เป็นสัปดาห์ที่ทีมระดับหัวแถวต่างทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ทีมประจำสัปดาห์เต็มไปด้วยบรรดาแข้งจากทีมชั้นนำ แล้วจะมีใครบ้างไปดูกันได้เลย

ผู้รักษาประตู : เบน ฟอสเตอร์ (วัตฟอร์ด)
มีส่วนสำคัญให้วัตฟอร์ด ไม่เสียประตูตีเสมอด้วยการเซฟจุดโทษของกิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน แม้สุดท้ายจะเสียท่าให้กับฟรีคิกของลูก้าส์ ดีญ ก็ตาม

กองหลัง :  ดีโอโก้ ดาโลต์ (แมนฯยูไนเต็ด)
แข้งโปรตุกีสวัย 19 ปี โดดเด่นสุดๆทางฝั่งขวา เกมนี้ปีศาจแดงครอสบอลสำเร็จ 5 ครั้ง โดย 4 ครั้งมาจากเด็กหนุ่มคนนี้

กองหลัง : ดาวิด ลุยซ์ (เชลซี)
เหตุที่เหล่าแนวรุกของซิตี้หาประตูไม่เจอ  ก็เพราะการที่เชลซีมีดาวิด ลุยซ์ คอยปัดกวาดนั่นเอง อีกทั้งเขายังขึ้นมาทำประตูตอกย้ำชัยให้สิงห์บลูส์
สถิติส่วนตัวของเขาในเกมนี้คือ แย่งบอลกลับคืนมาได้ 7 ครั้ง และเคลียร์บอลได้อีก 7 ครั้ง

กองหลัง : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)
แข็งแกร่งและมีส่วนช่วยเกมรับในครึ่งแรกเยอะมาก แถมจัดการกับแนวรุกของแมนซิตี้ที่มีความเร็วได้อย่างอยู่หมัด และจากสถิติในเกมนี้เขาสามารถสกัดบอลได้ถึง 13 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
จัดการแนวรุก บอร์นมัธ ได้อยู่หมัด และเติมเกมรุกเยี่ยม โดยวิ่งได้ไม่มีหมดตลอดทั้งเกม แถมยังมีส่วนทำให้ทีมได้ประตูอีกด้วย

กองกลาง : เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เชลซี)
ประตูของก็องเต้ เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนเกมก็ว่าได้ ก่อนหน้านั้นเชลซีแทบไม่มีโอกาสเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายเลย ซึ่งลูกนี้เป็นเพียง 1 ใน 7 ครั้ง ที่เชลซีส่งบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของซิตี้ ในช่วงครึ่งแรก

กองกลาง : ลูคัส ตอร์เรยร่า (อาร์เซน่อล)
คว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปแล้วถึง 5 นัดจาก 6 เกมหลังสุด ประตูของเขาล้ำค่ามากในวันที่อาร์เซน่อลมีโอกาสยิงตรงกรอบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

กองกลาง : ฆวน มาต้า (แมนฯยูไนเต็ด)
หนึ่งประตูของมาต้าในเกมนี้ ทำให้เจ้าตัวซัดในเวทีพรีเมียร์ฯไปแล้ว 50 ลูก และเป็นแข้งสเปนคนที่ 5 ที่ทำได้ อีกทั้งยังเป็นนักเตะกระทิงดุคนที่สาม ที่ทำได้เกิน 50 ประตู และ 50 แอสซิสต์ ต่อจากเชส ฟาเบรกาส และ ดาบิด ซิลบา

กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯยูไนเต็ด)
1 ประตู 2 แอสซิสต์ ในเกมนี้ ทำให้เขามีส่วนร่วม 3 ประตูในเกมเดียวเป็นครั้งแรกนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2016 เกมกับอาร์เซน่อลที่เขาได้ลงสนามในนามปีศาจแดงเป็นครั้งแรก

กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
ไม่ต้องบรรยายอะไรมากกับแฮตทริกของซาลาห์ในเกมนี้ นอกเหนือจะทำให้เขาขึ้นไปทาบดาวซัลโวร่วมกับปิแอร์ เอเมริค-โอบาเมย็องแล้วเขายังเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ทำแฮตทริกนอกบ้าน ต่อจากที่หลุยส์ ซัวเรซ ทำไว้กับคาร์ดิฟฟ์ เมื่อเดือน มีนาคม ปี 2014

กองหน้า : ซน ฮึง-มิน (สเปอร์ส)
ซัดประตูปลดล็อกให้ไก่เดือยทองอย่างสุดสวย อีกทั้งยังแอสซิสต์ให้เดเล่ อัลลี การเจอกับเลสเตอร์เป็นอะไรที่ถูกฉโลกกับซน สุดๆ เพราะใน 2 เกมล่าสุดที่ดวลแข้งกับเดอะ ฟ็อกซ์ ทำมีส่วนร่วมไป 4 ประตู ( 3 ประตู 1 แอสซิสต์)