เปิด 3 เหตุผลที่ อีสโก้ เหมาะสมมาเป็นตัวตายตัวแทนของ ดาบิด ซิลบา ในอนาคต หลังปัจจุบันนักเตะกลายเป็นส่วนเกินของเรอัล มาดริด ภายใต้การกุมบังเหียนของ ซานติอาโก้ โซลารี่

    แน่นอนว่า ดาบิด ซิลบา ถือเป็นแข้งที่มีบทบาทสำคัญของทีม "เรือใบสีฟ้า" ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเจ้าตัวมีอายุ 33 ปีแล้ว และมีสัญญาเหลืออีกเพียงปีเดียวเท่านั้น ทำให้ไม่แน่ว่านักเตะจะจรดปากกาต่อสัญญาออกไป ส่งผลให้สโมสรอาจจำเป็นเป็นต้องมองหาแข้งรายใหม่มาทดแทนในช่วงซัมเมอร์นี้ 

    หนึ่งในแข้งที่น่าจะเหมาะสมที่สุดในตอนนี้ คงต้องยกให้ อีสโก้ มิดฟิลด์สแปนิชของ เรอัล มาดริด ที่ตอนนี้กลายเป็นแข้งส่วนเกินของทีมไปแล้ว และมีโอกาสที่เขาจะตัดสินใจอำลาทีมหลังจบซีซั่นนี้ ซึ่งถึงเวลานั้นน่าจะเป็นโอกาสทองของ แมนฯ ซิตี้ ในการกระชากตัวมาเสริมทัพ หลังจากเคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกันมาแล้วหลายครั้ง โดยคาดว่าจะมีค่าตัวราว 75 ล้านยูโร

    ในตอนนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าทำไม อีสโก้ ถึงเหมาะสมในการมาสืบทอดตำแแหน่งต่อจากรุ่นพี่ทีมชาติสเปนในอนาคต

ความสามารถในการทำประตู

นอกจาก ซิลบา จะขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์เกมแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นของเขาคือการทำประตู หลังจากซีซํ่นนี้เจ้าตัวทำไปแล้ว 6 ประตูแบ่งเป็นในลีก 3 และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 3 ลูก

    ขณะที่ อีสโก้ เองหากย้อนไปก่อนหน้านี้เขาสามารถทำได้ถึง 10 ประตูในฤดูกาล 2016-17 จากการลงเล่น 30 เกมในลีก ซึ่งเป็นช่วงพีคสุดๆในอาชีพการเล่น โดยมีทีเด็ดอยู่ที่ลูกยิงจากนอกเขตโทษที่ทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่ในซีซั่นนี้จะกลายเป็นแข้งส่วนเกินของ "ราชันชุดขาว" ภายใต้การคุมทีมของ ซานติอาโก้ โซลารี่

การจ่ายบอล

 ขณะที่อีกหนึ่งจุดที่ทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกันคือการจ่ายบอลที่แม่นยำ ซีซั่นนี้ ซิลบา ทำไปแล้ว 5 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ และยังมีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลสำเร็จเฉลี่ยแล้วคิดเป็น 87.7 เปอร์เซ็นต์/เกม

    แม้ฤดูกาลนี้ อีสโก้ จะลงเล่นน้อยกว่า ซิลบา ถึง 1,024 นาที แต่เขาทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ในลา ลีกา รวมถึงยังมีเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลสำเร็จที่จำนวน 88.7 เปอร์เซ็นต์/เกม ซึ่งทำได้ดีกว่า ซิลบา อีกด้วย ซึ่งจุดนี้เองน่าจะตอบโจทย์ระบบของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เน้นการต่อบอลเท้าๆสู่เท้า

ประสบการณ์ในเวทียุโรป

แน่นอนว่านอกจากการมีฝีเท้าที่ดีแล้ว ประสบการณ์ก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน อีสโก้ มีประสบการณ์มากพอที่จะช่วยทีมประสบความสำเร็จในถ้วยใบใหญ่ของยุโรปได้ หลังจากเจ้าตัวมีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการที่ลงเล่น และคือหนึ่งในนักเตะของ เรอัล มาดริด ชุดนี้ที่อยู่ในชุดประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน และเป็นแข้งที่คว้าแชมป์ถ้วยใบนี้มาแล้ว 4 สมัย 

จุดอ่อน

  อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักฟุตบอลหลายคนล้วนมีแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้คือข้อบกพร่องของตัวเอง สำหรับ อีสโก้  นั้นคือ ความไม่สม่ำเสมอ โดยฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวแทบจะไม่ได้เล่นครบ 90 นาทีในยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือฝรั่งเศส

    อีสโก้ ถือเป็นมิดฟิลด์ที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับซิลบา มากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปตอนนี้ ทั้งทักษะการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งที่ยอดเยี่ยม และการจ่ายบอล ซึ่งบางทีอาจเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะไปมองหาแข้งรายอื่นหากไม่ใช่อดีตมิดฟิลด์มาลาก้าคนนี้ได้ 

    และหาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถงัดฟอร์มเก่ง และความมั่นใจของดาวเตะทีมชาติสเปนออกมาได้ เขาก็อาจกลายเป็นคีย์แมนสำคัญคนใหม่ที่จะมาช่วยเติมเต็มศักยภาพของทีมให้น่ากลัวมากยิ่งขึ้น