หลังจากรอมานานเป็นแรมปีสำหรับคอลูกหนังไทย ศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" ที่สิงคโปร์ กำลังจะเริ่มขึ้น ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย เตรียมจะประเดิมนัดเปิดสนาม รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ดวลกับ ติมอร์ เลสเต เย็นวันนี้ 16.30 น. ที่ช่อง 7 HD รับหน้าที่ยิงสดให้รับชม
   
แมตช์แรกของทัวร์นาเมนต์ แถมคู่ต่อสู้ที่ต้องเรียนตามตรงว่า "บอลคนละชั้น" นี่ไม่ใช่การดูถูกชาติอื่น แต่นี่คือโลกฟุตบอลแห่งคงามเป็นจริง ด้วยศักยภาพหากวัดตัวต่อตัว แทบจะบอกได้เลยว่า ยังไม่เห็นจุดไหนที่จะเห็นทีมชาติไทย ปราชัยต่อคู่แข่งอย่าง ติมอร์ เลสเต

แต่ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์เกมแรกมักเป็นงานยากเสมอ นี่คือประเด็นสำคัญก่อนเกมจะเริ่มฟาดแข้ง

1. อย่าประมาทเด็ดขาด

สิ่งสำคัญของทีมที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้หลายขุม ที่มักจะพลาดเป้าหมายเพราะความประมาทของตัวเอง แน่นอนว่าเห็นมานักต่อนักแล้ว แต่ครั้งนี้เชื่อเถอะว่า คุณภาพของนักเตะไทยที่ผ่านประสบการณ์สมรภูมิมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ คงจะเล่นเพื่อทีม และเพื่อชาติอย่างแน่นอน

กับติมอร์ เลสเต ที่ในอดีต เป็นชาติที่มีนโยบายโอนสัญชาติจัดการดึงเอาผู้เล่นบราซิลมาเล่นให้กับทีมชาติ แต่ปัจจุบันนั้นไม่ใช่ เพราะพวกเขาได้สร้างผู้เล่นสายเลือดใหม่ ซึ่งเป็นผู้เล่นท้องถิ่นของตัวเอง จุดนี้ที่อาจเป็นจุดอ่อนของพวกเขา เพราะประสบการณ์ยังไม่มีมากนัก หากทัพ "ช้างศึก" ไม่ประมาท แน่นอนว่า ชัยชนะเกมเปิดหัวครั้งนี้คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

2. ประตูแรกมาเร็ว อาจไหล

ย้อนไทม์แมชชีนกลับไปในเกมเมื่อปี 2018 ทีมชาติไทย ได้ประตูนำติมอร์ เลสเต ตั้งแต่ไก่โห่เพียงแค่นาทีที่ 3 ของเกมเท่านั้น จากการยิงของ อดิศักดิ์ ไกรษร ในครั้งนั้น ทำให้เกมกลายเป็นของทัพ “ช้างศึก” ไปโดยปริยาย จนสกอร์ไหลเป็นโจ๊กก่อนจบลงด้วยผลที่ทีมชาติไทย สอนเชิงไปแบบถล่มทลาย 7-0

อย่างไรก็ตามเกมนี้ ติมอร์ เลสเต มารูปแบบเน้นเกมรับเต็มอัตราศึกเป็นแน่ อยู่ที่ว่าเกมบุกและการเข้าทำของทัพ “ช้างศึก” จะมาในรูปแบบที่หลากหลายมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าหากผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกม บรรดานักเตะจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาพร้อมโหมบุกเข้าใส่ทันทีเพื่อปลดล็อคประตูแรกให้ได้

3. ใช้ประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์

ด้วยขุมกำลังของทีมชาติไทย บางคนเคยผ่านการเป็นแชมป์มาแล้วทั้งในปี 2014 หรือในปี 2016 อาทิ ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น, ทริสตอง โด, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, อดิศักดิ์ ไกรษร, ปกเกล้า อนันต์, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นต้น แม้จะยังขาด 2 สตาร์จากแดนอาทิตย์อุทัย "ชนาธิป-ธีราทร" ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อดูจากขุมกำลังแล้ว ประสบการณ์ในรายการนี้ของแข้งช้างศึกโชกโชนเยอะกว่าติมอร์ เลสเต เหลือล้น อยู่ที่ว่าจะสามารถงัดฟอร์มโหดออกมาได้ดีมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

4. "มาโน่" โชว์กึ๋น

การเขามากุมบังเหียนทีมชาติไทยครั้งนี้ ความกดดันทวีคูณอยู่แล้ว ด้วยความคาดหวังสูง ต้องคว้าแชมป์ให้ได้สถานเดียว ทว่านี่เป็นเกมประเดิมคุมทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ หากผ่านเกมนี้ไปแบบเพอร์เฟค จะเป็นการปลดล็อคความกดดันของ "มาโน่" ไปในตัว

นี่คือก้าวแรกของเส้นทางล่าแชมป์ทัพ "ช้างศึก" กับประสบการณ์ของ "มาโน่" ที่รู้จักสไตล์นักเตะไทยเป็นอย่างดี เพราะเคยทำงานที่เมืองไทยมานานแสนนาน เหมือนกับดูลายมือตัวเองแน่ ๆ ดูแล้วเกมนัดแรกนี้ จะเป็นการโชว์กิ๋นของเฮดโค้ชชาวบราซิลเชื้อสายเยอรมนีรายนี้จริง ๆ ว่าจะสุดยอดตามที่หลายคนคาดหวังไว้หรือเปล่า

5. เปิดหัวสวยเพื่อแฟนบอล

ต้องบอกเลยว่าผลงานของทีมชาติไทย ช่วงหลังที่ไม่ค่อยจะน่าอภิรมย์เสียเท่าไหร่ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หนล่าสุดก็ร่วงตกรอบ 2 ทั้งที่ครั้งก่อนเคยทะลุถึงรอบ 3 หรือรอบ 12 ทีม เช่นเดียวกับรายการนี้ ที่เคยคว้าแชมป์ 2 สมัยติดในปี 2014, 2016 แต่ครั้งล่าสุดปี 2018 ดันร่วงตกรอบ 4 ทีมสุดท้าย จนถูกคู่รักคู่แค้นอย่างเวียดนาม คว้าแชมป์ไปครอง

การกลับมาในหนนี้ กับเกมแรกที่เจอติมอร์ เลสเต คำตอบง่าย ๆ คือต้องเก็บ 3 แต้มเท่านั้น เพื่อส่งมอบความสุขให้แฟนบอลชาวไทย ที่จะยลผลงานทีมชาติไทยในเย็นวันนี้ และเพื่อกู้วิกฤตศรัทธาบอลไทย กับก้าวแรกของการล่าโทรฟี่ถ้วยใบนี้ หวังว่าจบเกมแฟนบอลชาวไทยคงมีความสุข และรอยยิ้มกับเกมเปิดสนามของทัพ "ช้างศึก"

4 โมงครึ่ง อย่าลืมเปิดช่อง 7 HD ที่จะรับหน้าที่เสิร์ฟความมันส์ เกมนัดแรกของกลุ่ม เอ ในรอบแบ่งกลุ่ม ศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" ระหว่าง ทีมชาติไทย ดวลกับ ติมอร์ เลสเต