แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องพ่ายแพ้ให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็ตาม แต่อย่างน้อยๆ พวกเขาก็มีผู้เล่นที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และควรได้รับคำชื่นชมจากสาวก "เร้ด อาร์มี่"

สกอร์ 1-3 อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ความจริงแล้วเป็นสกอร์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นหาก "ปีศาจแดง" มีความเฉียบคมในแดนหน้ามากกว่านี้ อย่างไรก็ตามในความพ่ายแพ้ก็ยังมีเรื่องที่น่าประทับใจ เพราะอย่างน้อยๆ นักเตะ 5 รายก็สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับทีม
       
มาร์คัส แรชฟอร์ด

ต้องยอมรับว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด มีบทบาทสำคัญในเกมกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพราะความรวดเร็ว และคล่องแคล่วว่องไวของเขามีส่วนในการปั่นป่วนเกมรับของผู้มาเยือน โดยเฉพาะในช่วงที่ทัพ "ปีศาจแดง" มีสกอร์เสมอกับ "เปแอสเช" 1-1

แรชฟอร์ด เป็นผู้เล่นที่สร้างความหนักอกหนักใจให้กับ แซงต์-แชร์กแมง อย่างมาก เพราะในช่วงที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสกอร์เป็นรอง เขาพยายามที่จะสร้างโอกาสเพื่อยิงประตูให้ได้ และก็มาสัมฤทธิ์ผล ซึ่งประตูตีเสมอทำให้ "ผีแดง" สามารถเล่นในสไตล์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

จะเห็นได้อย่างชัดเจนในครึ่งหลังเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้กลยุทธ์สวนกลับ และส่วนใหญ่จะฝากบอลเอาไว้กับ แรชฟอร์ด ซึ่งก็ได้ผลอย่างดีเยี่ยม เพราะทุกครั้งที่ได้บอลเจ้าตัวจะใช้ความเร็วในการป่วนเกมรับ "เปแอสเช" จนหลุดเข้าไปสร้างโอกาสให้กับทีมได้หลายครั้ง

น่าเสียดายที่นักเตะดันมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนในช่วงท้ายเกม เพราะหากเขายังอยู่ในทีม บรรดาสาวก "เร้ด อาร์มี่" ยังพอฝากความหวังในการยิงประตูตีเสมอ แต่เมื่อนักเตะต้องถูกเปลี่ยนตัวออก โอกาสที่ต้องการก็แทบจะไม่เหลืออะไรอีกเลย
 
สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

ในขณะที่คู่หูแดนกลางอย่าง เฟร็ด ทำให้ตัวเองต้องเจอกับงานยากลำบาก จนนำไปสู่การโดนไล่ออกในครึ่งหลัง แต่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ สามารถสร้างผลงานที่น่าประทับใจมากๆ ในการสู้กับบรรดานักเตะระดับโลกหลายคนที่อยู่ในทัพ "เปแอสเช"

แม็คโทมิเนย์ สามารถต่อกรกับบรรดานักเตะที่มีทักษะสูงอย่าง เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยดาวเตะเลือดสกอตแลนด์ จัดการเสียบสกัดบอลได้อย่างแม่นยำถึง 7 คนในช่วงระหว่างที่ปะทะกับทีมเยือน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ สตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน ถึงกับโมโห เพราะโดนทีเด็ดของ แม็คโทมิเนย์ จัดการจนอยู่หมัด

แน่นอนว่า กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ คงจะต้องรับบทบาทสำคัญในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องออกไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก ในแมตช์สุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า เพราะ เฟร็ด หมดสิทธิ์ลงเล่นเนื่องจากติดโทษแบน

อย่างไรก็ตามงานนี้มีโอกาสที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเลือก แม็คโทมิเนย์ ลงสนามร่วมกับ ปอล ป็อกบา หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริงๆ งานนี้ ไลป์ซิก อาจจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในการรับมือกับแผงกองกลาง "ผีแดง" หาก "น้าลูกอม" เลือกกลยุทธ์แบบนี้
 
วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ

แม้ว่าในช่วงต้นฤดูกาลนี้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ จะโดนวิจารณ์บ่อยครั้งก็ตาม แต่ช่วงหลังๆ มานี้เขาสามารถจับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้อย่างลงตัว และนักเตะก็พิสูจน์ศักยภาพได้อย่างดีเยี่ยมในเกมที่ต้องรับมือกับสโมสรที่มีแนวรุกระดับพันล้านได้อย่างสุดยอด

ลินเดอเลิฟ ต้องเจอกับงานสุดหินในการหยุดความร้อนแรงของ เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ โดยเฉพาะในรายหลัง เซนเตอร์แบ็กทีมชาติสวีเดน ต้องดวลกันบ่อยมากตลอดทั้งเกม และ ลินเดอเลิฟ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการหยุด หัวหอกชาวฝรั่งเศส ไม่ให้ทำประตูแบบจะๆ ได้ถึงสองครั้งสองครา

ต้องยอมรับว่าตอนนี้ ลินเดอเลิฟ สามารถทำงานสอดประสานได้อย่างลงตัวกับ แม็กไกวร์ ทำให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการจัดการกับความร้อนแรงของ เนย์มาร์ และ เอ็มบัปเป้ ทั้งสองคนทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ

สำหรับในเกมต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก แฟนบอล "ผีแดง" คงรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเมื่อได้เห็น ลินเดอเลิฟ ยืนคู่เซนเตอร์แบ็กกับ แม็กไกวร์ เพราะพวกเขาน่าจะจัดการกับเกมบุกของ "ขุนค้อน" ได้ไม่ยากเย็นนัก   

อารอน วาน-บิสซาก้า

อีกหนึ่งนักเตะที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ สำหรับ อารอน วาน-บิสซาก้า เพราะแข้งรายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นคนแอสซิสต์สำคัญให้ แรชฟอร์ด ยิงประตูตีเสมอ ซึ่งเป็นการแอสซิสต์ครั้งแรกของเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้

วาน-บิสซาก้า มีส่วนในการเติมเกมบุกให้กับทีมในเกมดวล "เปแอสเช" และยังส่งบอลให้ แรชฟอร์ด ซัดประตู โดยจังหวะนี้เป็นหนึ่งในสองจังหวะที่ แบ็กขวาเจ้าของฉายา "เดอะ สไปเดอร์" หรือ "ไอ้แมงมุม" ได้สร้างขึ้นมาในแมตช์ดังกล่าว

ในส่วนของเกมรุกแน่นอนว่า วาน-บิสซาก้า ค่อยๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับเกมรับนี่คือจุดเด่นของนักเตะอย่างแท้จริงๆ โดยในช่วงระหว่างเกมเจ้าตัวสามารถเล่นเกมรับได้อย่างสุดยอด ซึ่งเหมือนกับที่เขาทำได้ในเกมบุกเยือนกรุงปารีส

ฟอร์มการเล่นเกมรับของเขาทำให้แนวรุก แซงต์-แชร์กแมง ที่พยายามจะเจาะเกมทางขวาไม่สามารถทำอะไรได้เลย จนสุดท้ายต้องหันไปขึ้นเกมบุกฝั่งซ้ายแทน ฉะนั้นต้องยอมรับว่าพื้นที่ฝั่งขวาของ "ปีศาจแดง" เป็นพื้นที่ที่ยากจะเจาะเข้าไปทำเกม เนื่องจากมี วาน-บิสซาก้า ประจำการอยู่
 
เอดินสัน คาวานี่

ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า โซลชา ได้พบกับหน้าเป้าที่เฝ้ารอแล้ว เพราะ เอดินสัน คาวานี่ มีทุกอย่างที่กองหน้าจอมเพชฌฆาตระดับโลกควรมี ทั้งความสามารถเฉพาะ และการวิ่งหาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษ ฉะนั้นอายุที่เข้าเลขสามของเขาไม่มีผลต่อฟอร์มการเล่นชั้นยอดแม้แต่นิดเดียว

สำหรับในเกมกับ "เปแอสเช" ต้องบอกว่าหาก คาวานี่ มีนักเตะที่ป้อนบอลได้แม่นๆ แล้วละก็โอกาสที่พวกเขาจะยิงประตูทีมเยือนได้หลายลูกมีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่กระนั้นสิ่งนี้ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "เอล มาทาดอร์" ยังมีอันตรายในทุกย่างก้าวที่อยู่ในเขตโทษ

ในส่วนของการยิงประตู คาวานี่ ได้แสดงให้เห็นไปแล้วเต็มสองตาในเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน และเกมกับ ทีมดังเมืองน้ำหอม เขายังโชว์คลาสบอลระดับโลกด้วยการชิพบอลข้ามหัว เคย์เลอร์ นาบาส แต่น่าเสียดายที่บอลดันไปชนคาน ไม่งั้นคงเป็นหนึ่งในประตูสุดสวยประจำสัปดาห์ของเหล่าพรรคพล "เร้ด อาร์มี่"

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ คาวานี่ แสดงให้เห็นทั้งในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ แซงต์-แชร์กแมง เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า เขาคือหน้าเป้าธรรมชาติที่ยังเต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บ และพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อได้ตลอดเวลาหากปล่อยให้มีโอกาสเพียงเสี้ยววินาที

ฉะนั้นในเกมพรีเมียร์ลีก เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด งานนี้คงได้เห็น คาวานี่ ยืนไล่ล่าตาข่ายอีกเกม และน่าจะอีกหลายๆ เกมในอนาคตด้วย

ทอมเม้ง