แดนนี่ เมอร์ฟี่ ระบุ ในมุมมองของตน ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้แชมป์ลีกในซีซั่นใหม่มากกว่า แมนฯ ซิตี้ เพราะตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" ไม่น่าจะได้ ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทัพแล้ว โดยถึงขั้นบอกว่า เมสซี่ คือคนเดียวที่จะช่วยทำให้ แมนฯ ซิตี้ หยุดเส้นทางการป้องกันแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ได้ด้วยซ้ำ

แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตกองกลางคนดังของ ลิเวอร์พูล กล่าวว่าการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะอดได้ ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตนมองว่า "หงส์แดง" มีโอกาสได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 มากกว่า "เรือใบสีฟ้า"

ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ถูกมองว่าเป็น 2 ทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก มากที่สุดในตอนนี้ หลังจากมีปัจจัยโดยรวมดีกว่าทีมอื่นๆ โดยรายของ แมนฯ ซิตี้ เคยตกเป็นข่าวว่าจะได้ เมสซี่ มาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย แต่ไม่นานมานี้ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ยอมรับเองว่าจะอยู่กับทีมต่อไปอีก 1 ปี เพราะไม่สามารถใช้เงื่อนไขยกเลิกสัญญาได้จนส่งผลให้เขาจะย้ายทีมได้ก็ต่อเมื่อมีคนยอมจ่ายเงินเท่าค่าฉีกสัญญาเท่านั้น ซึ่งเงินก้อนที่ว่าก็สูงถึง 700 ล้านยูโร (ประมาณ 25,900 ล้านบาท) ทำให้ทางเดียวที่ เมสซี่ จะย้ายทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ก็คือ บาร์เซโลน่า ยอมขายเขาในราคาที่ถูกกว่าค่าฉีกสัญญา

เมอร์ฟี่ เผยว่า "ผมคิดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ หรือไม่ก็ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเป็นคนที่ได้แชมป์เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม แต่ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งล่าสุดเกี่ยวกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันทำให้ตอนนี้ความได้เปรียบกลับมาอยู่ที่ แอนฟิลด์ แล้ว ตอนนี้ปัจจัยทุกอย่างชี้ไปในทางที่ว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสดีกว่าที่จะได้แชมป์ พวกเขามีทั้งทีมเวิร์กที่ดี, ทุกคนเข้าใจงานของตัวเอง ไม่ว่าจะฟูลแบ็กไปจนถึงกองหน้า ถ้าให้เปรียบเทียบกับกรณีแบบรถยนต์ก็เหมือนกับว่าคุณผ่านการตรวจความปลอดภัยของกระทรวงคมนาคมตั้งแต่ก่อนจะเข้าโรงเก็บรถด้วยซ้ำ"

"บางคนจะกังขาถึงการที่พวกเขาไม่เสริมทัพเยอะเท่าไหร่ แต่ผมมั่นใจว่า คล็อปป์ มีความเชื่อแบบเดียวกับสุภาษิตเก่าแก่ที่บอกว่า -ถ้ามันไม่เสียก็ไม่จำเป็นต้องซ่อม- ความอึดของ 3 แดนหน้าที่ประกอบไปด้วย โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มันน่าทึ่งมากๆ ต้องให้เครดิตกับพวกเขา และฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาของ ลิเวอร์พูล"

"คุณบอกว่าพวกเขาไม่มีอะไหล่มากพองั้นเหรอ ? ที่จริงพวกเขามีทั้ง ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ, เซอร์ดาน ชากิรี่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ริอาน บรูว์สเตอร์ นะ คล็อปป์ ดูเหมือนว่าจะพอใจกับเรื่องนั้น และเขาก็ตัดสินใจได้ถูกต้องในเกือบทุกเรื่อง การเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวที่ถูกพูดถึงในตอนนี้คือการที่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อาจจะย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ถ้าหาก จินี่ ไวจ์นัลดุม ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่ที่จริงมันไม่ได้จะทำให้ ลิเวอร์พูล มีสภาพแย่ลงเลย ผมไม่กังวลกับเรื่องนั้นหรอก"

 "สำหรับ ซิตี้ น่ะ ทางเดียวที่พวกเขาจะหยุด ลิเวอร์พูล ได้ก็คือพวกเขาต้องเซ็นสัญญากับ เมสซี่ แต่ตอนนี้มันไม่น่าจะเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นแล้วหลังจากที่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากว่า บาร์ซ่า จะเปลี่ยนใจและเลือกขายเขาด้วยราคาที่ถูกลงล่ะนะ ถ้าเกิด เมสซี่ ไปอยู่กับ ซิตี้ มันก็จะเป็นการพลิกสถานการณ์ในการลุ้นแชมป์จากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เพราะเขาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา"

"จริงอยู่ว่าฤดูกาลก่อน ซิตี้ แพ้ไป 9 นัด แต่ที่จริงในเกมเหล่านั้นพวกเขาครองเกมเอาไว้ได้เกือบหมด มันก็แค่พวกเขาทำประตูจากโอกาสที่มีไม่ได้เท่านั้น ซึ่งนั่นจะไม่เกิดขึ้นกับทีมที่มี เมสซี่ ให้ใช้งาน เขาจะได้รับบอลจากเพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่องถ้าอยู่กับ ซิตี้ ชุดนี้ และจะหาทางทำประตูได้แน่ มันน่าเสียหายสำหรับแฟนๆ พรีเมียร์ลีก ที่ต้องรอไปอีกสักพักกว่าที่จะได้เห็นฝีเท้าของ เมสซี่ แต่สำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล แล้วนั้น พวกเขาคงจะยินดีกันสุดๆ ส่วนตัวผมยกให้พวกเขาเป็นเต็งแชมป์ในตอนนี้ ต่อให้บรรดาบ่อนรับพนันจะไม่เห็นด้วยกับผมก็ตาม"