โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีส แสดงให้เห็นแล้ว่าเขาเป็นกุนซือจอมแท็กติคของจริง เพราะในเกมพบ ยูเวนตุส ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดสี่ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เขาวางแท็กติคได้อย่างรัดกุม และสามารถตอบโต้กับ "ม้าลาย" ได้อย่างสูสี

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มูรินโญ่ ได้โชว์กึ๋นให้เห็นในการแก้เกมเมื่อเวลาที่ทีมเกิดวิกฤติและต้องการประตู โดยการส่งผู้เล่นอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ และ ฆวน มาต้า ลงมาแก้สถานการณ์ ซึ่งก็ได้ผลเพราะนักเตะทั้งสองคนมีส่วนสำคัญกับทั้งสองประตูที่ทำให้ "ผีแดง" พลิกชนะ ยูเว่ 2-1 และมีลุ้นผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์มากยิ่งขึ้นในเวลานี้

1. แท็กติคเด็ดส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ 

  เป็นอีกครั้งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ แสดงให้เห็นการเป็นเจ้าพ่อแท็กติค ด้วยการแก้เกมได้อย่างยอดเยี่ยมในการส่ง มารูยาน เฟลไลนี่ ลงสนามเพื่อหวังใช้ลูกโด่งในการจัดการกับแนวรับที่แข็งแกร่งของ ยูเวนตุส และตอนยอมรับว่านี่เป็นแผนที่เด็ดของ "เฮียมู" และได้ผลดีเกินคาด

    เห็นได้ชัดว่าไม่มีนักเตะ "ม้าลาย" เอาชนะจังหวะการเล่นลูกกลางอากาศกับ มิดฟิลด์ชาวเบลเยียม และที่สำคัญเขามีส่วนกับจังหวะได้ประตูชัยในนาทีสุดท้าย เมื่อเป็นคนโหม่งเช็ดบอลเข้ามาหน้าประตูก่อนที่จอร์โจ้ คิเอลลินี่ จะสกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง

 งานนี้บรรดาสาวก "เร้ด อาร์มี่" เริ่มฝันหวานหวนนึกถึงช่วงเวลา "เฟอร์กี้ไทม์" ที่ทีมมักจะยิงประตูได้ในช่วงท้ายเกม และตอนนี้ในยุคมูรินโญ่ ทีมชุดนี้ก็มักจะทำประตูได้ในช่วงเวลาดังกล่าวซะด้วย งานนี้เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ สุดสัปดาห์นี้คงได้เห็นอะไรมันๆ แน่นอน

2. อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล เล่นอย่างมีวินัย

ช่วงนี้ อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล กลายเป็นลูกรักของ มูรินโญ่ ไปแล้ว และเขาได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมา ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ก็ไม่ทำให้ "เฮียมู" ต้องผิดหวังเมื่อยิงประตู 5 ลูกจากการลงเล่น 5 เกมก่อนหน้านี้ แม้ในแมตช์บุกถิ่นตูริน จะยิงไม่ได้ แต่นักเตะสามารป่วนแนวรับคู่แข่งได้ตลอด

    ยิ่งไปกว่านั้น มูรินโญ่ ดูเหมือนว่าจะให้ มาร์กซิยาล พยายามช่วยเล่นเกมรับ และเขาก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ พยายามใช้ความเร็วในการเบียดแย่งทำลายจังหวะการเล่นเกมรุกของ ยูเวนตุส และในบางครั้งก็ใช้ความเร็วเมื่อถึงเวลาที่ "ปีศาจแดง" ได้จังหวะสวนกลับเร็ว

 ตอนนี้ มาร์กซิยาล กำลังเต็มไปด้วยความมั่นใจ และยิ่งได้รับความไว้วางใจจาก มูรินโญ่ เชื่อว่านักเตะจะสามารถดึงศักยภาพที่มีอยู่ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญผลงานของเขาดูเหมือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้นักเตะใหม่ที่ทั้งฟิต และมีทักษคติดีเยี่ยมเพิ่มเลยทีเดียว

3. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงทำผลงานได้ดี

แม้ว่า ยูเวนตุส จะไม่ชนะ แต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าในช่วงครึ่งแรกอาจจะไม่ค่อยได้งัดฟอร์มเก่งออกมามากนัก แต่ก็สามารถป่วนเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ เพียงแต่ขาดแค่การส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย

    สำหรับในครึ่งหลัง กัปตันทีมชาติโปรตุเกส แสดงให้เห็นถึงการเป็นยอดนักเตะเมื่อมีส่วนกับเกมมากขึ้น และสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีมได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเขาโชว์ให้เห็นความเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังด้วยการยิงประตูสุดสวยให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0

 จริงๆ แล้ว โรนัลโด้ ยังสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้อีก โดยเฉพาะจากจังหวะที่เขาส่งบอลแบบถวายพานให้กับ ฮวน กวาดราโด้ ตะบันโล่งๆ แต่ดันยิงไม่เน้นบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย บอกตามตรงหากจังหวะนั้นเปลี่ยนเป็นประตู ผลการแข่งขันไม่มีทางจบดราม่าแบบนี้แน่นอน

4. ฆวน มาต้า โชว์ของ !

 หาก เฟลไลนี่ คือการปรับแท็กติคที่ถูกจุดของ มูรินโญ่ งั้น ฆวน มาต้า คือตัวทีเด็ดที่ "เฮียมู" ส่งมาเพื่อกอบกู้สถานการณ์ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่การเชิดชูเกินจริงๆ เพราะ ดาวเตะชาวสแปนิช สามารถปรับเปลี่ยนเกมแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ดูดีมากขึ้นนับตั้งแต่ที่โดนยิงนำ

    การเล่นที่ขาดความละเอียดของ ยูเว่ ที่ดันไปทำฟาวล์ ปอล ป็อกบา บริเวณกรอบเขตโทษ เป็นเหมือนการยื่นของขวัญกล่องใหญ่ให้ "ปีศาจแดง" และงานนี้ มาต้า ก็ไม่ทำให้แฟนบอล "ผีแดง" ทั่วโลกต้องผิดหวัง เมื่อบรรจงปั่นฟรีคิกงามหยดชดช้อยหนีมือ วอยเชียค เชสนี่ เข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทีมตีเสมอในช่วงสิบนาทีสุดท้าย

 ผลงานแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะเขาเคยปั่นฟรีคิกงามๆ แบบนี้มาแล้วในเกมพลิกนรกชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เกมลีกช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

    สำหรับแมตช์นี้เป็นเกมแรกในรอบ 5 แมตช์หลังสุดที่ มาต้า โดนดร็อปเป็นตัวสำรอง โดยเหตุผลเพราะ มูรินโญ่ ต้องการใช้  อันเดร เอร์เรร่า เพื่อหวังให้แผงกองกลางมีความแน่น แต่เมื่อสถานการณ์คับขันการส่ง มาต้า ลงมากู้วิกฤติถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ นายใหญ่เลือดฝอยทอง อย่างแท้จริง

 งานนี้เชื่อว่าแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด คงหวังว่าวันอาทิตย์นี้ในแมตช์พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้น มาต้า จะร่ายเวทมนต์ในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ได้อีกครั้ง
 
5. ยูเว่ ประมาทเกินไป

 แม้ว่าฟอร์มการเล่นในช่วงครึ่งแรก ยูเวนตุส กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะค่อนข้างสูสีกัน แต่บางคนอาจมองว่าเจ้าบ้านได้เปรียบอยู่นิดหน่อย เนื่องจากครองบอลเหนือกว่า แต่ก็ไม่สามารถบุกไปกดดันเกมรับของ "ปีศาจแดง" และไม่ได้ทำให้ ดาบิด เด เคอา ต้องทำงานมากนัก   

    อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง "ม้าลาย" เริ่มต้นได้เหนือกว่าและครองเกมได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด นานๆ ที แมนฯ ยูไนเต็ด จะขึ้นมาสร้างความปั่นป่วนแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร และก็เป็นไปตามคาดที่เจ้าบ้านจะได้ประตูนำจาก โรนัลโด้ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบผู้มาเยือนหลายขุม

ช่วงเวลาหลังจากได้ประตูนำ ยูเวนตุส มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มจากจังหวะที่ กวาดาร์โด้ ได้บอลหลุดไปในกรอบแต่แทนที่จะปาดเข้าในให้ เปาโล ดีบาล่า แต่ดันไหลคืนหลังให้ ปานิช ซึ่งยิงได้น่าผิดหวัง จากนั้นอีกไม่กี่นาที "เฮียโด้" ส่งบอลถวายพานให้ กวาดาร์โด้ แต่เจ้าตัวดันยิงไม่ได้เรื่อง

    ต้องบอกเลยว่าในช่วงที่เจ้าบ้านขึ้นนำ พวกเขาดันเล่นในเชิงประมาท และไม่ค่อยเน้น อาจเป็นเพราะมั่นใจว่าสามารถกด แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อยู่หมัด แต่งานนี้ถือเป็นบทเรียนชั้นดีให้กับ ยูเว่ ว่าทีมอย่าง แมนฯ ยูฯ ก็เหมือน "งูห่า" ถ้าตีไม่ตายก็มีสิทธิ์โดนฉกตายได้ !!!

 มูรินโญ่ ยังแสบเหมือนเดิม

    มูรินโญ่ เคยลั่นวาจาเอาไว้ก่อนเกมว่านี่ไม่ใช่เกมสำคัญมากนัก เพราะเขาเชื่อว่าทีมมีโอกาสได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้จากการเล่น 2 เกมสุดท้ายที่จะพบกับ ยัง บอยส์ และ บาเลนเซีย แต่สุดท้ายเมื่อจบเกมผลการแข่งขันกลายเป็นเข้าทาง "เฮียมู" แบบเต็มๆ !!

    หลังจบเกมนี้ มูรินโญ่ ซึ่งเคยคุม อินเตอร์ มิลาน คู่อริตัวแสบของ ยูเวนตุส โชว์ลีลากวนประสาทด้วยการใช้มือป้องไปที่หูพร้อมกับยิ้มเย้ยพร้อมกับหวันไปที่อัฒจันทร์ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในสนาม ด้วยการแสดงท่าทางดังกล่าวสร้างความโมโหให้กับแฟนบอล และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กองหลังยูเว่ ที่แสดงความความไม่พอใจใส่ "เฮียมู" ก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่คอยคุ้มกันตอนที่เข้าไปในอุโมงค์

 พฤติกรรมแบบนี้ของ มูรินโญ่ ก็เคยทำมาแล้วตอนที่เขาฉลองความสำเร็จหลังจบเกม รอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2010 ด้วยการวิ่งลงไปในสนามหลัง อินเตอร์ เขี่ย บาร์เซโลน่า ตกรอบ และโดนบิคตอร์ บัลเดส นายด่านของ "เจ้าบุญทุ่ม" วิ่งมาเอาเรื่อง

     งานนี้หลายคนคงย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ มาร์โก ยานนี่ สตาฟ์โค้ชเชลซี ที่สะใจต่อหน้า มูรินโญ่ ตอนที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ประตูตีเสมอในนาทีสุดท้าย ขึ้นมาทันที.....