บียาร์เรอัล ผงาดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้เป็นสมัยแรก หลังโชว์ความแม่นในการดวลจุดโทษเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 11-10 (เสมอในเวลา 90 นาที 1-1) ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ อูไน เอเมรี่ ยังทำสถิติคว้าแชมป์รายการนี้สมัยที่ 4 หลังเคยพา เซบีย่า ผงาดคว้าแชมป์มาแล้ว 3 สมัยติด

สนาม : สตาดิโอน เอเนอร์ก้า กดังส์ค, กดังส์ค โปแลนด์

    ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระหว่าง บียาร์เรอัล ที่ผ่าน อาร์เซน่อล ในรอบตัดเชือกเข้ามาได้ด้วยสกอร์รวม 2-1 พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ในรอบรองฯคว้าชัยเหนือ โรม่า ด้วยสกอร์รวมถึง 8-5 โดยคู่นี้เคยเจอกันมา 4 ครั้งล่าสุด เสมอด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งหมด

    อูไน เอเมรี่ ผู้ช่ำชองในถ้วยใบนี้เกมนี้ไร้ชื่อ ซามูเอล ชุควูเอเซ่ ที่ไม่ผ่านความฟิตหายจากอาการเจ็บ แนวรุกใช้ เคราร์ด โมเรโน่ ดาวซัลโวประจำทีมยืนล่าตาข่ายคู่กับ การ์ลอส บัคก้า โดยมี ดานี่ ปาเรโฆ ปั้นเกมตรงกลาง

    ส่วนทางฝั่ง "ผีแดง" ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งหมายมั่นจะคว้าแชมป์แรกให้กับตัวเองให้ได้ เกมนี้ข่าวดีได้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มีชื่อบนม้านั่งสำรอง โดยคู่เซ็นเตอร์ใช้ เอริก ไบยี่ จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ มี ปอล ป็อกบา ปั้นเกมสนับสนุน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ,มาร์คัส แรชฟอร์ด และเมสัน กรีนวู้ด โดยทิ้ง เอดินสัน คาวานี่ เป็นหน้าเป้า

    ออกสตาร์ทเกมมาได้ 7 นาที "ผีแดง" เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากเข้าไปในกรอบแต่หามุมยิงไม่ได้ ก่อนจ่ายคืนหลังให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตั้งป้อมซ้ดด้วยขวากลางประตูบอลพุ่งเลียดหลุดกรอบออกไป

    นาที 16 เป็นโอกาสลุ้นหนแรกของ บียาร์เรอัล หลังบอลเล่นสั้นจากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ดานี่ ปาเรโฆ เปิดยาวมาเสาไกลให้ มานู ตริเกรอส วิ่งสอดเข้ามาแปด้วยขวาแต่ยิงไม่ถนัดบอลเลยเหินโด่งออกหลังไปไกล

    อีก 4 นาทีถัดมา ลูกทีมของโซลขาได้เสียวอีก คราวนี้ แอรอน แวน-บิสซาก้า ครอสไปโดน อัลบิโอล แนวรับของเรือดำน้ำสีเหลืองสกัดออกมา แต่ไปเข้าทาง ลุค ชอว์ อัดด้วยซ้ายผ่านหน้าปากประตูหลุดกรอบออกไป

    นาที 22 การ์ลอส บัคก้า โชว์สกิลพาบอลถึงเส้นหลังก่อนไขว้เปิดด้วยขวาไปให้  เปา ตอร์เรส โขกข้ามคานออกไป จากนั้นไม่ถึงนาทีถัดมา "ผีแดง" สวนกลับขึ้นมาคราวนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลองสับไกเต็มแรงนอกกรอบแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว เคโรนิโม่ รูยี่

    นาที 29 กลายเป็น บียาร์เรอัล ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คาวานี่ ไปฟาวล์เสียฟรีคิก ก่อนที่ ดานี่ ปาเรโฆ่ จะเปิดบอลโค้งเข้าไปในกรอบให้ เคราร์ด โมเรโน่ หนีตัวประกบวิ่งเข้าไปเบียดกับ ลินเดอเลิฟ ก่อนล้มแปด้วยขวาผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไป เป็นประตูที่ 30 รวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ของหัวหอกทีมชาติสเปน

    ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+1 ผีแดงเกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง เมสัน กรีนวู้ด พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปหน้าประตูไปโดน ราอูล อัลบิโอล บอลเปลี่ยนทางสุดเสียว แต่ยังไปเข้ามือ คโรนิโม่ รูยี่ นายด่านเรือดำน้ำสีเหลืองรับไว้ได้

    จบครึ่งแรก บียาร์เรอัล ขึ้นนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0

    ครึ่งหลัง นาที 55 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ใช้ความขยันตามไปแย่งบอลก่อนกลับตัวซัดด้วยซ้ายไปแฉลบแนวรับบียาร์เรอัลออกหลัง

    และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่องในนาทีถัดมา "ผีแดง" มาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลจากลุค ชอว์เปิดไปโดน ราอูล อัลบิโอล สกัดออกมา มาร์คัส แรชฟอร์ด เก็บบอลได้ก่อนซัดจากแถวสองซ้ำเข้าไปบอลไปติด อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า ก่อนกระดอนไปชน แม็คโทมิเนย์ แล้วมาเข้าทาง เอดินสัน คาวานี่ วิ่งไปซัดด้วยขวาไม่ถึง 6 หลาเข้าไปตุงตาข่าย ผู้ตัดสินเช็กกับ วีเออาร์ ก่อนยืนยันให้ประตู

    นาที 57 แนวรับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" เริ่มป่วน ลูกทีมของโซลชาเปิดเกมรุกกดดันเข้าใส่อย่างหนัก และเกือบได้ลุ้นแซงขึ้นนำหลัง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เล่นต่อไม่ได้ก่อนไหลคืนให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส วิ่งมาซัดบอลพุ่งเลียดผ่าน คาวานี่ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    นาที 70 แมนฯยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองที่จะแซงขึ้นนำ หลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปครอสมาหน้าประตูให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาแปหลุดเสาออกไปอย่างน่าผิดหวัง

    อีกนาทีถัดมา ลุค ชอว์ แตะบอลหนีแนวรับบียาร์เรอัลก่อนเปิดด้วยขวาข้างไม่ถนัดไปเสาไกลให้ เอดินสัน คาวานี่ ขึ้นโขกแต่บอลไปติดตัว เปา ตอร์เรส อย่างน่าเสียดาย

    นาที 79 "ผีแดง" เปิดเกมรุกเข้าบดอย่างหนัก คราวนี้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่วันนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมพาบอลถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดมาเสาแรกให้ เอดินสัน คาวานี้ กระโดดหลบบอลแต่ไขว้ไม่โดนไปติดแนวรับบียาร์เรอัลก่อนออกหลังหวุดหวิด

    อีกนาทีต่อมา แรชฟอร์ด กระชากหนีจากด้านซ้ายเข้าไปซัดด้วยขวาจากนอกกรอบแต่บอลก็หลุดกรอบออกหลังอย่างน่าผิดหวัง

    นาที 89 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เสียวอีกหลัง ลุค ชอว์ ครอสไปกลางประตูให้ ปอล ป็อกบา สอดเข้ามาโขกแต่บอลหลุดคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เปา ตอร์เรส เก็บบอลได้ในกรอบก่อนแต่งเข้าซ้ายแต่ซัดเหินคานออกไปแบบหมดลุ้น

    จนจบเกมเสมอกันไป 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาแชมป์ของผู้ชนะรายการนี้

    เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ โอกาสจะแจ้งของทั้งสองทีมยังไม่มีให้เห็น นาที 99 มอย โกเมซ ลากบอลขึ้นมาก่อนป้ายออกซ้ายให้ อัลแบร์โต้ โมเรโน่ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับแต่บอลหลุดเสาแรกออกไปแบบหมดลุ้น

    จากนั้นไม่ถึงนาทีถัดมา เคราร์ด โมเรโน่ รับบอลในกรอบทว่าจังหวะยิงด้วยขวาซัดหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

    ผ่านครบไป 100 นาที บียาร์เรอัล โอกาสยิง 11 เข้ากรอบหนเดียว ส่วน "ผีแดง" โอกาสยิงถึง 14 ครั้ง และเข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถพังประตูกันได้ ครบ 120 นาทียังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการดวลลูกที่จุดโทษ

    ซึ่งผลปรากฎว่า 10 คนแรกของทั้งสองทีมยิงได้อย่างแม่นยำส่งบอลเข้าก้นตาข่าย ก่อนคนที่ 11 ของ บียาร์เรอัล จะวนมาที่ เคโรนิโม่ รูยี่ มือกาวที่ยิงเข้าไปก่อน โยนความกดดันมาให้ ดาบิด เด เคอา ซึ่งผลปรากฎว่า นายด่านชาวสเปนยิงไม่ดีซัดไปติดมือของ รูยี่ ส่งผลให้ บียาร์เรอัล ผงาดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกเป็นสมัยแรก

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    บียาร์เรอัล (4-4-2) : เคโรนิโม่ รูยี่ - ฮวน ฟอยธ์ (มาริโอ แกสปาร์ น.88), ราอูล อัลบิโอล, เปา ตอร์เรส, อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า (อัลแบร์โต้ โมเรโน่ น.88) - เยเรมี่ ปิโน่ (ปาโก้ อัลกาแซร์ น.77), เอเตียนน์ กาปู (เรบ้า น.120+3), ดานี่ ปาเรโฆ, มานู ตริเกรอส (มอย โกเมซ น.77) - เคราร์ด โมเรโน่, การ์ลอส บัคก้า (ฟรานซิสโก้ โกเกแล็ง น.60)

    เทรนเนอร์ : อูไน เอเมรี่

     แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน แวน-บิสซาก้า (ฆวน มาต้า น.120+3), เอริค ไบยี่ (อั๊กเซล ตวนเซเบ้ น.116), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (อเล็กซ์ เตลลิส น.120+3), ปอล ป็อกบา (แดเนี่ยล เจมส์ น.117) - เมสัน กรีนวู้ด (เฟร็ด น.100), บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เอดินสัน คาวานี่

    เทรนเนอร์ : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

    ผู้ตัดสิน : กเลม็องต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)