ลิเวอร์พูลมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเข้ามากุมบังเหียนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้สร้างขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจนทำให้ทีมในเวลานี้มีสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่งและมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้

    สถานการณ์ในปัจจุบัน "หงส์แดง" มีแต้มนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 1 นัด โดย ลิเวอร์พูล เหลือเกมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 5 แมตช์ ในขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" เหลือ 6 แมตช์ ในส่วนของประตูได้เสียต้องยอมรับว่าทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหนือกว่าเยอะ แต่กระนั้นการลุ้นแชมป์ยังคงเข้มข้นเร้าใจในช่วงโค้งสุดท้าย

    ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ "เดอะ เร้ดส์" ในเวลานี้ต้องยอมรับว่ามาจากนักเตะหลายคนของทีม แต่ใครที่เล่นโดดเด่นจนได้ใจสาวก "เดอะ ค็อป" และคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของสโมสร มาดูกันดีกว่า และลองคิดดูว่า 5 คนนี้เหมาะสมไหม หรือจะมีใครที่เหมาะสมกว่านี้หรือเปล่า ?

5. จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม
    จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม อาจจะเป็นนักเตะประเภทปิดทองหลังพระ แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญมากๆ ของทีม โดยดาวเตะเลือดดัตช์ถือเป็นหัวใจในแผงมิดฟิลด์ และบ่อยครั้งที่เขาเป็นนักเตะสำคัญในการช่วยทีมขับเคลื่อนในจังหวะเล่นสวนกลับ ซึ่งมักจะทำให้ทีมได้ประโยชน์หลายๆ ครั้งในฤดูกาลนี้

มิดฟิลด์ทีมชาติฮอลแลนด์ลงสนาม 30 จาก 33 แมตช์ให้กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีความสำคัญกับทัพ "เดอะ เร้ดส์" มากแค่ไหน คล็อปป์ มองเห็นชัดเจนว่า ไวจ์นัลดุม เป็นนักเตะที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จ และแทบจะมีความสำคัญไม่ต่างจาก ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ในแดนหน้า แน่นอนหากไม่มีขาคงไม่มีใครที่จะช่วยคุมจังหวะเกมในการเติมเกมบุก

    ไวจ์นัลดุม ยังสามารถใช้ประโยชน์ด้วยการจับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกเมื่อถึงยามที่ทีมจำเป็นต้องใช้งานเขา ซึ่งนั่นทำให้เขายิง 2 ประตูในฤดูกาลนี้ ปัจจุบันเจ้าตัวอายุ 28 ปีแล้ว และแน่นอนว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้จริงๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นนี้
 
4. ซาดิโอ มาเน่
    ซาดิโอ มาเน่ เป็นนักเตะที่กำลังฟอร์มระเบิดเถิดเทิงให้กับต้นสังกัด โดยความเร็วของเขาสามารถจัดการแนวรับคู่แข่งในพรีเมียร์ลีก จนระส่ำระส่าย เขายิงประตูเป็นว่าเล่นในฤดูกาลนี้ โดยในตอนแรก ดาวเตะชาวเซเนกัล ถูกจับไปเล่นปีกซ้าย แต่เขาสามารถขยับมาเล่นฝั่งขวาก็ได้ และยังทำหน้าที่เป็นหน้าเป้าก็ถือว่ายอดเยี่ยม ฉะนั้นนักเตะรายนี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของทีมจริงๆ

 อดีดาวเตะ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน มีโอกาที่จะคว้ารางวัลดาวซัลโซสูงสุด หรือ "โกลเด้น บูท" ในฤดูกาลนี้ เพราะตอนนี้เขาซัดไปแล้ว 17 ประตูในลีก ซึ่งตามหลัง เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอก "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแค่ 2 ประตูเท่านั้น

    ในส่วนของฟอร์มการเล่นต้องยอมรับว่า มาเน่ กำลังเข้าฝักจริงๆ โดยเขาเป็นนักเตะสำคัญของทีมในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยโดยซัดไปแล้ว 3 ประตู กับ 2 แอสซิสต์จากการเล่น 8 เกม บางครั้งมีนักเตะที่เก่งๆ แต่มักจะฟอร์มหลุดเมื่อลงเล่นในเกมใหญ่ แต่ไม่ใช่ มาเน่ เพราะเขาเล่นได้อย่างโดดเด่นในทุกๆ เกมไม่ว่าจะแมตช์เล็กหรือใหญ่

3. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าเหลือเชื่อในฤดูกาลที่ผ่านมา และผลงานที่สุดยอดก็คือการซัดประตู 32 ประตูทำให้เขาสร้างสถิติยิงประตูมากที่สุดแซง อลัน เชียเรอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และหลุยส์ ซัวเรซ นับตั้งแต่ที่มีการแข่งแบบ 38 เกมต่อฤดูกาล

อย่างไรก็ตามีขึ้นย่อมมีลงสำหรับในฤดูกาลนี้ ดาวเตะชาวอียิปต์ ทำผลงานไม่โดดเด่นเหมือนกับซีซั่นแรกในสีเสื้อ "หงส์แดง" แต่ก็ไม่มีข้อสงสัยว่าเขายังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สุดยอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี แม้ว่ายิงประตูได้ไม่เยอะเท่ากับเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม แต่ก็ยังคงตะบันตาข่ายคู่แข่งได้บ่อยๆ และตอนนี้ก็ซัดไปแล้ว 18 ประตู พร้อมกับ 8 แอสซิสต์

    "โม ซาลาห์" ยังเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในสามแนวรุกของ "หงส์แดง" ร่วมกับ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในซีซั่นนี้ รวมทั้งทำให้ทีมมีลุ้นที่จะประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 29 ปีด้วย
 
2. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
    สำหรับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต้องยอมรับว่านี่คือนักเตะที่มีส่วนสำคัญมากๆ กับ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะในการเล่นเกมรับและเกมรุก เขาช่วยทีมได้อย่างสุดยอดทางกราบซ้าย และบ่อยครั้งก็มักจะถูกจับไปเล่นเป็นปีกซ้าย แถมเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้หลายต่อหลายครั้ง

    ดาวเตะเลือดวิสกี้ ทำไป 9 แอสซิสต์ให้กับลิเวอร์พูล และลงเล่นไปแล้ว 31 เกมจาก 33 แมตช์ในซีซั่นนี้ เขาเป็นนักเตะที่มีความสำคัญกับทีมมากๆ ไม่ใช่แค่กับต้นสังกัดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกับทีมชาติสกอตแลนด์แถมในเวลานี้ก็ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมทัพ "ตาร์ตัน" ด้วย

ตอนยอมรับว่านี่คือหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ซื้อมาคุ้มค่าที่สุดของลิเวอร์พูล ในช่วงหลายๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะพวกเขาควักกระเป๋าเป็นค่าเสียหายให้ ฮัลล์ ซิตี้ เพียงแค่ 8 ล้านปอนด์ (ราว 328 ล้านบาท) เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 แต่ตอนนี้คาดว่าเจ้าตัวน่าจะมีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,050 ล้านบาท)

     ยิ่งไปกว่าในโรเบิร์ตสัน อายุเพียง 25 ปีเท่านั้น แน่นอนว่าอายุการใช้งานยังอีกนานหลายปี และหากรักษาสภาพาร่างกาย รวมทั้งความฟิตได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะพัฒนาจนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่เก่งที่สุดในโลกช่วงไม่กี่ปีต่อจากนี้

1. เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ 
    ณ เวลานี้สาวก "เดอะ ค็อป" พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีนักเตะคนไหนสำคัญกับ ลิเวอร์พูล มากไปกว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โดยเฉพาะในการลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ โดยเขาเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีมตลอดทั้งซีซั่น และยังเล่นได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาร่วมทีมจนถึงปัจจุบัน

    ฟาน ไดค์ ลงเล่นทุกเกมในลีกให้ลิเวอร์พูลซีซั่นนี้ และส่วนใหญ่เป็นตัวจริง โดย ดาวเตะดัตช์ช่วยทีมเก็บ 16 คลีนชีต และเป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งในเกมรับของทีม ที่สำคัญน่าจะได้รับการเชิดชูว่าเป็นกองหลังที่เล่นได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วย

หลายคนเคยมองว่า "หงส์แดง" บ้าหรือเปล่าที่ทุ่มเงินมหาศาลจำนวน 75 ล้านปอนด์ (ราว 3,075 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคม 2018 แต่ตอนนี้ทุกๆ คนยอมรับแล้วว่าเงินจำนวนดังกล่าวช่างน้อยนิดเพราะฟอร์มการเล่นของ ฟาน ไดค์ ทำให้เขามีค่าตัวในตลาดพ่อค้าแข้งปัจจุบันกว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,100 ล้านบาท) ไปแล้ว แต่ค่าตัวน่าจะพุ่งยิ่งกว่านี้หายังคงรักษาฟอร์มสุดยอดแบบนี้ต่อไป

    ในส่วนเกมรับไม่มีใครปฏิเสธความแข็งแกร่งของ ฟาน ไดค์ แต่ในส่วนของเกมบุกเขายังมีประโยชน์ทั้งในจังหวะการเล่นลูกเตะมุม และลูกเซตพีซ แถมยังได้เปรียบในเรื่องความสูงใหญ่โดยเฉพาะการเล่นลูกโด่ง นั่นทำให้เขายิงในเกมลีกไปแล้ว 3 ประตูและทำ 1 แอสซิสต์