หลังจากตัดสินใจสลัดน้ำหมึกจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่ไปอีก 4 ปีของ ดาบิด เดเคอา ที่หวังจะสร้างตำนานเฝ้าเสาให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 16 กันยายนปีก่อน แต่หลังจากนั้นเพียง 12 วันเจ้าตัวไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะถูก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือมาดนิ่ง กระทำการบางอย่างแบบ "ไร้ความปราณี" กับเขาได้ถึงเพียงนี้...จากบางส่วนของบทความใน "เดอะ ไทม์" (The Time) สื่อยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลบนเกาะอังกฤษ

    มีรายงานว่านายใหญ่เลือดนอร์เวย์สั่งลดบทบาทของ เอมิลิโอ อัลวาเรซ บลังโก้ โค้ชผู้รักษาประตูของทีม โดยแต่งตั้ง "โค้ชผู้รักษาประตูอาวุโส" ขึ้นมาทำหน้าที่แทน ก่อนท้ายที่สุดแล้ว อัลวาเรซ จะถูกแมนยูไล่ออกช่วงปลายเดือนกันยายน 2019

    อัลวาเรซ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดัน เด เคอา ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูแถวหน้าของโลก ซึ่งทั้งสองคนสนิทกันมาตั้งแต่ครั้งนายด่านชาวสเปนยังเป็นดาวรุ่งที่ แอต.มาดริด ไม่เพียงแค่ในฐานะโค้ชกับนักเตะที่คอยให้คำปรึกษาในการฝึกเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือน ญาติสนิท และ เพื่อนคู่คิดที่ดีต่อกันอีกด้วย

        "เมื่อใดก็ตามที่เขา (โซลชา) ตัดสินใจแล้วว่าคุณหมดความมุ่งมั่น และ ทำตัวไปในทางที่ไม่ดี เขาจำเป็นที่จะต้องตัดขาดคุณในทันที เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ อัลวาเรซ"  เดอะไทม์ เขียนไว้ถึงความเข้มงวดในส่วนนี้ของอตีดแข้งสำรองระดับตำนานของทัพอสูรแดง

    เอมิลิโอ อัลวาเรซ ถูกพบว่าเข้าไปดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตอนนั้นยูไนเต็ดอยู่ในการออกทัวร์ปรีซีซั่น ที่ เมืองเพิร์ท  เมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์น ประเทศออสเตรเลีย และ โค้ชนักดื่มถูกจับได้ว่านั่งยกแก้วจนถึงตีสี่กันเลยทีเดียว

    มีข่าวบางกระแสหลุดออกมาว่า ทีมงานบางคนที่ยังคงร่วมงานกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ได้แสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการไล่ อัลวาเรซ ออกจากทีมเพียงแค่เหตุผลเท่านี้ เพราะนั่นก็เป็นคืนสุดท้ายของการทัวร์ที่เขาออกไปดื่มแต่ความเห็นดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไรนัก

    อาจเป็นเรื่องที่บังเอิญ..?? ที่ โซลชา รอให้เรื่องสัญญาฉบับใหม่ของ ดาบิด เด เคอา บรรลุข้อตกลงและมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการณ์ไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2019 ก่อนที่จะสั่งปลด อัลวาเรซ ในช่วงปลายเดือนเดียวกัน (28 กันยายน 2019) แต่มันก็ยังน่าสงสัยอยู่ดี..?? หรือก็อาจเป็นไปได้ว่าบอสใหญ่ ณ โรงละครแห่งความฝันต้องการให้เรื่องอนาคตของ เด เคอา กับทางสโมสรผ่านพ้นไปด้วยดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดความไม่แน่ใจขึ้นและ เด เคอา อาจชิงไปปรึกษาเรื่องนี้กับ อัลวาเรซ ก่อนเอ่ยปากตกลง และ ทำให้การเซ็นสัญญาฉบับนี้สั่นคลอนก็เป็นได้

    ความจริงที่เกิดขึ้น คือ ยอดนายด่านวัย 29 ปี ทำผลงานได้น่าผิดหวังเมื่อจบฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเสียแต้มสำคัญเพื่อทำอันดับไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเมื่อเริ่มซีซั่นใหม่ เด เคอา เหมือนยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นอย่างต่อเนื่องกับเกมถูก พาทริค ฟาน อานโฮลท์ กองหลังพาเลซซัดนาทีที่ 90+3 แล้วบอลรอดแขนเข้าไปทำให้ผีแดงพ่ายคา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-2 ซึ่งเหมือนกับว่าหลังการจากไปของ อัลวาเรซ ฟอร์มการเล่นที่เลิศหรูของ เด เคอา ก็ไม่กลับมาอีกเลย

    หลังจากที่โค้ชคู่คิดของ เด เคอา ถูกขับออกพันทีมไปเห็นได้ชัดว่าฟอร์มการเล่นที่เคยประดุจเทพแห่งทัพอสูรแดงของเขาตกลงไปอย่างชัดเจน ที่เห็นได้แบบชัดๆ กับเกมนัดบุกเยือน เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ในนาทีที่ 3 จากจังหวะที่ เด เคอา ดึงบอลช้าและพยายามเตะเคลียร์แต่ดันติดขา โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่วิ่งเข้ามาบล็อกอย่างจังจนบนกระดอนย้อนเข้าประตู แต่ยังดีที่ไม่แพ้เพราะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หวดไกลสุดสวยช่วยไล่จบเสมอแบ่งแต้มกันไปที่ 1-1

    เอียน ไรท์ อดีตดาวยิงระดับตำนานของอาร์เซน่อล ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า การเลิกจ้าง เอมิลิโอ อัลวาเรซ มีส่วนสำคัญโดยตรงที่ทำให้ฟอร์มการเล่นของ เด เคอา ไม่โดนเด่นเหมือนเดิม

        ไรท์ ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมไปอีกว่า "ความสัมพันธ์ของ ผู้รักษาประตู กับ โค้ช นั่นแน่นแฟ้นและมีความซื่อสัตย์ต่อกัน เหมือน เดวิด ซีแมน กับ ป๊อป วิลสัน (ตอนอยู่อาร์เซน่อล) มันจะมีจิตที่ตรงกันในสิ่งที่พวกเขาทำกันอยู่"

        "ผู้รักษาประตู (เด เคอา) ของคุณต้องการเขา (อัลวาเรซ) เพราะเขาคือคู่หูกัน และ เป็นทุกอย่างของกันและกัน"

        "และเมื่อคุณเสียใครสักคนที่เป็นคนสำคัญ, คุณ (โซลชา) กำลังทำมันอยู่, มันจะส่งผลเสียอย่างมาก ถ้าเป็มผมจะให้สิ่งนั้นที่เขา (เด เคอา) ต้องการอย่างแน่นอน" ไรท์ อดีตปืนกระสุนหนักที่ซัดให้อาร์เซน่อลถึง 128 ประตู กล่าวทิ้งท้าย
       

    สำหรับ เอมิลิโอ อัลวาเรซ บลังโก้ เคยเป็นผู้ที่ดูแล ดาบิด เด เคอา สมัยที่นายด่านรายนี้ยังเฝ้าเสาที่ แอตเลติโก มาดริด ตั้งแต่เป็นดาวรุ่งจนยึดมือหนึ่งของทีมได้ และพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก เขาคือคนที่  โชเซ่ มูรินโญ่ ดึงตัวมาร่วมทีมสต๊าฟโค้ชที่แมนยูเมื่อปี 2016

    และอีกปัจจัยคือ โค้ชผู้รักษาประตูคนนี้ ยังมีความสนิทสนมกับ จอร์จ เมนเดส ซึ่งเป็นเอเยนต์คู่ใจของมูรินโญ่ โดย เมนเดส และ เด เคอา เอง เป็นคนแนะนำให้เฮียมู ดึงเขาเข้ามาเป็นสตาฟฟ์ประจำทีมในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

    อย่างไรก็ตาม  โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่เห็นถึงความจำเป็นในความสัมพันธ์นั้น และ แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะกำจัดทุกคน หรือใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น หรือ ผู้ฝึกสอนที่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีที่สโมสรแห่งนี้

    ในฐานะผู้เล่นกุนซือชาวนอร์เวย์มีฉายาว่า "เพชรฆาตหน้าทารก" แต่เมื่อเขาอยู่ในบทบาทกุนซือฉายา "ฆาตกร..หน้าทารก" ก็อาจเหมาะสมกับเขาเช่นกัน....หรือว่านี่คือทายาทผู้สืบทอดตำนาน "ไดร์เป่าผมพิฆาต" ต่อจากผมจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน