ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ฟีร์มีโน่เริ่มฮอต,มินามิโนะปลดล็อค! 8 ประเด็นเกมลิเวอร์พูลบุกกระซวกโหดพาเลซ- ชัยชนะที่รอคอยสำหรับแชมป์เก่า

ฟีร์มีโน่เริ่มฮอต,มินามิโนะปลดล็อค! 8 ประเด็นเกมลิเวอร์พูลบุกกระซวกโหดพาเลซ- ชัยชนะที่รอคอยสำหรับแชมป์เก่า

Posted 20/12/2020 by siamsport

ถือเป็นสกอร์ที่ออกมาขาดลอย และเป็นงานที่ง่ายดายเกินคาดสำหรับทีมแชมป์เก่าอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดเมื่อคืนวันเสาร์ บุกไปกระซวก คริสตัล พาเลซ แบบไม่มียั้งด้วยสกอร์ 7-0 ซึ่งจากแมตช์นี้มีเรื่องดีๆ มากมายสำหรับ ลิเวอร์พูล และนี่คือ 8 ประเด็นที่น่าสนใจเน้นๆ จากเกมที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
 
- ชัยชนะที่รอคอยสำหรับแชมป์เก่า

  นอกจากเป็นชัยชนะสุดสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล การันตีตำแหน่งจ่าฝูงในสุดสัปดาห์นี้แล้ว ยังถือเป็นชัยชนะที่รอคอยสำหรับทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกด้วย เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่า ซีซั่นนี้ "หงส์แดง" มีผลงานเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก ไม่ดีเลย ชนะแค่นัดแรกเท่านั้น (บุกสอย เชลซี 2-0 เมื่อวันที่ 20 กันยายน) แต่หลังจากนั้นชนะใครไม่เป็นมา 5 เกมติด (เสมอ 4 แพ้ 1) ดังนั้นการบุกมาเก็บสามแต้มที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาคว้าชัยเกมเยือนได้อีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนานร่วม 3 เดือน แถมเป็นชัยชนะแบบสุดอลังการด้วย

 - ประตูได้-เสียดีกว่าทุกทีมแล้วนะ!

 ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทซีซั่นด้วยการคว้าชัยรวด 3 เกมแรก พร้อมกับมีผลต่างประตูได้-เสียแบบสวยๆ ที่ +5 แต่หลังจากบุกไปพ่าย แอสตัน วิลล่า แบบล็อกถล่มด้วยสกอร์ 2-7 ทำให้ผลต่างประตูได้-เสียกลับมาเป็น 0 ขณะที่ทีมอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, เชลซี และ เลสเตอร์ ซิตี้ กลับเดินหน้าทำประตูอย่างเมามันส์ จน ลิเวอร์พูล ดูด้อยกว่าเพื่อนในเรื่องของประตูได้และประตูเสีย ต่อให้ยังคงอยู่ในกลุ่มบนตารางก็ตาม แต่... ล่าสุดหลังจากที่กด พาเลซ ไป 7 เม็ด ทำให้ตอนนี้ "หงส์แดง" แซง สเปอร์ส ขึ้นมาเป็นทีมที่มีผลต่างประตูได้-เสียดีสุดในลีกเรียบร้อยที่ +17 

 - จริงๆ เกมอาจไม่ขาดแบบนี้?

หากใครได้ชมเกมจะเห็นได้ว่า แม้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 เร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่หลังจากนั้น พาเลซ เล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงกลางครึ่งแรกที่มีลุ้นเสียวๆ หลายครั้ง เน้นๆ เลยคือช่วงนาทีที่ 23 ที่ จอร์แดน อายิว มีโอกาสได้พาบอลเดี่ยวๆ เข้ากรอบเขตโทษ (ฟาบินโญ่ ดันพลาดท่าลื่นล้ม) และผ่านบอลเข้ากลางแบบเน้นๆ แต่บอลดันย้อนหลัง วิลฟรีด ซาฮา ที่วิ่งมาโล่งๆ อย่างน่าเสียดาย ซึ่งนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับ พาเลซ ในการลุ้นทำประตูตีเสมอ เพราะถ้าทำได้ เกมคงจะแตกต่างออกไป และก็อย่างที่รู้ๆ กัน หลังจากนั้นพอ "หงส์แดง" เริ่มฟื้น พวกเขามาได้ประตู 2-0 จาก ซาดิโอ มาเน่ นาทีที่ 35 ต่อด้วย 3-0 ในนาทีที่ 44 จาก โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำเอาจากที่ยังได้ลุ้น กลายเป็นเกมขาดตั้งแต่จบครึ่งแรกซะงั้น
 
- มินามิโนะ & เฮนเดอร์สัน ปลดล็อค

 ก่อนหน้านี้ ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวรุกจอมพลิ้วทีมชาติญี่ปุ่น ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 3 ลูก นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ช่วงกลางซีซั่นที่แล้ว แต่ในเกม พรีเมียร์ลีก นั้น เจ้าตัวยังลั่นสกอร์ไม่ได้เลย จนกระทั่งมาถึงเกมนี้ (เกมที่ 18 ในลีก) ที่เจ้าตัวเปิดซิงประตูแรกเกมลีกภายใต้ยูนิฟอร์ม "หงส์แดง" ได้สำเร็จ ซึ่งเรียกความมั่นใจให้กับ ดาวเตะเลือดซามูไรวัย 25 ปี ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมคนเก่ง ก็เบิกสกอร์แรกในฤดูกาลนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จ (นัดที่ 16) ด้วยลูกยิงสุดสวยเป็นประตู 4-0 ในนาทีที่ 52

  - ความบังเอิญของ มินามิโนะ

ถือเป็นเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความบังเอิญของ มินามิโนะ เพราะเจ้าตัวเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2019... หลังจากนั้น 1 ปีเต็มๆ พอดิบพอดี เจ้าตัวก็มาทำประตูแรกในศึก พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ

 - ประตูเริ่มมาเรื่อยๆ สำหรับ "บ็อบบี้"

ก่อนหน้านี้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถูกมองว่าเป็นกองหน้าที่ทำประตูไม่ค่อยเป็น จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ดูเหมือนว่า ตอนนี้จิตวิญญาณแห่งจอมเพชฌฆาตได้กลับมาสิงร่าง ฟีร์มีโน่ อีกครั้ง เพราะจากที่ไร้สกอร์มา 6 เกมติด กลายเป็นว่า 2 เกมล่าสุด เจ้าตัวกระทุ้งไปแล้ว 3 ตุง ซึ่งนั่นก็คือ 2 ตุงจากเกมนี้ และลูกโขกประตูชัย 2-1 ในนาทีสุดท้าย เกมเปิดบ้านเชือด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 เมื่อวันพุธ ซึ่งเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คงคาดหวังที่จะเห็น "บ็อบบี้" ทำสกอร์ได้อีกเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอนนี้ ดิโอโก้ โชต้า กำลังเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน  

 - มาเน่ กลับมาแล้ว

 นอกจากเรื่องดีๆ ของ มินามิโนะ กับ ฟีร์มีโน่ แล้ว ก็มาถึงคิวของ มาเน่ บ้าง เพราะเกมนี้เจ้าตัวทำประตูได้ ซึ่งถือเป็นการกลับมายิงในเกม พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง หลังจากที่ปืนฝืดยาวมา 8 นัดติด หรือนับตั้งแต่เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ ที่ ลิเวอร์พูล บุกเจ๊า เอฟเวอร์ตัน 2-2 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม

- ซาลาห์ ขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโว

  แม้เริ่มต้นเกมด้วยการนั่งสำรอง แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน มาเน่ ในนาทีที่ 57 และจัดหนักทันทีด้วยการแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ กดประตู 5-0 ก่อนเหมาทำคนเดียวสองตุงปิดท้าย ซึ่งสองประตูนี้ได้ส่งให้เจ้าตัวนำเดี่ยวในชาร์ตดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก ด้วย ที่จำนวน 13 ประตู

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »