อภิมหาทัวร์นาเมนต์ปรี-ซีซั่น "อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ" ประจำปี 2018 ปิดฉากลงไปเรียบร้อย เมื่อวันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกมส่งท้ายเป็นการดวลกันระหว่าง แอตเลติโก มาดริด สโมสรดังแห่ง ลา ลีกา สเปน กับ อินเตอร์ มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่จากเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และเป็น "งูใหญ่" ที่บุกเชือด "ตราหมี" 1-0 ถึงสังเวียนแข้ง ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่ จากลูกยิงวอลเลย์สุดสวยของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หัวหอกตัวใหม่ชาวอาร์เจนไตน์
    ทัวร์นาเมนต์ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ประจำปีนี้ มีสโมสรเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 18 ราย ประกอบไปด้วย 6 สโมสรจากอังกฤษ : อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, สโมสรจากอิตาลี : อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และ อาแอส โรม่า, 3 สโมสรจากสเปน : เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด, 2 สโมสรจากเยอรมนี : บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, 2 สโมสรจากฝรั่งเศส : โอลิมปิก ลียง และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, 1 สโมสรจากโปรตุเกส : เบนฟิก้า โดยมีเจ้าภาพจัดการแข่งขันถึง 9 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, ออสเตรีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อิตาลี, โปรตุเกส, สาธารณรัฐไอร์แลนด์, สเปน และ สิงคโปร์

    สำหรับตำแหน่งแชมป์นั้นตกเป็นของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ถึงแม้มี 7 แต้ม จาก 3 นัด เท่ากับ ดอร์ทมุนด์ และ อินเตอร์ แต่พวกเขาเป็นทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีสุด (+4) ส่วนทีมบ๊วยคือ บาร์เซโลน่า ที่มีแค่ 2 แต้ม แถมมีผลต่างประตูได้เสีย -3

    "เป็นทัวร์นาเมนต์ที่สุดยอดมาก! ขอแสดงความยินดีกับ @SpursOfficial ด้วย พวกคุณคือแชมป์ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ประจำปีนี้ ทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทำได้ดีมาก แล้วเจอกันในปี 2019" นี่คือข้อความจาก ทวิตเตอร์ อย่างเป็นทางการของทัวร์นาเมนต์

    สเปอร์ส ถือเป็นสโมสรที่ 7 ที่ได้แชมป์รายการนี้ ต่อจาก เรอัล มาดริด (3 สมัย), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (2 สมัย), บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ยูเวนตุส และ อินเตอร์ มิลาน แต่หากนับเฉพาะทัวร์นาเมนต์หลักที่จัดขึ้นแถบอเมริกาเหนือและยุโรป (ไม่นับรวมตำแหน่งแชมป์ที่ก่อนหน้านี้มีการแบ่งทัวร์นาเมนต์ย่อยที่ ออสเตรเลีย, จีน และ สิงคโปร์) พวกเขาถือเป็นแชมป์รายที่ 5 ต่อจาก เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (2 สมัย), บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    ขณะที่ดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ปีนี้ตกเป็นของ มาร์โก อาเซนซิโอ ปีกดาวรุ่งชาวสแปนิชของ เรอัล มาดริด และ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ หัวหอกชาวฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล ที่ครองร่วมกันด้วยจำนวน 3 ประตู

    ส่วนเกมที่มีผู้ชมในสนามมากที่สุดคือเกม "แดงเดือด" ที่ ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 ซึ่งมีคนดูในสนาม มิชิแกน สเตเดี้ยม มากถึง 101,254 คน รองลงมาคือเกมที่ เรอัล มาดริด อัด ยูเวนตุส 3-1 ซึ่งมีผู้ชมในสนาม เฟดเอ็กซ์ฟิลด์ 71,597 คน ขณะที่เกมที่มีคนดูน้อยสุดคือเกมที่ เชลซี ชนะ ดวลจุดโทษ อินเตอร์ มิลาน 5-4 (เสมอ 1-1 ใน 90 นาที) ซึ่งมีคนดูในสนาม อัลลิอันซ์ ริเวียร่า แค่ราว 8,000 คนเท่านั้น