ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี กำลังระเบิดฟอร์มสุดขีดของเขาออกมา และตอนนี้ไม่มีใครสงสัยแล้วว่า จอมทัพทีมชาติเบลเยียม คือนักเตะที่เก่งที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในเวลานี้

ต้องยอมรับว่าในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา อาซาร์ เป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญกับ เชลซี อย่างมาก และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเกมฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เขาเป็นหนึ่งในแข้งสำคัญที่นำ เบลเยียม ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ และคว้าอันดับ 3 ด้วยสถิติซัด 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จากการเล่น 6 แมตช์ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว

สำหรับในฤดูกาลนี้ อาซาร์ เล่นได้อย่างโดดเด่นให้เชลซี ภายใต้การกุมบังเหียนของเมาริซิโอ ซาร์รี่ โดยซัดไป 6 ประตูจากการเล่นเพียง 7 เกมในลีก และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เรอัล มาดริด จะแสดงความสนใจอยากได้นักเตะไปร่วมทีม หลังจากที่พวกเขาต้องเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไป

ในส่วนของ อาซาร์ ก็ไม่เคยปกปิดแรงปรารถนาที่จะไปเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดยเขาเคยพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าซักวันนึงจะย้ายไปสวมชุด "ราชันชุดขาว" และไม่แน่ว่าตอนนี้เวลาดังกล่าวใกล้จะมาถึงแล้ว...

1. เรอัล มาดริด ไม่แกร่งเหมือนกับฤดูกาลที่ผ่านมา 

คงงงกันซิว่าเมื่อ เรอัล มาดริด ไม่แข็งแกร่งแล้วทำไม อาซาร์ จะต้องย้ายไปร่วมทีม ?

การที่ เรอัล มาดริด ต้องสูญเสียหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดของพวกเขานั่นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ย้ายไปเล่นให้ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ขณะที่ แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ ดูเหมือนจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีกครั้ง

แน่นอนว่าการที่ "ราชันชุดขาว" ขาดผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ที่พร้อมจะพลิกสถานการณ์ของทีมทำให้พวกเขาต้องมองหานักเตะที่มีศักยภาพไม่ต่างจาก โรนัลโด้ และเป้าหมายก่อนหน้านี้ก็คือ เนย์มาร์ แต่ดูเหมือนว่านักเตะค่อนข้างจะมีปัญหาหลายอย่าง รวมไปถึงเรื่องค่าตัว และการเป็นอดีตแข้ง บาร์เซโลน่า ทำให้มองแล้วการดึงตัวมาค่อนข้างจะเป็นเรื่องลบมากกว่าเรื่องบวก

แล้วใครล่ะที่พอจะมีศักยภาพไม่แตกต่างกัน แน่นอนว่าชื่อของ อาซาร์ โผล่พรวดขึ้นมาทันที ที่สำคัญค่าตัวของนักเตะก็ถูกกว่า สตาร์ทีมชาติบราซิล แถมไม่มีปัญหาเรื่องนอกสนามซะด้วย ฉะนั้นนี่คือเหตุผลที่สำคัญที่ เรอัล มาดริด จะดึงดาวเตะทีมชาติเบลเยียม ไปร่วมทัพ

2. อาซาร์ ค่าตัวจะถูกกว่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 9,000 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์หน้า 

สำหรับสัญญาปัจจุบันของ อาซาร์  จะหมดในปี 2020 นั่นหมายความว่าหาก เชลซี ไม่สามารถโน้มนาวให้ จอมทัพเลือดเบลเยียม สลัดน้ำหมึกขยายสัญญาออกไปได้ งานนี้พวกเขามีโอกาสที่จะต้องเสียผู้เล่นสำคัญแถมอาจจะไม่ได้ค่าตัวที่ต้องการนั่นก็คือ 200 ล้านปอนด์ก็ได้

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะค่าตัวของ อดีตแข้ง ลีลล์ คงจะลดต่ำลงในปีหน้าไม่ใช่เพราะนักเตะอายุเยอะขึ้น หรือฟอร์มตก (ซึ่งตอนนี้ยังร้อนแรงไม่มีหยุด) แต่เป็นเพราะสัญญาของเขาจะเหลือแค่ 1 ปีเท่านั้น และแน่นอนว่า "สิงโตน้ำเงินคราม" คงต้องยอมตัดใจขายหากนักเตะเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาใหม่

กระนั้นค่าตัวของเขาก็คงไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,500 ล้านบาท) ซึ่ง เรอัล มาดริด ก็ไม่มีปัญหาที่จะเซ็นเช็คให้ เชลซี และพวกเขาก็คือยินดีรับเงินดีกว่าเสียไปฟรีๆ
 
3. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการย้ายมาเล่นให้เรอัล มาดริด

สำหรับสถานการณ์ของ เรอัล มาดริด ในเวลานี้ แม้ว่าพวกเขาจะอุดมไปด้วยนักเตะระดับโลกมากมาย แต่สิ่งที่ขาดหายไปในตอนนี้ก็คือผู้เล่นที่เป็นเหมือนหัวใจของทีม และพร้อมที่จะรับผิดชอบในการยิงประตูเพื่อตัดสินเกม หรือพลิกสถานการณ์เหมือนตอนที่มี โรนัลโด้ อยู่ในทีม

หาก อาซาร์ ย้ายไปเล่นในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว จะทำให้ แกเร็ธ เบล ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุดนั่นก็คือการเล่นในตำแหน่งปี ขณะที่ ดาวเตะเลือดเบลเยียม สามารถที่จะยิงประตูให้กับสโมสรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเหมือนที่เขาทำได้ในช่วงที่ผ่านมากับ เชลซี
 
4. เรอัล มาดริด จะเติมเต็มฝันแชมเปี้ยนส์ ลีก ของ อาซาร์ 

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นโทรพี่เดียวเท่านั้นที่ อาซาร์ ยังไม่เคยสัมผัสในการเล่นให้ เชลซี ขณะที่ เรอัล มาดริด เพิ่งคว้าแชมป์ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน

การไม่มี โรนัลโด้ แน่นอนว่าพวกเขาจำเป็นต้องลงทุนเพื่อหานักเตะชั้นดีมาเสริมทัพ เพื่อโอกาสในการครองความเป็นเจ้าลูกหนังสโมสรยุโรปต่อไป ขณะที่รายการนี้ อาซาร์ ยังไม่มีโอกาสได้เชยชมเลย แถมในฤดูกาลปัจจุบัน เชลซี ก็ทำได้แค่ลุ้นแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เท่านั้น

เพราะฉะนั้นการย้ายไปค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ย่อมเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้ชูด้วย "บิ๊กเอียร์" ซึ่งนี่คือสิ่งที่ อาซาร์ ปรารถนาอย่างมากเพราะจะเป็นการทำให้อาชีพพ่อค้าแข้งของเขายกระดับไปอีกขั้นนึง

5. ฟอร์มกำลังพีคสุดขีด 

ตอนนี้ อาซาร์ ซัดไปแล้ว 6 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เท่ากับจำนวนตัวเลขที่เขาทำได้จากการเล่น 43 แมตช์ในทุกรายการให้กับ เชลซี เมื่อฤดูกาล 2015-16

ช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ (2016-17 กับ 2017-18) จะเห็นได้ว่า อาซาร์ ยิงประตูรวมกันทั้งหมด 34 ประตูจากการเล่น 94 แมตช์ในทุกรายการ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าตัวกำลังฟอร์มระเบิดเถิดเทิงในช่วงต้นซีซั่นนี้ และดูเหมือนว่าฟอร์มอาจจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ แบบดึงไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้ว

ถ้า อาซาร์ ยังคงรักษาผลงานขั้นเทพต่อไป คงยากที่จะมีใครหยุดเขาได้ เช่นเดียวกันด้วยฟอร์มแบบนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะหยุด เรอัล มาดริด ไม่ให้ทุ่มเงินซื้อ สตาร์ทีมชาติเบลเยียม มาโชว์ความเป็นสุดยอดจอมทัพให้ "ราชันชุดขาว" ได้ล่ะ