เจมี่ วาร์ดี้ ทำสองประตูพา เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ อาร์เซน่อล 3-0 โดยเกมนี้ "ปืนใหญ่" ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส มาโดนใบเหลืองที่สองในช่วงท้ายครึ่งแรก ส่งผลให้ "ปืนใหญ่" แพ้ 3 นัดรวดในลีก พร้อมพลาดทำแต้มแซง เชลซี ขึ้นไปรั้งที่ 4 ชั่วคราว ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2562
เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 อาร์เซน่อล

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

    เลสเตอร์  เฝ้าบ้านเกมนี้วาง เจมี่ วาร์ดี้ ห้อยเป็นกองหน้าตัวเป้าแดนกลางส่ง ฮัมซ่า ชูดูรี่ ดาวรุ่งลงไปช่วยตัดเกมอีกคน หน้าที่ทำเกมรุกเป็นของ มาร์ค อัลไบรตัน กับ เจมส์ แมดดิสัน

    ส่วนอาร์เซน่อล ทีต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นท็อปโฟร์ จัดทั้ง โอบาเมย็อง และ ลากาแซ็ตต์ ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้โอกาสลงทำเกมเช่นกัน

    เกมสนุกตั้งแต่ต้นเกมผลัดกันบุกทันที นาทีที่ 6 เลสเตอร์ ได่ฟรีคิกเยื้องทางซ้าย เล่นลูกสูตร เอาบอลตั้งปุ้บ เจมส์ แมดดิสัน เปิดโค้งมากลางประตูให้ จอนนี่ อีแวนส์ ทิ้งตัวโขกแต่ไปตรงตัว แบร์นดฺ์ เลโน่   

    เกมของเลสเตอร์ไม่เป็นรองเลย นาทีที่ 12 ยูริ ทรีเลมันส์ ได้กดจากหน้าเขตโทษแต่บังคับบอลไม่ดีหลุดกรอบออกไป   

    เลสเตอร์ เกือบได้อีกครั้งนาที 28 วาร์ดี้ ชิ่งให้ แมดดิสัน หลุดเข้าไปยิงมุมแคบทางขวาแต่โดน เลโน่ เซฟออกหลัง จากเตะมุมนั่นเอง แมดดิสัน เปิดมาเข้าหัว วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ เทกตัวโหม่งแต่ เลโน่ พุ่งปัดด้วยปลายมือเหลิอเชื่อ

    ไม่กี่อึดใจต่อมา อาร์เซน่อล ได้ตอบโต้ โอบาเมย็อง แทงออกซ้ายให้ อเล็กซ์ อิโวบี้ วิ่งมากดเรียดแต่ ชไมเคิ่ล ทิ้งตัวเซฟด้วยขา

    นาที 36 อาร์เซน่อล มาเหลือแค่ 10 คน เมื่อ เอนสลี่ย์ เมทแลนด์ ไนล์ส ที่เหลืองไปก่อนหน้านี้แล้วพุ่งเสียบสกัด เจมส์ แม็ดดิสัน กลางสนามผู้ตัดสินแจกเหลืองสอง กลายเป็นใบแดงออกจากสนามไป

    คนเยอะกว่า เลสเตอร์ เลยทำได้น้ำได้เนื้อ ทีเลมันส์ รับบอลจาก แมดดิสัน หน้าเขตโทษแล้วแทงเข้าช่องสวยให้ วาร์ดี้ หลุดไปกดจากฝั่งซ้ายของเขตโทษยัดเสาแรกแต่ เลโน่ ซูเปอร์เซฟรับได้อีก

    ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนผู้เล่นโดย "จิ้งจอก" ส่งตัวรุกอย่าง แฮวี่ บาร์นส์ ลงมาเล่นแทน วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้ ส่วน "ปืนใหญ่" ถอด อเล็กซ์ อีโวบี้ ลงมาเล่นแทน โลร็อง กอสเซียนี่

    น.50 เลสเตอร์ มีโอกาสลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ กระชากหลบแนวรับ อาร์เซน่อล หลุดเข้ามาดีดด้วยขวาแต่ยังติดเซฟ แบรนด์ เลโน่

    จากนั้น น.59 เลสเตอร์ ที่บุกเข้าใส่อย่างหนักมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เจมส์ แมดดิสัน เปิดจากนอกกรอบเข้าเขตโทษไปเข้าหัว ยูริ ตีเลม็องส์ ได้โขกเหน่งๆไม่เหลือ

    ยังเป็นโอกาสลุ้นของ "จิ้งจอก" ใน น.73 ยูริ ตีเลม็องส์ หวิดทำประตูที่สองของตัวเองเมื่อได้บอลหน้าเขตโทษได้บรรจงวางเท้าปั่นบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

    นาทีถัดมาเจ้าถิ่นหวิดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดายเมื่อ แบรนด์ เลโน่ เซฟสองจังหวะสำคัญติดๆกันจากลูกยิงของ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ทางขวา และอีกหนึ่งจังหวะจากลูกยิงดาบสองของ แฮวี่ บาร์นส์

    น.87 เลสเตอร์ ขึ้นนำ 2-0 จนได้ เมื่อ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเดี่ยวกระดกบอลข้ามหัว เลโน่ ไปชนคานในจังหวะแรก ก่อนบอลจะกลับมาเข้าทาง วาร์ดี้ อีกครั้งตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ

     เท่านั้นไม่พอช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย สกอร์เป็น 3-0 จนได้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า แหวกเข้าไปดื้อๆ ก่อนหักกลับมาให้ เจมี่ วาร์ดี้ แปโล่งๆ ไม่เหลือ จบเกม เลสเตอร์ เปิดบ้านถล่ม อาร์เซน่อล ขาดลอย 3-0 ทำให้ทีมปืนโตต้องเหนื่อยกับการลุ้นท็อป 4 ต่อไป
 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เลสเตอร์ : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เบน ชิลเวลล์ -ฮัมซ่า ชูดูรี่ (นอมปาลิส เมนดี้ น.79) - มาร์ค อัลไบรท์ตัน (เดมาไร เกรย์ น.86), ยูริ ทีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (ฮาร์วี่์ย์ บาร์นส์ น.46), เจมส์ แมดดิสัน - เจมี่ วาร์ดี้  

อาร์เซน่อล  : แบร์นด์ เลโน่ - เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ชโคดราน มุสตาฟี่, เซอัด โคลาซินาช -  เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน (มัตเตโอ เก็นดูซี่่ น.74),  กรานิต ชาคา, ลูกัส ตอร์เรร่า  อเล็กซ์ อิโวบี (โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ น.46) - ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมย็อง, อเลซ็องด์ร ลากาแซ็ตต์ (เอ็ดเวิร์ด เอนเคเทียห์ น.79)

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์