ตีเลอมันส์ยิงโหด,ชไมเคิ่ลฮีโร่ท้ายเกม!ตัดเกรดแข้งเลสเตอร์นัดสอยแชมป์เอฟเอคัพ
Posted 16/05/2021 by siamsport
"จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่ หลังเอาชนะ เชลซี 1-0 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่สังเวียนแข้ง เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยถึงแม้ ยิรู ตีเลอมันส์ เป็นฮีโร่ของทีม ที่ซัดประตูชัยอย่างสุดสวย แต่ก็ต้องชื่นชมแนวรับ รวมถือผู้รักษาประตูที่ช่วยกันได้อย่างเหนียวแน่น และนี่คือผลสอบของลูกทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แต่ละคนในแมตช์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริง
- แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล : 8
มีส่วนอย่างมากต่อชัยชนะของทีม โดยโชว์สองเซฟสำคัญช่วงท้ายเกม (ลูกโขกของ เบน ชิลเวลล์ และลูกยิงของ เมสัน เมาท์) ซึ่งถือเป็นการเซฟที่ไม่ง่ายเลย
- เวสลี่ย์ โฟฟาน่า : 8
ปราการหลังชาวฝรั่งเศสวัย 20 ปี ช่วยเกมรับได้เยอะมาก เล่นได้แข็งแกร่งและมีความมั่นใจ โดยช่วยตัดบอลได้ถึง 6 ครั้ง ซึ่งมากสุดเหนือทุกคนในเกมนี้
- จอนนี่ อีแวนส์ : 6.5
ได้เล่นแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะมีปัญหาบาดเจ็บ แต่ตอนอยู่ในสนามถือว่าเล่นได้โอเค ไม่มีข้อผิดพลาด
- ชัคลาร์ โซยุนชู : 8.5
เล่นได้สุดยอดในนัดนี้ โดยรับมือเกมรุกคู่แข่งได้ทุกรูปแบบ ช่วยตัดบอล 4 ครั้ง, เคลียร์บอลได้ถึง 6 ครั้ง และชนะดวลลูกอากาศถึง 8 หน ซึ่งสองอย่างหลังสุดถือเป็นสถิติสูงสุดเหนือทุกคนในเกมนี้
- ทิโมธี กาสตาญ : 7
เริ่มต้นด้วยการเล่นเป็นวิงแบ็กฝั่งขวา ก่อนขยับยืนเซนเตอร์แบ็กแทน อีแวนส์ ที่เจ็บ และทำผลงานได้โอเคเลย ในการรับมือกับบรรดาตัวรุก "สิงห์บลูส์"
- ยูริ ตีเลอมันส์ : 8
นอกจากซัดประตูชัยอย่างสุดสวยแล้ว ยังทำผลงานได้เด่นมากๆ ในแดนกลาง ช่วยตัดบอลได้หลายครั้ง
- วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ : 8
ออกสตาร์ทไม่ค่อยดี แต่หลังจากนั้นยกระดับฟอร์มขึ้นมาได้ เล่นได้ดุดันมากๆ ในแดนกลาง ทำเอา เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดร็อปไปเลย โดยตลอดทั้งเกมมีสถิติแท็กเกิ้ลชนะถึง 7 ครั้ง ซึ่งมากสุดเหนือทุกคนในเกมนี้
- ลุค โธมัส : 7.5
ฟอร์มไม่เลวเลยสำหรับ ดาวเตะวัย 19 ปี โดยเป็นคนผ่านบอลให้ ตีเลอมันส์ ซัดประตูชัย แถมช่วยเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะการดวลกับ ฮาคิม ซิเย็ค และมีสถิติแท็กเกิ้ลชนะถึง 5 หน ซึ่งมากสุดอันดับสองของเกม (รองจาก เอ็นดิดี้)
- อาโยเซ่ เปเรซ : 6
ยืนเป็นตัวรุกอยู่ข้างหลังคู่กองหน้า แค่ได้ช่วยเกมรับเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เล่นตามสไตล์ถนัดของตัวเอง
- เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ : 5.5
จากที่ฟอร์มกำลังร้อน มาเกมนี้เงียบกริบ เล่นไม่ออก ไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูแม้แต่หนเดียว ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกกลางครึ่งหลัง
- เจมี่ วาร์ดี้ : 7
แม้ไม่มีประตู แต่ก็เล่นได้ค่อนข้างอันตราย และทุ่มเทเต็มร้อยเหมือนเดิม
สำรองที่ได้เล่น
- มาร์ค อัลไบรท์ตัน (แทน อีแวนส์ น. 34) : 7
ทำผงานได้ไม่เลวกับการช่วยเกมรุกทางฝั่งขวา
- เจมส์ แมดดิสัน (แทน อิเฮียนาโน่ น. 67) : 5
ทำอะไรไม่ได้มากกับ 20 กว่านาทีในสนาม
- เวส มอร์แกน (แทน โธมัส น. 82) : -
ไม่สามารถให้คะแนนได้ แต่โชคดีสุดๆ ที่ไม่ได้ชื่อเป็นคนทำเข้าประตูตัวเองช่วงท้ายเกม (จังหวะนั้น ชิลเวลล์ ล้ำหน้าก่อน)
- ฮัมซ่า เชาด์รี่ (แทน เปเรซ น. 82) : -
ไม่สามารถให้คะแนนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ร็อดเจอร์สสุดยอด! 5 ประเด็นเด็ดหลังเลสเตอร์สยบเชลซีผงาดแชมป์เอฟเอคัพ
หลังจากผิดหวังในนัดชิงชนะเลิศรายการนี้มาทั้งหมด 4 ครั้ง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ล้างอาถรรพ์ได้สำเร็ลหลังผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยการเฉือนชนะ เชลซี 1-0 โดยชัยชนะนี้ต้องยกเครดิตให้กับกุนซือและนักเตะของทัพ "จิ้งจอก" ที่เฉียบขาดมากกว่าทางฝั่ง เชลซี เกมนี้มีหลายประเด็นน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกมรุกสุดฝืดของ "สิงห์บลูส์" หรือจะเป็นสถิติใหม่ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เรามาเจาะลึกกันทีละเรื่องเลย137ปีที่รอคอย! เลสเตอร์ทุบเชลซีผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยแรก
ยูริ ตีเลมันส์ กลายเป็นฮีโร่ของ "จิ้งจอกสยาม" หลังซัดประตูชัยสุดสวยพาทีมเฉือนเอาชนะ เชลซี 1-0 คว้าแชมป์สมัยแรกของสโมสรนับแต่ก่อตั้งมา 137 ปี อีกทั้ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลายเป็นกุนซือคนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาได้ในรอบชิงชนะเลิศที่สนาม เวมบลี่ย์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาสิงห์ข่ม,ร็อดเจอร์สเก่งนัดชิง!เกร็ดก่อนศึกเอฟเอคัพ "เชลซี VS เลสเตอร์ ซิตี้"
คืนนี้เราจะได้รู้กันแล้วว่า ใครคือแชมป์ เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2020/21 ระหว่าง เชลซี กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งดูจากชื่อชั้นแล้ว แน่นอนว่า "สิงห์บลูส์" เหนือกว่า และดูมีโอกาสได้เฮมากกว่า แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า ฟุตบอลถ้วยสุดขลังรายการนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และนี่คือเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจก่อนเกมรองชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ หนที่ 140ก็องเต้คีย์แมน,วาร์ดี้-อิเฮียนาโช่ความหวังทำลายเกมรับ! 5 ประเด็น ชิงฯเอฟเอคัพ
ศึกเอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาลนี้จะได้รู้กันแล้วว่าทีมไหนจะผงาดคว้าแชมป์ไปครอบระหว่าง เชลซี กับ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยการฟาดแข้งแมตช์นี้จะเป็นการวัดกึ๋นของสองกุนซือคลั่งเกมบุกอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล และ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
โดนรัวครึ่งหลัง! ไทย บุกพ่าย ญี่...
คลิปไฮไลท์