ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » ลิเวอร์พูล VS เรอัล มาดริด คุณภาพต่างกัน สำคัญที่วาสนา

ลิเวอร์พูล VS เรอัล มาดริด คุณภาพต่างกัน สำคัญที่วาสนา

Posted 25/05/2018 by siamsport


ถนนทุกสายในเมืองลิเวอร์พูล และกรุงมาดริด มุ่งหน้าไปที่เคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เพื่อเตรียมเป็นสักขีพยานในการฟาดฟันความเป็นเจ้าลูกหนังระดับสโมสรยุโปร ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด แน่นอนว่านี่คือแมตช์หยุดโลก เพราะทั้งสองทีมมีแฟนบอลแท้ และเทียม รวมทั้งกองแช่ง (ฮา) ทั่วโลก !!!

ช่วงที่ผ่านมากระแสความสนใจคู่นี้มีมากมายทั้งการคาดเดาจากบรรดาเกจิอาจารย์ลูกหนัง ทั้งการนำพรหมลิขิตฟุตบอลมาโย่งใยให้เข้ากันออกมาเผยแพร่กันทั่วโลกออนไลน์ ทั้งการเรียกร้องซูเปอร์ฮีโร่ให้มากอบกู้โลก (ฮา) แต่ไม่ว่าจะพูดหรือเขียนอะไรกันก็ตาม บทสรุปทุกอย่างจะได้รู้กันในช่วงคืนวันเสาร์ที่ 26 พ.ค. หรือเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ตามเวลาเมืองสยาม

    พูดก็พูดเหอะหากมองจากขุมกำลังของทั้งสองทีม สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องยอมรับว่าเป็นรองสุดกู่ในเรื่องชื่อชั้นนักเตะ รวมไปถึงประสบการณ์ เพราะแข้ง "ราชันชุดขาว" ชุดนี้ แกนหลักก็เป็นกลุ่มนักเตะหน้าเดิมๆ ที่คว้าแชมป์ 3 จาก 4 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึง ซีเนดีน ซีดาน ผู้ที่ปลุกปั้นทีมชุดนี้จนแกร่งไร้เทียมทาน (คว้าแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน) แทบจะเกือบเป็นทีมจากนอกโลก

 หากวัดกันเรื่องของกุนซือระหว่าง ซีดาน กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ คงไม่มีใครเถียงว่าเรื่องกึ๋นของทั้งคู่ไม่น่าจะต่างกันมาก อาจจะไม่เหมือนกันก็แค่ประสบการณ์ในเรื่องความสำเร็จในรอบชิงฯ (รวมทั้งการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ฮา ฮา)  เพราะฝ่ายนายใหญ่เลือดด๊อยท์ชมักจะล้มเหลวเมื่อถึงเกมสำคัญที่ต้องวัดแชมป์

    แต่ถ้าเรื่องแท็คติกการวางหมาก น่าจะมีมันสมองสูสีกัน เชื่อเหอะหาก "ซิซู" กุมบังเหียน "หงส์แดง" ชุดนี้กล้าฟันธงเลยว่าทีมมีลุ้นพื้นที่ยูโรปา ลีก เท่านั้น สวนทางกันหาก คล็อปป์ ลุยงานกับ เรอัล ขอบอกว่าเกมรุกคงยิงกันกระฉูดแตกยิ่งกว่านี้หลายร้อยเท่าแน่นอน

 

 เมื่อกุนซือมันสมองไม่ต่างกันมาก งั้นมาเช็คขุมกำลังของแต่ละทีม ลองมองดูเกมรุกกับเกมรับของพวกเขา คิดดูละกันเกมรุกของ เรอัล มาดริด ที่นำโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และหากไม่พลิกโผ ซีดาน คงส่ง คาริม เบนเซม่า มาจัดการกับแนวรับที่แกร่งราวกับเนยแข็ง !!?? ของ "เดอะ เร้ดส์" ลองคิดดูซิ เดยัน ลอฟเรน เจอ "โด้" มันจะสยดสยองแค่ไหน หากผีเข้าแข้งโครแอต ทะลึ่งเล่นดีในกรณีนี้ถือว่าโคตรมหาเฮงสุดๆ

    ขณะที่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ น่าจะพอฝากผีฝากไข้ได้ในเรื่องความนิ่งกับลูกกลางอากาศ แต่ถ้า ลอฟเรน เล่นออกทะเลงานนี้ กองหลังดัตช์ ก็คงยากจะรับมือเกมรุกของ เรอัล ส่วนตำแหน่งฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งคงเป็นของ  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในรายของหนูเทรนท์ คงเจอบททดสอบหนักอีกตามเคย ถึงจะพัฒนาฝีเท้าแต่ด้วยประสบการณ์คงโดนเจาะฝั่งซ้ายแหงๆ เหมือนในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ และ โรม่า ซึ่งเขาทำได้ดี แต่เมื่อเจอพวกเจนจัดอย่างทัพ "ราชันชุดขาว" ต้องบอกว่าหนักเอาเรื่องแน่ๆ

 

    อย่างไรก็ตาม เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ชื่อว่ายิงกระจุยไม่เกรงใจชาวบ้านทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็พร้อมลงโทษเกมรับของ เรอัล ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะดีเด่มากนัก และหาก เซร์คิโอ รามอส กับ ราฟาแอล วาราน รวมทั้ง มาร์เซโล่ ทำพลาดเพียงแค่เสี้ยววินาทีลูกบอลอาจจะไปซุกก้นตาข่ายก็ได้

    ในส่วนของกองกลางชื่อชั้นของ โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช, ลูกัส บาซเกซ, มาเตโอ โควาซิช  และ มาร์โก อเซนซิโอ กับฝั่งของสามเต่าทอง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เทียบกันไม่ได้เลย โอเคเรื่องศักยภาพฝีเท้าอาจจะด้อย, ประสบการณ์ก็สู้ไม่ได้ สิ่งที่จะทำให้ 3 มิดฟิลด์ของ "หงส์แดง" เอาชนะได้ก็คือการวิ่งสู้ฟัดแบบไม่มีหมดสไตล์คล็อปป์

สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูระหว่าง เกย์ลอร์ นาบาส กับ ลอริส คาริอุส ทั้งคู่ก็ไม่ใช่โกล์ที่จะฝากความหวังอะไรได้มากนัก หากวันไหนผีปลาหมึกเข้าสิง ก็เซฟอุตลุดแต่ถ้าวันไหนฟอร์มหลุดทีมก็เตรียมพังได้เลย เพียงแต่ว่า นาบาส ค่อนข้างเจองานหนักและบททดสอบมาเยอะ ฉะนั้นเรื่องความนิ่งกินขาด คาริอุส แต่เรื่องความหล่อโกล์เลือดเบียร์เหนือกว่าเยอะ (ไม่เกี่ยวกันเลย)

ก็อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ขุมกำลังของทั้งสองทีมต่างกัน 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงคงไม่หนีไปจากนี้และแน่นอนว่าคุณภาพและประสบการณ์ยังห่างชั้นกัน ขณะที่กำลังสำรองยิ่งต่างกันหนักเข้าไปใหญ่อย่าง แกเร็ธ เบล ซึ่งคาดว่าคงเป็นตัวสำรอง ซีดานคงส่งลงมาหากทีมเกิดเสียเปรียบ หรือส่งมาจัดการปิดเกมหากทีมได้เปรียบก็ได้ หรืออย่าง คาเซมิโร่ ที่เคยเป็นตัวจริง ก็สามารถส่งลงมาเติมเต็มในแผงกลางเพื่อปิดเกมของลิเวอร์พูลได้เช่นกัน

    แล้วเมื่อมองไปที่ซุ้มม้านั่งสำรองของลิเวอร์พูลละจ๊ะ .....โดมินิก โซลันกี้, แดนนี่ อิงส์, รักนาร์ คลาวาน และ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ !!?? เห็นแล้วได้แต่ท้อทอดถอนหายใจ เปลี่ยนใครลงมาก็ไม่สามารถพลิกเกมได้ ไม่ใช่พูดลอยๆ หลักฐานก็มีให้เห็นทั้งเกมกับ แมนฯ ซิตี้ และ โรม่า รวมทั้งอีกหลายเกมในลีก

    สำหรับตอนนี้สิ่งที่ลิเวอร์พูล ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือการเล่นอย่างมีสมาธิตามแผนที่ คล็อปป์ สั่ง ห้ามหมดแรง และตัดความผิดพลาดให้ได้ สุดท้ายก็ขึ้นกับโชคลาภวาสนาหากคนมันจะเป็นแชมป์ต่อให้โดนนำขาดตั้งแต่ครึ่งแรก ก็กลับมาเป็นแชมป์ได้ เฉกเช่นค่ำคืนมหัศจรรย์ที่อิสตันบูล ...!!!!

    ปล.ไม่ว่า ลิเวอร์พูล จะได้เป็นแชมป์ หรืออกหัก ยังไงโลก (โซเชียล) ก็ไม่สงบ เพราะมีแฟนคลับชั้นดีที่พร้อมสวมบทนักเลงคีย์บอร์ดจัดหนักจัดเต็มทุกขนาน งานนี้ฝ่ายไหนเพลี่ยงพล้ำ เตรียมสยองได้เลย !!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »