ศึกยูโรปา ลีก เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในสองตัวแทนจากเกาะอังกฤษเตรียมเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของทีมแกร่งจากอิตาลีอย่าง โรม่า ซึ่งทั้งสองทีมนี้ก็มีประวัตศาสตร์การเจอกันในฟุตบอลถ้วยยุโรปมายาวนาน นี่จึงเป็นเกมที่น่าดูน่าชมเป็นอย่างยิ่ง ก่อนเกมเรานำประเด็นที่น่าสนใจมาให้ได้ติดตามกัน

1.ดราม่าก่อนเกม

ก่อนเกมนี้ก็มีประเด็นดราม่าเรียกน้ำย่อยเล็กน้อยเนื่องจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาเองไม่ค่อยรู้จักสโมสรโรม่ามากนักและไม่เคยได้ดูพวกเขาเล่นด้วย ด้วยคำพูดนี้ก็สร้างความเดือดให้แก่แฟนบอล “หมาป่ากรุงโรม” จนถึงกับทำป้ายที่มีรูปของ โซลชา พร้อมกับข้อความเป็นภาษาอิตาเลียนที่ระบุว่า "ทำให้แน่ใจว่าเขาจะจดจำเราได้" ติดเอาไว้ที่สนามซ้อมของสโมสร

ต่อมากุนซือ “ผีแดง” จึงออกมาเคลียร์ประเด็นนี้ว่าตนไม่ได้มีเจตนาพูดจาดูถูกหรือไม่ให้เกียรติ โรม่า และตัวเขาก็ยังมีเสื้อของ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ และ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ที่แลกไว้สมัยค้าแข้งเก็บอยู่ที่บ้านด้วย

2.ทีมอิตาลีผีช่ำ

นี่จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 7 ของทั้งสองทีมในฟุตบอลยุโรป โดยที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งแพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (ชนะ 4 เสมอ 1) ซึ่งแมตช์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นนี่จะเป็นการเจอกันครั้งแรกใน ยูโรปา ลีก

ก่อนหน้านี้ 3 ครั้งที่ โรม่า มาเยือนถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นจบลงด้วยความพ่ายแพ้ทุกแมตช์แถมเสียประตูถึง 9 ลูกและยิงได้แค่ประตูเดียว แน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงเกมประวัติศาสตร์ในปี 2007 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กระซวก โรม่า ถึง 7-1 โดยเกมนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาสองประตู

แมนฯ​ ยูไนเต็ด ยังมีสถิติที่ดีอีกหนึ่งอย่างคือพวกเขาแพ้ต่อทีมจากอิตาลีแค่นัดเดียวจาก 12 ครั้งหลังสุดในฟุตบอลยุโรป (ชนะ 8 เสมอ 3) โดยครั้งเดียวที่พ่ายแพ้นี้เกิดขึ้นในฤดูกาล 2018-19 ที่ ยูเวนตุส บุกมาอัดคาบ้านในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.

3.เช็กฟอร์มสองอดีตแข้งผี

แน่นอนว่าประเด็นที่หลายคนจับตามองคือการกลับมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ดของอดีตผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง คริส สมอลลิ่ง และ เฮนริค มคิทาร์ยาน โดยทั้งสองอยู่ในทีมชุดที่ โชเซ่ มูรินโญ่ พา “ปีศาจแดง” คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ในปี 2017 ด้วย

คริส สมอลลิ่ง ผู้ซึ่งค้าแข้งกับ แมนฯ​ ยูไนเต็ด มา 10 ปีถูกปล่อยยืมให้ โรม่า ใช้งานเมื่อฤดูกาลที่แล้วและทำผลงานน่าประทับใจมาก สุดท้ายเจ้าตัวได้ย้ายไปค้าแข้งที่อิตาลีถาวรหลังถูกขายทิ้งในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทว่าฤดูกาลนี้ปราการหลังวัย 31 ปีเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้ลงเล่นในลีกแค่ 15 นัดเท่านั้น สมอลลิ่งเพิ่งกลับมาลงสนามในเกมล่าสุดกับ กายารี่ โดยลงเล่นทั้งหมด 59 นาที

ส่วน เฮนริค มคิทาร์ยาน นั้นเป็นตัวความหวังของ โรม่า ในฤดูกาลนี้โดยทำสถิติมีส่วนร่วมกับประตูถึง 22 ลูกรวมทุกรายการแบ่งเป็นยิง 11 แอสซิสต์ 11 ทว่าช่วงนี้เจ้าตัวต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บเลยทำให้ฟอร์มดร็อปลงไป ยิงและแอสซิสต์ไม่ได้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว

4.โรม่ากำลังเป๋

ฤดูกาลหน้า โรม่า อาจจะไม่ได้ไปแม้กระทั่ง ยูโรปา ลีก เพราะพวกเขารั้งอยู่อันดับ 7 ของตารางโดยมีแต้มห่างพื้นที่ ชปล. อยู่ถึง 11 แต้มและห่างโซนยูโรปา ลีกอยู่ 6 แต้ม

นับตั้งแต่ ยูโรปา ลีก กลับมาเตะกันในเดือนกุมภาพันธ์ ฟอร์มของพวกเขาก็ดร็อปลงอย่างชัดเจนจนมาถึงเกมล่าสุดที่พ่ายแพ้ต่อทีมหนตกชั้นอย่าง กายารี่ 3-2 ย้อนกลับไปหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งบุกแพ้ โตริโน่ 3-1 สรุปแล้วตอนนี้พวกเขาชนะเกมลีกแค่นัดเดียวจาก 8 นัดหลังสุด คงต้องบอกว่า เปาโล ฟอนเซก้า มีปัญหาในการแบ่งทีมเตะสองรายการพร้อมกัน

แต่พวกเขายังวาดฝันที่จะเข้าชิงฟุตบอลถ้วยยุโรปครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยในรายการ ยูโรปา ลีก นั้น โรม่า ฝ่ารอบน็อคเอาท์มาแบบยังไม่แพ้ใคร เอาชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ได้ทั้งไปและกลับ ส่วนรอบ 8 ทีมสุดท้ายสามารถกบุกชนะทีมแกร่งอย่าง อาแจ็กซ์ พร้อมกับยันเสมอในบ้านมาได้สำเร็จ

5.อาถรรพ์รอบรองยังอยู่ไหม?

แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ โซลชา ยังไม่เคยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในฟุตบอลถ้วยทุกรายการเลยสักครั้ง น่าแปลกใจที่พวกเขามักจะตกม้าตายในรอบรองชนะเลิศอยู่บ่อยครั้ง ย้อนกลับไปฤดูกาล 2019/20 “ผีแดง” แพ้รอบรองฯ ทั้งในศึก คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก ขณะที่ฤดูกาลนี้ก็ตกรอบนี้ในฟุตบอล คาราบาว คัพ อีกเช่นเคย

นี่จะเป็นโอกาสครั้งที่ 5 ของ โซลชา และแมนฯ ยูไนเต็ด มีบทเรียนในถ้วยนี้แล้วจากการโดน เซบีย่า เขี่ยตกรอบเมื่อ 8 เดือนก่อน ซึ่งกุนซือก็ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมเชื่อว่านักเตะได้รับประสบการณ์มากขึ้นและจะนำมาเป็นแรงกระตุ้นในเกมคืนนี้ รอดูกันว่าครั้งนี้พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?