ส่งตรงถึงที่ กับ 5 ประเด็นในเกมสุดดราม่า ศึกเอฟเอคัพ รอบที่ 4 ที่หงส์แดงเปิดแอนฟิล์ดพ่ายเดอะ แบ็กกี้ส์ ไป 1-3 จะมีเรื่องน่าสนใจอะไรบ้าง ไปดูกัน !!

1.ลิเวอร์พูลจอดรอบ 4เอฟเอ คัพ 3 ฤดูกาลติด

  ลิเวอร์พูลไม่เคยผ่านรอบ 4 ในถ้วยเอฟเอคัพเลย ตลอดทั้ง 3 ซีซั่นที่เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาคุม โดยในฤดูกาล 2015/2016 แพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และในปี 2016/2017 แพ้ให้กับวูล์ฟแฮมป์ตัน และล่าสุดก็แพ้ให้กับเวสต์บรอมวิชในรอบ 4 เช่นกัน อาจมองได้ว่า เจอร์เก้น คลอปป์คงไม่ถูกกับถ้วยนี้สักเท่าไหร่

2.ดราม่าVAR

   เชื่อว่า ในนาทีนี้ ทั้งแฟนบอลของหงส์แดง และเดอะ แบ็กกี้ส์คงไม่มีใครไม่พูดถึง VAR หรือVideo Assistant Referee ที่ถูกนำมาใช้ในจังหวะสำคัญหลายๆจังหวะ ทั้งช็อตที่ เคร็ก ดอว์สัน โหม่งเข้าประตูไป แต่ เคร็ก พาวสัน ผู้ตัดสิน เช็ก VAR ก่อนตัดสินใจให้ทีมเยือนไม่ได้ประตู เนื่องจาก เจค ลิเวอร์มอร์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและมีส่วนกับการได้ประตู ขณะที่อีกจังหวะที่สำคัญเกิดขึ้นในครึ่งเวลาแรกเช่นเดียวกัน คือจังหวะที่ซาลาห์ ล้มไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ผู้เล่นลิเวอร์พูลจะเรียกร้องให้มีการใช้ VARและเป็นอีกครั้งที่ผู้ตัดสินต้องใช้ VAR ในการช่วย โดยในครั้งนี้ เชิ้ตดำต้องวิ่งไปดูภาพช้าด้วยตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินชี้ให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษ แต่โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ยิงไม่ไปชนคานอย่างจัง หลังจากนั้นก็ได้มีการใช้ VAR เรื่อยๆ ตลอดการแข่งขัน เรียกว่าดราม่ากันสุดๆ

3.เกมรับลิเวอร์พูลสุดห่วย

   ลิเวอร์พูลเสียประตูจากความผิดพลาดของแนวรับไล่ตั้งแต่มิดฟิล์ดตัวรับอย่าง เอ็มเร่ ชาน รวมถึง จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ที่ไม่ได้มีส่วนช่วยในเกมเลย กองหลังทั้งเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่เข้าบอลโฉ่งฉ่างในลูกแรก และยังเช็กไลน์ไม่ดีในลูกสุดท้าย รวมถึง อัลแบร์โต้ โมเรโน่ ขณะที่คู่เซ็นเตอร์อย่าง โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และในวันที่กองหลังพากันผิดพลาด มินโญเล่ต์ก็เป็นคนเดิมไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก โดยนายด่านชาวเบลเจี้ยนก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้ เรียกว่า เกมรับในวันนี้ของลิเวอร์พูลสอบตกกันยกแผง

4.ซาล่าห์ยังสุดยอด

   แม้เกมรับลิเวอร์พูลจะย่ำแย่ขนาดไหน แต่ถ้าพูดถึงแนวรุกอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ นั้นเรียกว่ายังคงยิงได้สม่ำเสมอโดยในนัดนี้ เจ้าตัวเป็นคนยิงลูกไล่ตาม 2-3 ให้กับเจ้าถิ่นในนาทีที่ยิงประตูที่ 78 โดยดาวเตะอียิปต์ ยิงให้กับลิเวอร์พูลไปแล้ว 25 ลูก จาก 32 นัด ในฤดูกาลนี้

5.ไม่มีคูตี้?

แผงกองกลางในเกมที่เอาชนะแมนฯซิตี้ได้ อาจเป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อเทียบกับสองเกมล่าสุด การไม่มีอดีตกองกลางหมายเลข10 จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ลิเวอร์พูลขาดหายไปในเรื่องของการสร้างสรรค์เกม โดยเกมที่อึดอัดแบบนี้การมีคูตินโญ่ จะช่วยเพิ่มมิติการเล่นเกมรุกทั้งการยิงไกลและการจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาส ซึ่งจุดนี้เองที่หาไม่ได้เลยจากกองกลางของลิเวอร์พูลในเกมนี้

เจอร์เก้น คล็อปป์ควรทำการบ้านเร่งแก้ไขในจุดนี้โดยด่วน มิเช่นนั่นหงส์แดง อาจจะต้องจบฤดูกาลโดยที่ไม่มีอะไรติดมือเลย แม้กระทั่งตั๋วฟุตบอลยุโรป

6.ชัยชนะในรอบ 5 ปี ของเวสต์บรอมวิช

ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกเหนือลิเวอร์พูลในถิ่นแอนฟิลด์ ในรอบ 5 ปีของเดอะ แบ็กกี้ส์นับตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 นอกจากนี้เวสบรอมฯเป็นทีมแรกที่บุกมายิงได้ถึง 3 ลูกที่แอนฟิลด์ในครึ่งเวลาแรก นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2014 ที่เรอัล มาดริดได้ทำไว้ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 ที่หงส์แดง เสียถึง 3 ประตู ในบ้าน สองเกมติดต่อกัน