"ตราไก่" ทีมแชมป์โลกทำผลงานได้ตามเป้าหลังเบียด "อินทรีเหล็ก" 1-0 จากประตูช่วงต้นเกมของ มัตส์ ฮุมเมลส์ ทำเข้าประตูตัวเองส่ง ฝรั่งเศส เก็บ 3 แต้มสำคัญแต่ประตูได้-เสียเป็นรอง โปรตุเกส ยึดอันดับสองของกลุ่ม ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ คืนวันอังคารที่ผ่านมา
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า, มิวนิค (เยอรมัน)

    ศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายนัดที่สองของ กลุ่ม เอฟ ประจำวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า เมือง มิวนิค ประเทศ เยอรมัน เป็นการพบกันระหว่าง ฝรั่งเศส ดวล เยอรมัน

    ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศส พาทีมถล่มบัลแกเรีย 3-0 ในเกมลับแข้งล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด  

    ส่วนทาง โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน พาทีมถล่มลัตเวีย 7-1 ในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม

    เปิดฉากครึ่งแรก 4 นาที "อินทรีเหล็ก" ทักทายก่อนจากฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวาของ โทนี่ โครส ทิ้งยาวเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลถึง มัตส์ ฮุมเมลส์ โขกไปโดนใต้บอลเหินข้ามคานหลุดออกหลังไปไกล

    15 นาทีผ่านรูปเกมเปิดแลกกันสนุก ฝรั่งเศส ออกหมัดบ้างจากจังหวะประสานงานสุดสวย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แทงบอลออกขวาให้ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ หลุดขึ้นมาปาดเข้าเขตโทษติดบล็อค มัทธีอัส กินเตอร์ แหย่ทิ้งออกหลัง

    จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อ็องตวน กรีซมันน์ ปั่นบอลโค้งเข้าเขตโทษมาตกใส่หัว ปอล ป็อกบา ขึ้นดีกว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แต่โขกกดไม่ลงผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เหินข้ามคานนิดเดียว

    นาทีที่ 18 "ตราไก่" เริ่มทำได้ดีกว่าจากความสามารถเฉพาะตัวของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนตัดเข้าในปั่นด้วยขวาหนีบล็อค มัทธีอัส กินเตอร์ ติดปลายมือ มานูเอล นอยเออร์ ชกทิ้งหวุดหวิด

    แต่แล้วนาทีที่ 20 ฝรั่งเศส ทะยานออกนำ 1-0 จนได้จากบอลทางขวาของ ปอล ป็อกบา หยอดติดไซค์ก้อยเข้าเขตโทษลึกไปเสาไกลถึง ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ สอดมาตบเข้าในไปแฉลบหน้าขา มัตส์ ฮุมเมลส์ สกัดไม่ดีเปลี่ยนทางเสยเพดานตาข่ายฝั่งตัวเอง

    นาทีต่อมา "อินทรีเหล็ก" สวนกลับทันควันจากจังหวะชุลมุนหน้าประตูบอลไหลออกมาทางฝั่งซ้ายเข้าทาง โรบิน โกเซนส์ หยอดย้อนเข้าไปให้  โธมัส มุลเลอร์ โขกเปลี่ยนทางแต่โดนไม่เต็มลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 38 คราวนี้เป็น โรบิน โกเซนส์ สอดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดยัดเข้าในแฉลบบล็อค แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ย้อยเข้าเขตโทษเข้าทาง แซร์ช นาบรี ขยับมาดีดย้อนมาหน้ากรอบ 6 หลาถึง อิลคาย กุนโดกัน ตามมาซัดด้วยขวาแต่โดนไม่เต็มกระดอนพื้นหลุดออกหลัง

    หมดครึ่งเวลาแรก ฝรั่งเศส 1 เยอรมัน 0

    นาทีที่ 52 "ตราไก่" หวิดบวกสกอร์เพิ่มจากจังหวะจ่ายสุดเหนือชั้นของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดีดไซค์ก้อยตัดแนวรับออกซ้ายให้ อาเดรียง ราบิโอต์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนหลอกหน้าเท้าซัดยัดเสาแรกโชคไม่ดีไปชนเสาเหลี่ยมนอกเด้งออกหลัง

    ต่อนานาทีที่ 54 เยอรมัน ออกหมัดคืนบ้างจากบอลทางซ้ายของ โรบิน โกเซนส์ ครอสเข้าเขตโทษข้ามหัว เปรสแนล คิมเป็มเบ้ ลึกมาเสาไกลถึง แซร์ช นาบรี ตั้งเท้าแปด้วยขวากระดอนพื้นผ่านมือ อูโก้ โยริส เฉี่ยวคานออกไปคืบเดียว

    60 นาทีผ่าน เยอรมัน พยายามเร่งเครื่องได้เสียวเพิ่มจากจังหวะสอดมาแตะหลบ อูโก้ โยริส ของ แซร์ช นาบรี และเป็น โรบิน โกเซนส์ โถมมาพยายามโขกที่เสาไกลแต่ก็ยังไม่ดีพอเป็นประตูตีเสมอ

    6 นาทีต่อมา แฟนบอล ฝรั่งเศส หวิดได้เฮจากบอลของ ปอล ป็อกบา เปลี่ยนออกซ้ายให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ สอดมาเก็บบอลพาเข้าเขตโทษก่อนดึงจังหวะปั่นด้วยขวาอ้อมแนวรับ เยอรมัน พุ่งผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ เช็ดโคนเสาไกลตุงตาข่าย เสียดายมาโดนจับล้ำหน้า

    นาทีที่ 78 "ตราไก่" หวิดปิดกล่องจากความเร็วของ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ควบแซง มัตส์ ฮุมเมลส์ หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายโดน ฮุมเมลส์ ตามมาแก้ตัวกวาดทิ้งร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ใจแข็งไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ

    ต่อมานาทีที่ 85 ฝรั่งเศส พลาดประตูที่สองอีกครั้งจากลูกสวนกลับ ปอล ป็อกบา แทงบอลออกขวาให้ คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ควบขึ้นมาถวายพานไปเสาไกลให้ คาริม เบนเซม่า ชาร์จเข้าไปไม่พลาด แต่จากจังหวะนี้ ผู้ตัดสิน ได้รับสัญณานจากห้องวีเออาร์ก่อนริบสกอร์คืนเนื่องจาก เอ็มบั๊ปเป้ ยืนล้ำหน้า

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ฝรั่งเศส 1 เยอรมัน 0

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง 

    ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : อูโก้ โยริส - แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, เปรสแนล คิมเป็มเบ้, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ปอล ป็อกบา, อาเดรียง ราบิโอต์ (อุสมาน เดมเบเล่ น.94)- อ็องตวน กรีซมันน์ - คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, คาริม เบนเซม่า (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.89)

เทรนเนอร์ : ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์   

    เยอรมัน (3-4-2-1) : มานูเอล นอยเออร์ - มัทธีอัส กินเตอร์ (เอ็มเร่ ชาน น.88), มัตส์ ฮุมเมลส์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - โจชัว คิมมิช, โทนี่ โครส, อิลคาย กุนโดกัน, โรบิน โกเซนส์ (เควิน โวลแลนด์ น.88) - ไค ฮาแวร์ตซ์ (เลรอย ซาเน่ น.74) , แซร์ช นาบรี (ติโม แวร์เนอร์ น.74) - โธมัส มุลเลอร์

เทรนเนอร์ : โยอัคคิม เลิฟ

ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เดล เซร์โร่ กรานเด้ (สเปน)