หลังจาก อาร์เซน่อล จบฤดูกาล 2018-19 ด้วยผลงานที่น่าผิดหวังด้วยการจบอันดับที่ 5 พร้อมกับชวดแชมป์ยูโรปา ลีก จากการแพ้ต่อเชลซี เละเทะ 1-4 ในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" ยังต้องชวดไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าอีกด้วย

    เรื่องดังกล่าวทำให้ อาร์เซน่อล ควรที่จะต้องทุ่มผู้เล่นชั้นนำเข้ามาเสริมทัพ อย่างไรก็ตามแทนที่ อูไน เอเมรี่ จะได้รับเงินจากบอร์ดบริหารในการซื้อนักเตะเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อกลับไปทวงพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซํ่นหน้า แต่เขากลับได้รับการอนุมัติงบประมาณเพียง 40 ล้านปอนด์ ในการช็อปนักเตะจากบอร์ดบริหาร

    หากไปเทียบกับบอร์นมัธซึ่งไม่เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆได้เลย และมีสนามเหย้าอย่าง ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ที่มีความจุเพียง 11,329 ที่นั่งเท่านั้น ที่แตกต่างกับ เอมิเรต สเตเดี้ยม ที่จุได้ถึง 60,260 ที่นั่ง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้มันแสดงให้เห็นได้ชัดว่าทั้งสองสโมสรมีรายรับที่แตกต่างกันมากขนาดไหน แต่ถึงกระนั้นในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะสองรอบที่ผ่านมาทัพ "เดอะเชอร์รีส์" กลับใช้เงินเสริมทัพมากกว่าจำนวนที่ "ปืนใหญ่" ได้รับถึงเท่าตัวเลยทีเดียว

    อย่างที่ทราบกันดีว่า สแตน โครเอนเก้ เจ้าของทีมเป็นคนที่เขี้ยวลากดิน และคงหมดโอกาสที่จะเพื่มงบประมาณให้ เอเมรี่ ทำให้เจ้าตัวจำเป็นต้องใช้เงินที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุดเพื่อจะกอบกู้วิกฤตของทีมกลับมาให้ได้ ซึ่งนี่คือ 3 วิธีที่กุนซือวัย 47 ปีควรทำมากที่สุด

3.เจาะตลาดในลีกเอิง   

    อาร์เซน่อล ต้องการนักเตะในตำแหน่งกองกลาง และปีก ซึ่งหากมองไปที่ลีกเอิง ฝรั่งเศสตอนนี้มีนักเตะที่คุณสมบัติเหมาะสมกับงบประมาณของ "เดอะ กันเนอร์ส"

    นิโคลัส เปเป้ ปีกจากลีลล์ อาจเป็นแข้งที่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่ทว่าเขาจะมีราคาที่สูงเกินไปเกินจะ"ปืนใหญ่" จะเอื้อมถึง แต่หากมองจากตัวเลือกอื่นๆในตำแหน่งนี้ยังมี อิสไมล่า ซาร์ ปีกดาวรุ่งชาวเซเนกัลที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุกโดยมีสไตล์ที่ใกล้เคียงกับ เปเป้ โดยเจ้าตัวทำไป 13 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ทุกรายการเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โดยคาดว่านักเตะจะมีค่าตัวเพียง 25 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่พวกเขายังต้องลุ้นแย่งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนใจตัวนักเตะเช่นเดียวกัน 

    ขณะเดียวกันพวกเขาก็จะได้ตัว รีส เนลสัน ปีกดาวรุ่งที่จะกลับมาจากการยืมตัวจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ซึ่งจะมาเป็นตัวเลือกชั้นดีในเกมรุก หลังนักเตะไปโชว์ฟอร์มน่าประทับใจกับทีม “หมู่บ้านหรรษา” ในซีซํ่นที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตามอีกตำแหน่งที่ทีมของ เอเมรี่ ต้องเสริมทัพไม่แพ้กันคือมิดฟิลด์ตัวกลาง แม้ว่าตอนนี้จะมี ลูคัส ตอร์เรยร่า ที่ย้ายมาแจ้งเกิดได้แต่โดยรวมแล้วเขาก็ยังโชว์ฟอร์มเด่นได้ไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร อย่าลืมว่าตอนนี้ อาเดรียง ราบิโอต์ มิดฟิลด์เลือดน้ำหอมของ ปารีส แซง แชร์กแมง กำลังเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์หลังหมดสัญญากับต้นสังกัด โดยเจ้าตัวเคยร่วมงานกับ เอเมรี่ มาแล้วในปี 2016-18 โดยได้ลงเล่นถึง 89 เกม แต่ในซีซํ่นที่ผ่านมาเข้าถูกส่งลงสนามเพียง 20 เกมเท่านั้นหลังจากไปมีปัญหาส่วนตัวกับ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันจนหมดอนาคตกับทีมไปในที่สุด

    ย้อนไปในปี 2016 ราบิโอต์ เคยให้สัมภาษณ์ถึง เอเมรี่ เอาไว้ว่า "เอเมรี่ เดินมาคุยกับผมหลังการฝึกซ็อมว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรไหม? ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้จัดการทีม"

    แม้จะมีหลายทีมชั้นนำต้องการตัวดาวเตะวัย 24 ปีไปเสริมทัพมากมาย แต่การที่ ราบิโอต์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกุนซือชาวสเปนก็อาจเป็นเรื่องที่ดึงดูดนักเตะให้ย้ายมาค้าแข้งในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมด้วยเช่นกัน

2.ตัวเลือกในแนวรับ

    พรีเมียร์ลีก ซีซํ่นที่ผ่านมามีเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้นทีเสียประตูมากกว่า อาร์เซน่อล ในบรรดาท็อปซิกซ์ ทุกคนต่างเห็นแล้วว่าการมีกองหลังระดับโลกมันสร้างความแตกต่างได้แค่ไหน

    แมนฯ ซิตี้ แชมป์ซีซํ่นนี้มี เอเมอริค ลาป๊อร์กต์ ส่วน ลิเวอร์พูล รองแชมป์ลีก และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มีเฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นตัวชูโรง แต่พวกเขามีค่าตัวรวมกันถึง 132 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ อาร์เซน่อล ไม่อาจหาตัวระดับโลกมาร่วมทีมได้เลย

    และหากพวกเขาได้ ราบิโอต์ มาแบบฟรีๆ ก็จะทำให้ยังมีงบช็อปกองหลังเหลือเฟือ โดยตัวเลือกที่น่าสนใจเป็น เฌเน ดาโกนัม ปราการชาวโตโกของ เคตาเฟ่ ที่เคยตกเป็นข่าวพัวพันกับ อาร์เซน่อล มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยซีซํ่นที่ผ่านมาแข้งวัย 27 ปี โชว์ฟอร์มโดดเด่นโดยมีสถิติการสกัดบอลถึง 74 ครั้ง มากกว่ากองหลังในลา ลีกาคนอื่นๆ ช่วยทีมจนอันดับ 5ของตารางและพลาดคว้าตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพียง 2 แต้มเท่านั้น

     ดาโกนัม มีทั้งความดุดัน และความแข็งแกร่ง ที่จะมาช่วยเพิ่มเกมรับของทีมได้มากขึ้น หลังจากพวกเขามีข้อผิดพลาดในแนวรับให้เห็นบ่อยครั้งโดยเฉพาะในรายของ ชโคดราน มุสตาฟี่ ดาโกนัม มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 35 ล้านยูโร (หรือประมาณ 30 ล้านปอนด์)

1.ขายนักเตะออก

    การปล่อย อาร์รอน แรมซีย์ ไปแบบฟรีๆให้กับ ยูเวนตุส ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งผิดพลาดของ อาร์เซน่อล ที่ล้มเหลวในการต่อสัญญาฉบับใหม่กับแข้งทีมชาติเวลส์ อย่างไรตามตอนนี้ทีมยังมีผู้เล่นชื่อดังที่ยังขายได้ราคาสูงอย่าง เมซุส โอซิล มิดฟิลด์ชาวเยอรมัน หลังจากเจ้าตัวโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังให้ซีซั่นที่แล้วโดยมีสถิติทำ 5 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ในพรีเมียร์ลีก พร้อมโดนวิจารณ์อย่างหนัก ว่าเขาดีพอจะอยู่กับทีมต่อไปหรือไม่?

    รวมถึงยังมีรายงานด้วยว่าเจ้าตัวไปมีปัญหาขัดแย้งอย่างรุนแรงกับ เอเมรี่ หลังจบเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก นัดที่ต้นสังกัดแพ้ เชลซี 1-4 เมื่อวันพุธที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ดาวเตะวัย 30 ปีมีโอกาสสูงที่จะอำลาทีมไปในซัมเมอร์นี้ และน่าจะทำราคาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว  

    นอกจากนี้การที่เจ้าตัวมีค่าเหนื่อยสูงถึง 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ นั่นทำให้ "ปืนใหญ่" จะเอาค่าเหนื่อยดังกล่าวไปทุ่มให้ ราบิโอต์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงนักเตะมาร่วมทีมแทน 

    ขณะเดียวกันค่าตัวของเขาจะมาช่วยสนับสนุนงบประมาณในการซื้อนักเตะรายอื่นๆของ เอเมรี่ โดย เพอร์รี่ โกรฟส์ อดีตตำนานนักเตะ อาร์เซน่อล เรียกร้องให้ เอเมรี่ ใช้งบประมาณทั้งหมดทุ่นให้ บอร์นมัธ เพื่อคว้าตัว ไรอัน เฟรเซอร์ มิดฟิลด์เลือดสกอต มาร่วมทีมให้ได้ รวมถึง ลูอิส ดังค์ เซ็นเตอร์พันธ์แกร่งของ ไบรท์ตัน อีกด้วย ทำให้การปล่อย โอซิล ออกดูจะเป็นแนวทางที่อาจจะเหมาะสมที่สุดแล้ว

    สุดท้ายนี้แม้ว่า เอเมรี่ จะมีต้นทุนแค่ 40 ล้าน แต่มันก็เป็นบทพิสูจน์ของเขาแล้วว่าจะใช้มันได้คุ้มค่าขนาดไหน...