกม ได้ 40 เสีย 28 ลูก ทำให้ทีมเก็บแต้มรวมไปที่ 45 คะแนน จบอันดับ 10

แถมยังเป็นการประเดิมได้สวยหรูใน เจ ลีก ปีนั้นของเขา เนื่องจากกุนซือคนเก่าทำไว้ 12 เกมแรกของปี 2016 ยิงไปเพียงแค่ 10 เม็ดเท่านั้น แต่ซีซั่น 2007 เขาพาทีมตกชั้น เมื่ออยู่ในอันดับ 16 ชนะ 8 เสมอ 8 แพ้ 18 ยิงได้ 44 เสีย 71 ลูก เก็บไปได้ 32 คะแนน เท่ากับว่าเป็นการสร้างทีมแบบ "มวยแลกหมัด" จริงๆ

ซีซั่น 2008 มิไฮโล เปโตรวิช สร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นกับ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ด้วยการชนะ 31 เสมอ 7 แพ้ 4 ยิง 99 เสีย 35 ลูก เก็บไป 100 แต้ม ทะยานจาก เจ ทู ด้วยการคว้าแชมป์ ขึ้นมายัง เจ ลีก ในฤดูกาล 2009 ได้อย่างสง่าผ่าเผย พ่วงด้วยแชมป์ ซุปเปอร์ คัพ 2008

 

และด้วยการทำทีมแบบเปิดเกมรุก ทำให้ปี 2009 เขาสร้าง ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า ให้จบอันดับ 4 ใน เจ ลีก กับผลงาน ชนะ 15 เสมอ 11 แพ้ 8 ยิง 53 เสีย 44 ลูก ฟาดไป 56 คะแนน พร้อมกับพาทีมเข้าไปเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2010 รอบแบ่งกลุ่ม

ต่อกันปี 2010 สไตล์การทำทีมของ มิไฮโล เปโตวิช พา ซานเฟรสเช่ ฮิโรชิม่า จบที่ 7 ของตารางใน เจ ลีก ด้วยผลงาน ชนะ 14 เสมอ 9 แพ้ 11 ได้ 45 เสีย 38 ลูก เก็บไป 51 แต้ม ถือว่าค่าเฉลี่ยในการส่งบอลเข้าตาข่ายฝั่งตรงข้ามอยู่ที่ 1.3 เปอร์เซ็นต์ต่อนัดเท่านั้น

ซีซั่นสุดท้ายของการทำงานในถิ่น ซานเฟรสเช่ ฮิโรชิม่า ของกุนซือรายนี้ เข้าทำให้ลูกได้เสียอยู่ที่ +3 จาก ชนะ 14 เสมอ 8 แพ้ 12 ได้ 52 เสีย 49 ประตู มี 50 คะแนน จบอันดับ 7 ก่อนที่จะแยกทางกันในปี 2011 ฝากผลงานตลอด 5 ปี ครั้งรวมแล้ว ได้ 333 ลูก เสีย 265 ประตู คิดเป็นการชนะอยู่ที่ 46.50 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 1 ม.ค.2012 เขามารับงาน อูราวะ เรด ไดม่อนส์ พาทีมจบอันดับ 3 กับผลงาน ชนะ 15 เสมอ 10 แพ้ 9 ได้ 47 เสีย 42 ประตู เก็บไป 55 คะแนน ก่อนจาทีมเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2013

ถัดมาปี 2013 ยอดทีมจากถิ่น ไซตามะ สเตเดี้ยม กลับจบในอันดับ 6 ของ เจ ลีก ด้วยการชนะ 17 เสมอ 7 แพ้ 10 ได้ 66 เสีย 56 ประตู มี 58 แต้ม เฉลี่ยแล้วยิงได้เกือบ 2 ลูกต่อนัดเลยด้วยซ้ำ ยิ่งตอกย้ำว่าเขาเป็นโค้ชที่ทำทีมแบบลุยแหลกอย่างแท้จริง

กระนั้นก็ดีค่าเฉลี่ยการทำสกอร์ของ อูราวะ เรด ไดม่อนส์ ลดลงไปในซีซั่น 2014 เมื่อ ชนะ 18 เสมอ 8 แพ้ 8 ได้ 52 เสีย 32 มี 62 คะแนน ทว่าพวกเขายังสามารถจบในฐานะรองแชมป์ของลีกสูงสุดญี่ปุ่น พาตัวเองเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2015 ได้สำเร็จ

 

เจ ลีก ปี 2015 มิไฮโล เปโตรวิช พาทีมขับเคี่ยวโทรฟี่อย่างเมามันส์ ด้วยการชนะ 21 เสมอ 9 แพ้ 4 ได้ 69 เสีย 40 ลูก มี 72 แต้ม ทว่าเข้าป้ายแค่รองแชมป์ หลังจาก ซานเฟรสเช่ ฮิโรชิม่า ทีมเก่าของเขาได้แชมป์ไปครอง ด้วยการเฉือนไปแค่ 2 แต้มเท่านั้น

ในปี 2016 อูราวะ เรด ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมหลังทำสถิติชนะ 23 เสมอ 5 แพ้ 6 ยิงได้ 61 เสีย 28 ลูก เก็บไป 74 คะแนน จากซีซั่นปกติ จากผลงานสเตจแรกที่จบด้วยอันดับ 3 ทว่า สเตจที่สอง พาทีมจบด้วยอันดับ 1 ทำให้เข้าไปชิงชัยในรอบไฟนอลกับ คาชิม่า แอนเลอร์ส แชมป์สเตจแรก ซึ่งนัดแรกพวกเขาบุกไปคว้าชัยมาได้ถึงรัง คาชิม่า ซ้อคเกอร์ส 1-0 แต่ในนัดที่สองต้องมาเสียสองประตูในบ้านพ่ายไป 1-2 สกอร์รวมสองนัด 2-2 แต่ คาชิม่า คว้าแชมป์เจลีกด้วยกฎประตูทีมเยือน ทำให้กุนซือวัย 60 ปี ชวดซิวแชมป์ฉลองการทำงานครบรอบ 10 ปี ในถิ่นแดนปลาดิบอย่างน่าเสียดาย

ทว่าปี 2017 ทำทีมไป 20 นัด ชนะ 9 เสมอ 2 แพ้ 9 ได้ 45 เสีย 36 ก่อนที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่ง จากผลงานที่ย่ำแย่ต่อเนื่อง 8 เกม ชนะ 2 แพ้ 6 ตกไปอยู่อันดับที่ 8 ของตารางคะแนน และการออกไปแพ้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 0-2 เมื่อวันที่ 29 ก.ค.60 ทำให้กลายเป็นเกมสุดท้ายของเขาในการคุมทีมอีกด้วย

 

สรุปแล้ว 5 ปีครึ่งกับ อูราวะ เรด ไดม่อนส์ ซัดคู่แข่งไป 340 ดอก เสีย 234 เม็ด ซึ่งการทำงานในถิ่นไซตามะ มักจะยิงได้มากกว่าโดนเจาะเสียอีก เพราะเฉลี่ยแล้วมี 52.21 ในการเอาชนะคู่แข่ง แต่นั่นคือทีมใหญ่ที่อุดมไปด้วยนักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมกว่า คอนซาโดเล่ ซัปโปโร

 มิไฮโล เปโตรวิช จะช่วยตอบโจทย์การเล่นของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในการต่อบอลกับพื้นพร้อมกับทะยานไปข้างหน้า และล่าตาข่ายอย่างบ้าคลั่งได้หรือไม่ อีกไม่กี่เดือนช่วงที่เขาจะกลับไปเข้าแคมป์เพื่อลุย เจ ลีก 2018 น่าจะเป็นคำตอบได้แน่นอน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »