ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แนวรับระดับท็อป!ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 3

แนวรับระดับท็อป!ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 3

Posted 30/08/2021 by siamsport

ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์นี้ อุดมไปด้วยผู้เล่นจากทีมชั้นนำของลีก คนที่โดดเด่นที่สุด หนีไม่พ้น เฟร์ราน ตอร์เรส ที่มีส่วนร่วม 3 ประตูในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ถล่ม อาร์เซน่อล 5-0 ส่วนคนอื่น ๆ จะมีใครบ้าง ไปดูกันได้เลย
   
ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อย่างเต็มเปี่ยม ช็อตป้องกันสองจังหวะเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ เริ่มจากลูกโขกของ โรแม็ง ซาอิสส์ ก่อนจะเซฟปาฏิหาริย์ที่แนวรับ วูล์ฟส์ คนเดิมซ้ำจ่อ ๆ ซึ่งเป็นโมเมนต์สำคัญที่ "ปีศาจแดง" ร้อนพ้นการเสียประตูจนเป็นที่มาสู่ชัยชนะ

นายด่านสแปนิช เซฟไปทั้งสิ้น 5 ครั้งในเกมนี้ และเป็นการเก็บคลีนชีตนัดที่ 123 บนเวที พรีเมียร์ลีก เหนือกว่าผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ ที่เคยเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด

กองหลัง : เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เชลซี)

รับหน้าที่หนักเมื่อต้องดวลกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ ซาดิโอ มาเน่ อย่างไรก็ตาม กัปตัน เชลซี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกว่า "เอาอยู่" เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยามรับมือลูกตั้งเตะ เขายังเป็นคนที่ตามประกบ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และถึงแม้รูปร่างจะต่างกัน แต่ อัซปิลิกวยต้า ก็ไม่ปล่อยให้แนวรับดัตช์ ขึ้นเล่นลูกกลางอากาศได้ง่าย ๆ

จากเกมที่ แอนฟิลด์ ไม่มีผู้เล่น เชลซี คนไหนที่จะเข้าปะทะบอลสำเร็จ(6) และเคลียร์บอล(9) ได้มากกว่าเขาอีกแล้ว

กองหลัง : ราฟาแอล วาราน (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เกมเจอ วูล์ฟส์ คือการประเดิมสนามในศึก พรีเมียร์ลีก ของกองหลังดีกรีแชมป์โลก และผลที่ออกมาก็นับว่าน่าประทับใจ เมื่อประตูชัยของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดจากการแอสซิสต์ของเจ้าตัว

ส่วนในเรื่องเกมรับ แม้ปล่อยให้ ซาอิสส์ เทคตัวขึ้นโขกจนทีมเกือบเสียประตู แต่การเคลียร์บอลได้ถึง 5 ครั้งนับว่าสำคัญมาก ซึ่งเป็นตัวเลขมากที่สุดในทีมเกมนี้

กองหลัง : เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)

รับมือกับ โรเมลู ลูกากู ได้อย่างยอดเยี่ยม ยามที่เจอเกมบุก เชลซี เล่นงาน ฟาน ไดค์ มักจะเป็นคนที่ช่วยลดทอนความอันตรายลงไว้ได้เสมอ

ดาวเตะหมายเลข 4 ของ "หงส์แดง" เป็นผู้เล่นที่ชิงบอลกลับมาครอบครองให้กับ "หงส์แดง" มากที่สุดถึง 17 ครั้ง รวมถึงผ่านบอลแม่นยำอีก 91 เปอร์เซ็นต์

กองหลัง : อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เชลซี)

ไม่ว่าใครที่ต้องมาดวลกับ รือดิเกอร์ นับว่าเป็นงานหินที่ยากจะเอาชนะ การโดนใบแดงของ รีซ เจมส์ ทำให้ เชลซี เจอบททดสอบอย่างหนักในช่วงครึ่งหลัง และเขาก็เป็นคนสำคัญที่พา "สิงห์บลูส์" เก็บแต้มออกจาก แอนฟิลด์ ได้

รือดิเกอร์ เข้าปะทะบอลสำเร็จ 3 ครั้ง เคลียร์บอลอีก 3 หน และชิงบอลกลับมาครองได้อีก 6 ครั้ง

กองกลาง : คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (คริสตัล พาเลซ)

แข้งสัญญาเช่าที่ คริสตัล พาเลซ ยืมใช้งานจาก เชลซี กลายเป็นฮีโร่ที่พา "ดิ อีเกิ้ลส์" บุกแบ่งแต้มที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม เมื่อเจ้าตัวเหมา 2 ประตูภายใต้บทบาทมิดฟิลด์ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์

กัลลาเกอร์ เป็นเพียงผู้เล่นคนที่สองในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ทำได้อย่างน้อย 2 ประตูจากการประเดิมสนามให้กับ พาเลซ ในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งรายแรกคือ บาการี่ ซาโก้ ที่ทำไว้เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2015

กองกลาง : อิลคาย กุนโดกัน (แมนฯ ซิตี้)

เชื่อเกมแดนกลางไปถึงหน้าได้ดี และเป็นคนโหม่งให้ทีมออกนำ 1-0 ตั้งแต่ต้นเกม รับหน้าที่ทดแทน เควิน เดอ บรอยน์ ได้ไม่มีที่ติ

กุนโดกัน ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก บนปฏิทินปี 2021 ไปแล้ว 12 ลูก มีแค่ แฮร์รี่ เคน คนเดียวเท่านั้นที่ทำได้มากกว่า (14)

กองกลาง : แอนดรอส ทาวน์เซนด์ (เอฟเวอร์ตัน)

ผู้เล่นที่ ราฟา เบนิเตซ ดึงเข้าสู่ทีมในช่วงตลาดซัมเมอร์ พร้อมกับได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง ซึ่งผลงานที่ออกมาก็ไม่ทำให้นายใหญ่สแปนิช ผิดหวัง

นอกเหนือจากสร้างความปั่นป่วนให้กับ ไบรท์ตันแล้ว แข้งวัย 30 ปียังทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยจังหวะอลวนเรื่องจุดโทษระหว่าง ริชาร์ลิซอน กับ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน เมื่อเจ้าตัวเดินไปเอาบอลออกจากอ้อมอกเพื่อนร่วมทีมชาวแซมบ้า แล้วนำลูกบอลนั้นส่งต่อให้รุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติทำหน้าที่สังหาร

ในเรื่องของสถิติจากเกมที่ อเมริกัน เอ๊กซ์เพรส คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม ทาวน์เซนด์ เรียกฟาวล์ได้มากถึง 4 ครั้ง อีกทั้งยังเข้าปะทะบอลสำเร็จอีก 4 หน

กองหน้า : กาเบรียล เชซุส (แมนฯ ซิตี้)

เหมือนจะพบพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง เมื่อถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จับถ่างมาเล่นริมเส้นฝั่งขวา และเกมนี้แข้งแซมบ้า ก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม ทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ แถมยังมีลูกเปิดจากด้านข้างที่อันตรายสุด ๆ

นี่คือนัดที่ 43 ที่ เชซุส ทำสกอร์ได้แล้วทีมไม่ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ บทเวที พรีเมียร์ลีก มีแค่ เจมส์ มิลเนอร์ (54) และ ดาริอุส วาสเซลล์ (46) เท่านั้นที่ทำจำนวนนัดไว้มากกว่าเขา

กองหน้า : มิคาอิล อันโตนิโอ (เวสต์แฮม)

แม้กองหน้าจะมีหน้าที่คอยทำประตู แต่การเล่นของ อันโตนิโอ มีความหมายมากกว่านั้น เมื่อดูจากประตูแรกที่เขาเลือกส่งให้ ปาโบล ฟอลนัลส์ ทำสกอร์

น่าเสียดายที่ "เดอะ แฮมเมอร์ส" พลาดคว้าสามคะแนนในเกมเจอ คริสตัล พาเลซ ซึ่งประตูที่ 2 ของทีมเกิดขึ้นการเอาชนะแนวรับของ อันโตนิโอ แล้วตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อผ่านมือ บิเซนเต้ กวยต้า

อันโตนิโอ เป็นผู้เล่นคนแรกของ เวสต์แฮม ที่ทำประตูบนลีกสูงสุดได้ 50 ประตู นับตั้งแต่ที่ โทนี่ ค็อตตี้ เคยทำได้ในฤดูกาล 1985/86

กองหน้า : เฟร์ราน ตอร์เรส (แมนฯ ซิตี้)

เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พลิกบทบาทจากตำแหน่งเดิมที่เคยเล่น

เฟร์ราน ถูกหุบมายืนเป็นกองหน้าตัวกลางมาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก ซึ่งเกมที่ถล่ม อาร์เซน่อล 5-0 เจ้าตัวก็เหมา 2 ประตู พร้อมผ่านบอลให้ โรดรี้ ทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษ

แข้งกระทิงดุ ทำสองประตูกับแอสซิสต์ในเกมเดียวบนลีกสูงสุดเป็นครั้งที่สองในอาชีพการเล่น ซึ่งหนแรกเกิดขึ้นบนเวที ลาลีกา ที่ทำไว้กับ บาเลนเซีย ทีมเก่า ในนัดเจอ เลบันเต้ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2019

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »