"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ พิชิต นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปแบบหล่อๆ ด้วยสถิติชนะ 100% มี 15 คะแนนเต็ม จากการลงแข่ง 5 นัด โดยเกมนี้ "สาลิกาดง" ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 7 แต่ทัพนักเตะ "หงส์แดง" ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความตื่นตระหนก, ตั้งหน้าตั้งตาเล่นไปตามเกมของตัวเอง ซึ่งสุดท้ายก็พลิกซิวชัยได้อย่างงดงาม และนี่คือ 5 ประเด็นที่ได้จากเกมนี้
 
- เกมทีมชาติส่งผล
     เป็นปัญหาที่ทุกสโมสรใหญ่เจอเหมือนกันหมด เพราะหลังกลับมาจากช่วงพักเบรกเกมทีมชาติทีไร แต่ละสโมสรที่มีนักเตะไปรับใช้ชาติเยอะๆ ก็จะมีฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานเป็นประจำ และเกมนี้ "หงส์แดง" ก็ออกสตาร์ตแบบเนือยๆ อย่างเห็นได้ชัด และนั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้ นิวคาสเซิ่ล ทำประตูขึ้นนำก่อน แต่ก็ต้องชื่นชมลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่กลับมาได้เร็วและเล่นได้เยือกเย็น จนพลิกกลับมาคว้าชัยได้อย่างยอดเยี่ยม
 

- ฟีร์มีโน่ หัวใจเกมรุกของจริง
     แน่นอนว่า การบาดเจ็บของ ดีว็อค โอริกี้ ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับ ลิเวอร์พูล แต่มันก็กลับกลายเป็นดีเสียอย่างนั้น อย่างน้อยๆ ก็สำหรับเกมนี้ เพราะนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่นั่งสำรอง ได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีที่ 37 ซึ่ง "บ็อบบี้" ก็ช่วยพลิกเกมได้ทันที เพราะนาทีที่ 40 เขาเป็นคนที่ไปแย่งบอลจากคู่แข่ง และเปิดให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปทำประตูช่วยทีมพลิกขึ้นนำ 2-1 จากนั้นนาทีที่ 72 ก็แอสซิสต์แบบเหนือชั้นให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำประตูย้ำชัย 3-1 ถือเป็นการแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ฟีร์มีโน่ นี่แหละ คือ "หัวใจ" เกมรุกของ ลิเวอร์พูล แม้ทำประตูได้น้อยกว่า มาเน่ และ ซาลาห์ ก็ตาม 
 
 
 
- ซาลาห์, มาเน่ มีสกอร์ = แฮปปี้
     หลังจากที่มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นในเกมก่อนที่บุกไปถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0 เกมนี้ทุกอย่างดูเหมือนกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ต่างตั้งหน้าตั้งตาเล่นเพื่อทีมและยิ้มแย้มให้กัน และที่สำคัญเกมนี้ทั้งสองต่างทำประตูได้ด้วย บทสรุปก็แฮปปี้เอนดิ้ง  
 

 - มาเน่ ไร้พ่ายที่ แอนฟิลด์
     เกมนี้เป็นการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ที่ แอนฟิลด์ นัดที่ 50 ของ มาเน่ ภายใต้ยูนิฟอร์ม "หงส์แดง" และที่น่าทึ่งคือ มาเน่ แพ้ไม่เป็นตลอด 50 เกมที่ว่านี้ แถมเป็นการชนะถึง 41 เกม (เสมอ 9) ด้วย ถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมากๆ และเกมนี้ดาวเตะเซเนกัลเกือบทำแฮตทริกได้ด้วย เพราะช่วงครึ่งหลังส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
 
 

 
- กอบโกยความมั่นใจก่อนเจอโปรแกรมโหด
     ไม่ว่าผลการแข่งขันในวันข้างหน้าจะออกมาเป็นเช่นไร แต่ชัยชนะนัดนี้ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับทัพ "หงส์แดง" ได้เป็นอย่างดี เพราะ 4 เกมต่อไปนี้ของ ลิเวอร์พูล เป็นการออกไปเยือนทั้งหมด แต่จะเจอใครบ้างนั้น ลองดูกัน   
     - เยือน นาโปลี : เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก วันอังคารที่ 17 กันยายน      
     - เยือน เชลซี : เกม พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน
     - เยือน มิลตัน คีย์นส์ ดอนส์ : เกม คาราบาว คัพ รอบ 3 วันพุธที่ 25 กันยายน
     - เยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด : เกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 28 กันยายน