หลังจากเสร็จสิ้นเกมพักเบรกทีมชาติกันแล้ว ได้เวลาที่ศึกลูกหนังระดับสโมสรต้องกลับมาโม่เกือกกันอีกครั้ง โดยในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีแมตช์สำคัญมากๆ นั่นก็คือศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปะทะ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้
สำหรับเกมนี้นอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของทีมร่วมเมืองหลวงผู้ดีแล้ว ยังเป็นเกมสำคัญเพราะหาก "สิงโตน้ำเงินคราม" หรือ สเปอร์ส เก็บชัยชนะได้ จะทำให้พวกเขาไล่บี้ลุ้นแชมป์ลีกกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้อย่างเข้มข้น

เชลซี เพิ่งจะแพ้เกมลีกครั้งล่าสุดให้กับ สเปอร์ส เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยต้องยกความดีความชอบให้กับสองประตูของ เดเล่ อัลลี่ ขณะเดียวกันในการดวลที่สนามเหย้าของ "ไก่เดือยทอง" กลายเป็นว่า เชลซี ชนะ 2-1 งานนี้ต้องขอบคุณ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่เบิ้ลประตูให้ต้นสังกัดด้วย

ฉะนั้นในเกมที่จะถึงนี้ทีมไหนจะได้ชัยชนะคงต้องมาวิเคราะห์กันคร่าวๆ เกี่ยวกับปัจจัยสำคัญที่จะมีผลในแมตช์นี้

5. ฟอร์มของ อูโก้ โยริส ในเวลานี้ ?
อูโก้ โยริส ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมที่ฝรั่งเศส แพ้ ฮอลแลนด์ 0-2 โดยเขาโชว์ฟอร์มเซฟ 9 ครั้ง และเกือบได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ 

สำหรับผลงานในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยังถือว่าใช้ได้ และนี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเกมดาร์บี้แมตช์ครั้งนี้ เพราะเขาจะต้องเจอบททดสอบสำคัญจากบรรดานักเตะชั้นยอดของ เชลซี ไม่ว่าจะเป็น เอแด็น อาซาร์ ที่เป็นจอมสร้างสรรค์เกม, มาร์กอส อลอนโซ ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในการเล่นลูกตั้งเตะ และยังมีลูกฟรีคิกที่สุดอันตรายมากๆ ส่วน วิลเลี่ยน ก็มีทีเด็ดในการยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษ

แม้ โยริส อาจจะมีช่วงฟอร์มหลุดไปบ้างในการเฝ้าเสาร์ให้ สเปอร์ส ช่วงต้นฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม "ไก่เดือยทอง" ยังคงหวังว่า นายทวารมากประสบการณ์เลือดเฟร้นช์ จะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นสำหรับแมตช์สำคัญที่สนามเวมบลีย์ในวันเสาร์นี้

4. คู่หูเซนเตอร์แบ็กสเปอร์ส
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เป็นตัวเลือกแรกที่จะต้องลงเล่นตัวจริงในการคุมแนวรับของ สเปอร์ส อยู่แล้ว ส่วนคู่หูของเขาจะเป็นใครล่ะ ?  แต่การที่ ดาวิซอน ซานเชซ มีปัญหาบาดเจ็บเล็กน้อย ทำให้เขาคงจะพลาดเกมนี้ เนื่องจาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คงไม่รีบเร่งใช้งานนักเตะหากยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ส่วน แยน แฟร์ต็องเก้น  ดูเหมือนว่าจะเป็นตังเต็งที่จะได้จับคู่กับ อัลเดอร์ไวเรลด์

สำหรับทางเลือกอื่นที่อาจจะเป็นไปได้ในการใช้งาน แต่ค่อนข้างจะเสี่ยงมากๆ สำหรับการต้องสู้กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" นั่นก็คือการจับ เอริค ดายเออร์ มาเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ก และการต้องดวลกับ อัลบาโร่ โมราต้า, วิลเลี่ยน และ อาซาร์ งานนี้มีโอกาสที่เจ้าบ้านจะน้ำตาริน ส่วนอีกทางเลือกก็คือการส่ง ฮวน ฟอยธ์ ลงสนาม แต่นี่เป็นอะไรที่เสี่ยงยิ่งกว่าหลายเท่า

ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะตัวเลือกในแผงมิดฟิลด์ของ สเปอร์ส ก็ยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะตอนนี้มีแค่ ดายเออร์ กับ แฮร์รี่ วิงค์ส ที่จะต้องสู้กับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หรือ จอร์จินโญ่ ต้องยอมรับว่าดูยังไงแล้วทั้งสองคนน่าจะต้องเจองานหนักเมื่อต้องปะทะกับแผงมิดฟิลด์ "สิงห์บลูส์"

3. คีแรน ทริปเปียร์ ไม่ได้เล่น
คีแรน ทริปเปียร์ เป็นนักเตะที่ต้องลงเล่นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาเสมอ แต่ตอนนี้เขามีอาการบาดเจ็บ และน่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมในการดวลกับคู่อริร่วมกรุงลอนดอน โดยงานนี้ สเปอร์ส จำเป็นต้องส่ง แซร์ช ออริเย่ร์ ลงตัวจริงในตำแหน่งนี้

แน่นอนว่าการขาดหายไปของ ทริปเปียร์ สร้างปัญหาใหญ่ให้กับ "ไก่เดือยทอง" อย่างมาก เพราะนักเตะมีทีเด็ดในเรื่องการเล่นลูกฟรีคิก และสามารถช่วยทีมได้ดีในการเติมเกมบุก ขณะที่ ออริเย่ร์ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงผลงาน ต้องระเบิดฟอร์มให้ได้ เพราะ เชลซี เป็นทีมที่อันตรายมากๆ ในการเล่นทางกราบ เนื่องจาก อาซาร์ กับ อลอนโซ่ สามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับเขาจนหัวหมุน

 เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม กับ อลอนโซ่ กำลังอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดในเวลานี้ ฉะนั้น โปเช็ตติโน่ ต้องกระตุ้น ออริเย่ร์ ให้รักษาฟอร์มเก่งจนกระทั่งจบเกม เพราะหากเสียสมาธิไปเพียงแค่เสี้ยววินาที งานนี้มีหวังที่ สเปอร์ส คงต้องเจอทีเด็ดของนักเตะสองคนนี้แน่นอน

2. แนวรุกเต็มพิกัดสเปอร์ส
แฮร์รี่ เคน คงได้ลงเล่นตัวจริงแน่นอน ไม่มีอะไรต้องสงสัยในเรื่องนี้ เขาทำผลงานได้สุดยอดในเกมที่ช่วยอังกฤษ ชนะ โครเอเชีย โดยซัดประตูชัยให้ทัพ "สิงโตคำราม" แต่พวกเขายังมีแนวรุกที่เด็ดอีกอย่าง ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน, เดเล่ อัลลี่ และ คริสเตียน อีริคเซ่น ที่สามารถลงสนามในแมตช์นี้ได้

นักเตะเกมรุกเหล่านี้มีศักยภาพคู่ควรที่จะได้ลงตัวจริงทุกคน แต่ดูเหมือนว่าหนึ่งในพวกเขาคงจะต้องนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง อีริคเซ่นกับ อัลลี่ คงได้รับการพิจารณาเป็นคู่หูแดนกลางที่จะได้ลงเล่นตัวจริงในเกมนี้ เพราะฉะนั้นจะเหลือผู้เล่นตัวเก่งอีก 2 คน ในรายของ ซน (ฮึง-มิน) เป็นตัวจบสกอร์ที่ดีเยี่ยม และสร้างโอกาสให้ทีมได้เยอะมาก เช่นเดียวกับ มูร่า

สำหรับตอนนี้ต้องขึ้นอยู่กับ โปเช็ตติโน่ ในการตัดสินใจว่า ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ หรือ มูร่า สมควรได้ลงเล่นตัวจริง อย่างไรก็ตาในการสู้กับ เชลซี มีความเป็นไปได้ว่า ฮึง-มิน จะได้รับโอกาสเป็น 11 ตัวจริง แต่ก็อย่างที่บอกขึ้นอยู่กับแท็คติกของ "พอช" เท่านั้น

1. ตัด จอร์จินโญ่  ออกจากเกม
จอร์จินโญ่ ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในการเล่นเกมพรีเมียร์ลีก เขาผ่านบอลได้เกือบ 100 ครั้งต่อเกม ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก เขาเพิ่งจะสร้างสถิติผ่านบอลได้ถึง 173 ครั้งในเกมที่พบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ช่วงต้นซีซั่นนี้ ต้องยอมรับว่าผลงานในเวลานี้ของเขา โดดเด่นไม่แพ้ ก็องเต้ เช่นกัน

แล้วทำไม เอฟเวอร์ตัน ถึงสามารถเสมอกับ เชลซี แบบไร้สกอร์ได้ล่ะ ? พวกเขาสามารถจัดการกับ จอร์จินโญ่ ได้อยู่หมัด แผงมิดฟิลด์ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มีสมาธิกับการจัดการกับกองกลาง "สิงห์บลูส์" ทำให้เขาไม่มีพื้นเล่น ที่สำคัญ จอร์จินโญ่ ต้องพบกับความยากลำบากในการเล่นจนเสียสมาธิเข้าสกัดหนักใส่ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ในช่วงครึ่งแรก เดชะบุญที่ไม่โดนไล่ออก

นี่คือสิ่งที่ สเปอร์ส ต้องพยายามเลียนแบบให้ได้ แต่กระนั้นไม่ใช่ว่า จอร์จินโญ่ จะไม่เคยโดนตัดออกจากเกม เขาเป็นนักเตะชั้นยอดที่เคยผ่านสถานการณ์กดดันแบบนี้มาแล้ว และการไล่กดดันเขายิ่งทำให้เพื่อนร่วมทีมมีอิสระในการเล่นมากขึ้นด้วย

กระนั้นหาก โปเช็ตติโน่ สามารถตัด กองกลางทีมชาติอิตาลี ออกไปจากเกมได้ แน่นอนว่าจะช่วยลดทอนความอันตรายจากทีมของกุนซือเมาริซิโอ ซาร์รี่ ลงไปได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แต่คำถามมีอยู่ว่า ดายเออร์ กับ วิงค์ส มีดีพอที่จะไล่บี้ จอร์จินโญ่ อยู่หมัดไหมล่ะ ?