โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอก เชลซี ระบุ ต้องการลงเล่นจนทำให้ตัดสินใจบอกลา อาร์เซน่อล พร้อมแจง "สิงโตน้ำเงินคราม" เป็นตัวเลือกแรกของตนอยู่เสมอ

ชิรูด์ ส่อแววหมดอนาคตกับ อาร์เซน่อล ทันที ในตอนที่ "ไอ้ปืนใหญ่" ตัดสินใจที่จะคว้าตัว ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบองมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งตอนแรกหัวหอกดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสตกเป็นข่าวว่าอาจจะไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสัญญายืมตัว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอที่ทีมของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ จะดึง โอบาเมยอง มาเสริมคม

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ชิรูด์ ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ เชลซี แทน ซึ่งมันถือเป็นการช่วย อาร์เซน่อล ทางอ้อม เพราะมันส่งผลให้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ยอมปล่อย มิชี่ บาตชูอายี่ กองหน้าชาวเบลเยียมไปให้ ดอร์ทมุนด์ ในสัญญายืมตัว พร้อมทำให้ "เสือเหลือง" เต็มใจที่จะขาย โอบาเมยอง ให้ยอดทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ชิรูด์ ซึ่งในฤดูกาล 2017-18 ได้ลงเป็นตัวจริงในลีกให้ อาร์เซน่อล ไปเพียงเกมเดียวนั้น ให้สัมภาษณ์กับ ฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อของบ้านเกิดว่า "ผมอยากมีความสุขจากการได้ลงเล่นอีกครั้ง ผมก็เลยย้ายออกมา มันก็แค่นั้นแหละ ที่ อาร์เซน่อล น่ะ อนาคตของผมมืดลงทันทีจากการที่มีกองหน้าคนใหม่ย้ายเข้ามา"

"มันจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นอย่างนั้นต่อไปไม่ได้ ผมไม่สามารถอยู่กับ อาร์เซน่อล ต่ออีก 1 ปีในสภาพที่ต้องทนเป็นอะไหล่ของทีมต่อไปได้ คือถ้ามันไม่มีใครที่เล่นในตำแหน่งเดียวกับผมย้ายเข้ามาแล้วล่ะก็ ผมก็คงอยู่กับพวกเขาต่อแล้ว แต่ถ้าเกิด อาร์เซน่อล เอากองหน้าคนใหม่เข้ามา ผมก็ต้องย้ายออกมา ในหัวของผมน่ะเป้าหมายมันชัดเจนมาก ผมพร้อมสำหรับเรื่องนั้นอยู่แล้ว" แข้งวัย 31 ปี ระบุ

ดาวเตะเลือดน้ำหอมเผยว่าตลอดช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบสอง ที่เพิ่งปิดตัวลงไปนั้น เชลซี เป็นตัวเลือกแรกของตนเสมอ "ทางเลือกของผมมันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะการไป เชลซี เป็นการย้ายขาด ไม่ใช่แบบยืมตัวเหมือนกับของ ดอร์ทมุนด์ ถ้าผมไปที่นั่น (ดอร์ทมุนด์) แล้วล่ะก็ สุดท้ายแล้วมันก็อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยก็ได้"

"ถ้าผมกลับไปที่ อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์นี้ ผมก็อาจจะเจอสถานการณ์แบบเดิมอยู่ดี มันจะเป็นการกลับไปเจอปัญหาเดิมๆ ผมได้คุยกับโค้ช (อาร์แซน เวนเกอร์) เยอะมาก และรู้สึกได้ว่าเขาอยากเอาใครบางคนเข้ามาร่วมทีม ผมรู้จักวงการนี้มากพอจนเข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้วผมก็มีโอกาสอยู่ต่อแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ผมต้องมีแผนสำรอง"

"นั่นทำให้พอถึงจุดๆ หนึ่งแล้วนั้น ผมจึงจำเป็นต้องบีบบังคับสถานการณ์และทำให้มันเร็วขึ้นนิดหน่อย ผมไม่อยากต้องมานั่งทนทุกข์ และทำได้เพียงนั่งดูสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงนั่งรอโชคชะตาของผม ผมเข้าไปคุยกับโค้ชแล้วถามเขาว่าสถานการณ์การซื้อ โอบาเมยอง มันถึงไหนแล้ว"

"ผมกดดันเขานิดหน่อยหลายครั้งต่อวัน เหมือนที่เอเยนต์ของผมทำ มันเป็นเรื่องธรรมดานะ ผมไม่อยากพลาดโอกาสการย้ายไป เชลซี เพราะมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดของผม ซึ่งโค้ชบอกกับผมทันทีว่า -อย่าห่วงเลย ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อทำให้นายมีความสุขเอง- ผมรู้ดีว่าเขาไม่มีทางกลับคำพูดหรอก เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่เสมอ" ชิรูด์ กล่าว