ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ลูกากูโชว์แกร่ง,อาร์เตต้าเก้าอี้สั่นคลอน! 5 ประเด็นเชลซีทุบอาร์เซน่อลคาบ้าน

ลูกากูโชว์แกร่ง,อาร์เตต้าเก้าอี้สั่นคลอน! 5 ประเด็นเชลซีทุบอาร์เซน่อลคาบ้าน

Posted 23/08/2021 by siamsport

สำหรับผลงานในแมตช์นี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เล่นได้อย่างโดดเด่นมากๆ และชัยชนะในแมตช์นี้ส่งให้พวกเขาเก็บชัย 2 แมตช์รวดเก็บ 6 แต้มเต็ม รั้งตำแหน่งจ่าฝูงร่วมกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นคู่แข่งเกมต่อไปในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
    
ขณะที่ "เดอะ กันเนอร์ส" ตอนนี้คงต้องการจุดเปลี่ยนเป็นการด่วน เพราะแมตช์ต่อไปพวกเขาต้องออกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าเป็นเกมที่อาจจะชี้ชะตาชีวิตกุนซือมิเกล อาร์เตต้า เลยก็ว่าได้ !!??!!

1. อาร์เซน่อลนับวันยิ่งย่ำแย่
ตอนนี้ใครเป็นสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" คงไม่เคยเห็นสถานการณ์ของทีมที่ค่อนข้างย่ำแย่เหลือเกิน เพราะพวกเขาเปิดฉากฤดูกาล 2021/2022 ได้น่าผิดหวังมาก เนื่องจากแพ้สองเกมรวดและยิงประตูไม่ได้เลย

"ไอ้ปืนใหญ่" โดน เบรนท์ฟอร์ด น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ทุบกระบอกแตกด้วยสกอร์ 0-2 ในแมตช์เปิดซีซั่น จากนั้นอีกสัปดาห์ต่อมาพวกเขาต้องมาโดนเพื่อนร่วมเมืองอย่าง เชลซี สอยไปด้วยสกอร์เดียวกัน ต่อหน้าต่อแฟนบอลตัวเองในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ผลงานเปิดซีซั่นด้วยการแพ้ 2 แมตช์แถมยิงไม่ได้เลยถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรอาร์เซน่อล ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้ยินเสียงโห่ดังสนั่นสนามหลังจบแมตช์ล่าสุด

ดูเหมือนว่าการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์ไม่ได้ทำให้ อาร์เซน่อล ดูดีขึ้นเลย และด้วยฟอร์มที่ย่ำแย่แบบนี้ แน่นอนว่าคนที่โดนเพ่งเล็งมากที่สุดก็คือ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสแปนิช

สถานการณ์ในเวลานี้ อาร์เซน่อลหล่นไปอยู่ในอันดับรองบ๊วยเหนือกว่า นอริช ซิตี้ เพียงเพราะ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" โดนคู่แข่งถลุงประตูเยอะกว่าเท่านั้น แม้หลายคนบอกว่าเพิ่งจะต้นซีซั่นจะกังวลอะไร แต่ทีมระดับ "ปืนใหญ่" ที่ได้ชื่อว่าเป็น "บิ๊กซิกซ์" แต่กลับมาจมอยู่ท้ายตารางแบบนี้ ถือว่าเสียหายหลายแสนจริงๆ

2. ลูกากู กลับมาพร้อมความเฉียบคม
การทุ่มเงินเพื่อดึง โรเมลู ลูกากู กลับคืนสู่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่ามันจะคุ้มไหมที่เอาผู้เล่นที่พวกเขาเคยเมินหน้าหนี และขายไปให้กับทีมอื่น กลับมาเป็นตัวความหวังในการทำประตู !!

จากผลงานในเกมเยือน อาร์เซน่อล คงทำให้หลายคนหุบปากไปได้พอสมควร เพราะฟอร์มของ "พี่ตู้" โดดเด่นเหลือเกิน เล่นงานแนวรับคู่อริร่วมเมืองหลวงผู้ดีต้องระส่ำระส่ายในหารรับมือกับเขาทั้งลูกบนพื้น และลูกกลางอากาศ

 

ดาวเตะชาวเบลเยียมพิสูจน์ให้เห็นแล้ว่าเขาเป็นกองหน้าที่อันตรายอย่างมากในลีกสูงสุดประเทสอังกฤษ และทำผลงานได้ดียิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตอนที่ใช้เวลาอยู่กับ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน 2 ซีซั่นที่ผ่านมา

สิ่งที่ ลูกากู แสดงให้เห็นก็คือสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง การอ่านเกมที่เฉียบคม และที่สำคัญก็คือความฉลาดในการวิ่งหาพื้นที่ว่าง โดยประตูที่เปิดกล่องในเกมนี้บ่งบอกให้เห็นว่าเขามีความครบเครื่องอย่างที่ได้กล่าวเอาไว้จริงๆ

จะว่าไปแล้ว ลูกากู เกือบที่จะบวกลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ด้วย แต่จังหวะโขกจ่อๆ โดน แบร์นด์ เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟปัดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามนี่คือเกมเปิดตัวในการกลับสู่ต้นสังกัดเก่าหลังจากไปร่อนเร่พเนจรสั่งสมประสบการณ์กับทีมอื่นนานกว่า 7 ปี ที่ยอดเยี่ยมมากๆ

ตอนนี้ยังมีใครข้อสงสัยอีกไหมว่าเม็ดเงินจำนวน 97.5 ล้านปอนด์ (ราว 4,290 ล้านบาท) ที่จ่ายให้กับ อินเตอร์ มันคุ้มหรือเปล่า ??

3. ซาก้าดูสภาพยังไม่ฟิตเต็มร้อย
ไม่ใช่ใครสงสัยว่าตอนนี้ บูกาโย่ ซาก้า เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ อาร์เซน่อล โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ผลงานของเจ้าตัวโดดเด่นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติอังกฤษ ทะลุเข้าชิง ยูโร 2020 (แพ้จุดโทษอิตาลี)

อย่างไรก็ตามฟอร์มของนักเตะในวันนี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี เพราะ ซาก้า มีส่วนกับเกมของทีมพอสมควร เขาพยายามที่จะสร้างสรรค์โอกาสจากจังหวะการเล่นโอเพ่นเพลย์ แต่น่าเสียดายที่ทีมยังขาดฟอร์มที่คงเส้นคงวา

กระนั้นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผลงานของ ซาก้า ก็คือสภาพร่างกายที่ดูแล้วยังไม่น่าจะฟิตเต็มร้อย โดยจะเห็นได้ชัดจากจังหวะที่ อาร์เซน่อล เสีย 2 ประตู เพราะเขาวิ่งตาม รีซ เจมส์ ไม่ทัน ทำให้ฟูลแบ็ก "สิงห์บูลส์" ทะลุเข้าไปเล่นงานเกมรับ "ปืนใหญ่" ได้สบายๆ

ขณะที่ในจังหวะการเล่นเกมรุก ซาก้า ก็ยังดูไม่เฉียบคม สัมผัสบอลแรกของเขาไม่ค่อยดีนัก ที่สำคัญเจ้าตัวไม่สามารถเอาชนะกองหลังของ เชลซี เหมือนกับที่เขาเคยทำได้ในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งกล่าวที่ อาร์เตต้า ตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะออกในครึ่งหลัง แสดงเห็นว่าเขายังไม่ฟิตเต็มร้อย 

เป็นที่เข้าใจได้ว่า ซาก้า กลับมาซ้อมกับทีมช้ากว่าคนอื่นเนื่องจากได้พักผ่อนเพิ่มเพราะต้องกรำศึกช่วยทีมชาติอังกฤษ และไม่ควรรีบร้อนส่งเขาลงสนามในเกมใหญ่แบบนี้ แต่การที่ อาร์เซน่อล ขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนจากอาการบาดเจ็บและป่วย นั่นทำให้ อาร์เตต้า ไม่มีทางเลือกจริงๆ

4. เกมรับ เชลซี โดดเด่นกว่าแดนกลาง
ฟอร์มในครึ่งแรกของ เชลซี มีความสมบูรณ์แบบมากๆ และทำให้พวกเขาสามารถกด อาร์เซน่อล จนอยู่หมัด ก่อนจะนำไปสู่การได้ประตูขึ้นนำสองลูก และนั่นทำให้ในครึ่งหลังดูเหมือน "สิงโตน้ำเงินคราม" จะผ่อนเกมไปเยอะมาก

ช่วง 45 นาทีหลัง "เดอะ กันเนอร์ส" มีฟอร์มที่ค่อนข้างดูดีกว่าทีมเยือน จังหวะการยิงหนึ่งสอง และการผ่านบอลเร็วในแดนกลางทำให้ อาร์เซน่อล สามารถเจาะแผงมิดฟิลด์ของ เชลซี ได้อย่างง่ายดาย

ทั้ง มาเตโอ โควาซิช และ จอร์จินโญ่ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยในช่วงครึ่งหลังเพราะ อาร์เซน่อล ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของพวกเขาในการโจมตี อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ เชลซี สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้นั่นก็คือ 3 แนวรับได้แก่ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์

พวกเขาทั้ง 3 คนเปลี่ยนดั่งกำแพงเหล็กไม่ใช่แค่ครึ่งหลังเท่านั้น แต่ตลอดทั้งแมตช์เลยก็ว่าได้ ในขณะเดียวกัน เอดูอาร์ เมนดี้ ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการป้องกันจังหวะยิงของเจ้าบ้าน และจัดการลูกกลางอากาศได้หมด

งานนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วงคงหนีไม่พ้น ติอาโก้ ซิลวา, เทรโวห์ ชาโลบาห์ และ เคิร์ต ซูม่า อาจจะต้องติดสนับก้นนั่งอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองไปอีกนาน เพราะฟอร์มของ 3 แนวรับในแมตช์นี้โดดเด่นเหลือเกิน

5. อาร์เตต้า นับวันรอโดนเชือด
สถานการณ์กุนซือในเวลานี้ไม่มีใครน่าเป็นห่วงเท่ากับ มิเกล อาร์เตต้า อีกแล้ว ด้วยผลงานเก็บชัยชนะไม่ได้เลยตั้งแต่เปิดฉากอุ่นเครื่องปรีซีซั่นจนมาถึงการลงสนามเกมลีก 2 แมตช์ เชื่อหรือไม่ว่า 6 เกมที่ผ่านมา "ปืนใหญ่" เสมอ 1 แมตช์ แพ้รวด 5 เกม

หลายคนอาจจะมองว่า อาร์เตต้า ค่อนข้างโชคร้ายจริงๆ เพราะเปิดฉากฤดูกาลใหม่ ขุมกำลังหลักก็มีปัญหาบาดเจ็บและป่วย ทำให้ไม่สามารถใช่งานนักเตะได้อย่างเต็มที่ แต่การวางหมากของ กุนซือชาวสแปนิช ก็ไม่ค่อยดีด้วยเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้นโปรแกรมที่ อาร์เซน่อล เจอในช่วงต้นซีซั่นก็ช่างทำร้ายจิตใจเหลือเกินเพราะหลังเกมแพ้ เชลซี ต่อไปพวกเขาต้องไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตามช่วงกลางสัปดาห์พวกเขามีคิวลงเล่นเกมพบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึกคาราบาว คัพ ซึ่งอาจจะเป็นแมตช์เรียบขวัญกำลังใจก็ได้ ก่อนที่จะต้องไปทำศึกใหญ่กับ "เรือใบสีฟ้า"

กระนั้นขอบอกเลยว่าหาก อาร์เตต้า นำทีมออกไปพบ แมนฯ ซิตี้ พร้อมกับได้รับความปราชัยแบบอเนจอนาถแถมฟอร์มการเล่นย่ำแย่ งานนี้อาจจะได้เห็นข่าวใหญ่เกิดขึ้นในแค้มป์ "เดอะ กันเนอร์ส" ก็ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »