"สิงห์บลูส์" หลังอกหักซีซั่นก่อนได้แค่รองแชมป์มาปีนี้ฟอร์มสุดเขี้ยวเบียดเอาชนะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้แบบสุดมันส์ 1-0 จากประตูชัยของ เอแด็น อาซาร์ ที่ซัดจุดโทษในช่วงครึ่งเวลาแรก ส่งผลให้ เชลซี ผงาดซิวแชมป์เป็นสมัยที่ 8 ในเกมเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา

เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ 2017-18
วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2561
เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0

สนาม : เวมบลีย์ (ลอนดอน)

    "สิงห์บลูส์" แชมป์เอฟเอ คัพ 7 สมัย บดเอาชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศพบกับ "ปีศาจแดง" แชมป์รายการนี้ 12 สมัย ที่เฉือนเอาชนะ สเปอร์ส มาได้แบบหืดจับ 2-1

    เกมนี้ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเชลซี วางใจ เอแด็น อาซาร์ ปั้นเกมรุกข้างหลังหอกเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์  ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เลือก มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นกองหน้าคู่กับ อเล็กซิส ซานเชซ โดยให้ เจสซี่ ลินการ์ด ยืนหน้าต่ำ ขณะที่ โรเมลู ลูกากู ฟิตไม่
พร้อมเป็นตัวจริง

    10 นาทีแรกผ่านไป "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ลุ้นก่อน เอแด็น อาซาร์ ลากบอลจี้เข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนตะบันยัดเสาแรก ดาบิด เด เคอา ใช้ขาเซฟไว้ได้ก่อน อันเดร์ เอรืเรร่า โหม่งสกัดออกไป

    4 นาทีถัดมา เชลซี หวังเอาจุดโทษจากจังหวะที่ ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ โดน เนมานย่า มาติช เหนี่ยวจนล้มลงไปในเขตโทษ แต่ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน ไม่ว่าอะไร

    นาที 16 แมนฯ ยูไนเต็ด หวังเอาจุดโทษบ้างจากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ ถูก วิคเตอร์ โมเสส ดึงไหล่จนเสียจังหวะในเขตโทษแต่ยังไม่มีเสียงนกหวีดเหมือนเดิม

    และแล้วใน นาที 21 "สิงห์บลูส์" ได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอแด็น อาซาร์ สปีดหนี ฟิล โจนส์ เข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนโดน โจนส์ ตามไปแซะจนล้มไปกองกับพื้น และ โจนส์ ถูกใบเหลืองด้วย อาซาร์ ลุกขึ้นมาสังหารเองทางมุมล่างขวาเสียบตาข่ายเป็น
ประตู 1-0

    เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก "ปีศาจแดง" ได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะส่องไกลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายของ ปอล ป๊อกบา พุ่งหลุดหน้าต่างเสาแรกออกไป

    นาที 45 จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนโหม่งสกัดออกมา แอชลี่ย์ ยัง เก็บได้ริมเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนครอสข้ามไปเสาไกล ฟิล โจนส์ เทกตัวโหม่งแต่ไม่เต็มหัวหลุดเสาขวามือไปไม่ไกล

    ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก "ปีศาจแดง" ได้ลุ้นส่งท้าย ปอล ป๊อกบา สอดไปรับบอลในเขตโทษจาก อเล็กซิส ซานเชซ ก่อนจิ้มตอ่ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงไม่เต็มเท้าติดบล็อกอย่างน่าผิดหวัง จบ 45 นาทีแรก เชลซี นำก่อน 1-0

    กลับมาต่อครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าโหมบุกหนักกว่าเดิม นาที 53 จากฟรีคิกริมเขตโทษฝั่งซ้าย มาร์คัส แรชฟอร์ด กระหน่ำด้วยขวายัดไปหน้าประตู แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังชกออกไปได้

    3 นาทีถัดมา "ปีศาจแดง" น่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กดด้วยขวาเต็มเท้าหน้าเขตโทษแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก็ยังป้องกันไว้ได้สวย

    นาที 58 อันโตนิโอ วาเลนเซีย โดนใบเหลืองหลังไปดัก เอแด็น อาซาร์ ในจังหวะลุ้นสวนกลับเร็ว

    ชั่วโมงแรกผ่านไป 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ฟรีคิกกราบขวา มาร์คัส แรชฟอร์ด โยนเข้ากลางใหเ ฟิล โจนส์ ก้มหัวโหม่งจะเสียบเสาขวามืออยู่แล้วแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ พุ่งปัดไว้ได้ อเล็กซิส ซานเชซ ตามซ้ำเข้าไปได้แต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อน

    นาที 71 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เชลซี เกือบได้เพิ่ม มาร์กอส อลอนโซ่ ได้สับไกด้วยขวาในเขตโทษฝั่งขวาแต่ติดเซฟ ดาบิด เด เคอา บอลเคลียร์ไม่ขาดก่อน วิคเตอร์ โมเสส เปิดไปโดนแขน แอชลี่ย์ ยัง ทว่าผู้ตัดสินให้แค่ลูกเตะมุม

    10 นาทีสุดท้าย "ปีศาจแดง" ลุ้นจากจังหวะส่องไกลระยะร่วม 25 หลาของ เนมานย่า มาติช พุ่งเข้ากรอบแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยังทุบไปได้อีกครั้ง

    แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมฝั่งซ้ายใน นาที 82 อองโตนี่ มาร์กซิยาล ตัวสำรอง เปิดไปกลางประตู ปอล ป๊อกบา เทกตัวโหม่งโล่งๆ แต่สะบัดมากไปบอลหลุดเสาไกลออกหลังอย่างเสียดาย

    ช่วงเวลาที่เหลือ "ปีศาจแดง" โหมบุกหนักแต่ก็ยังยิงไม่ได้อยู่ดี จบเกม เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 8
   
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, วิคเตอร์ โมเสส, ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เชส ฟาเบรกาส, มาร์กอส อลอนโซ่, เอแด็น อาซาร์ (วิลเลี่ยน น.90), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (อัลบาโร่ โมราต้า น.89)

    สำรองไม่ได้ใช้ : วิลลี่ กาบาเยโร่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, เปโดร โรดริเกซ, ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, เทรโวห์ ชาโลบาห์

    ใบเหลือง : ติโบต์ กูร์กตัวส์

    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์ (ฆวน มาต้า น.87), คริส สมอลลิ่ง, แอชลี่ย์ ยัง, อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา, เจสซี่ ลินการ์ด (อองโตนี่ มาร์กซิยาล น.73), มาร์คัส แรชฟอร์ด (โรเมลู ลูกากู น.73), อเล็กซิส ซานเชซ 

    สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ โรเมโร่, เอริก ไบยี่, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

    ใบเหลือง : ฟิล โจนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย   

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์