ก้าวเข้าสู่เดือนมี.ค.ราล์ฟ รังนิก กุนซือขัดตาทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีไม่พ้นต้องเจอโปรแกรมโหดที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ต่อการพยายามพาทีมดังของ พรีเมียร์ลีก คว้าอันดับท็อปโฟร์หลังจบซีซั่น
    จากอันดับตารางในปัจจุบัน เร้ด เดวิลส์ ยังรักษาอันดับสี่เอาไว้ได้ก็จริงหลังพลาดท่าเสมอกับ วัตฟอร์ด 0-0 ใน โรงละครแห่งความฝัน ทว่าโปรแกรม พรีเมียร์ลีก อีกสามนัดข้างหน้า ผีแดง จะต้องเจอกับคู่แข่งเขี้ยวลากดินทุกนัด แถมยังมีเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดสองต้อนรับ แอตเลติโก มาดริด เข้ามาสมทบอีกด้วย

    ต่อสถานการณ์ล่าสุด เวสต์แฮม ทีมอันดับห้ามีคะแนนตามหลัง ผีแดง สองแต้ม แต่ที่น่าหนักใจแทน รังนิก มากกว่านั้นคือ อาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส ทีมอันดับห้าและหกมีเกมตุนอยู่ในมือมากกว่า

    โดยเฉพาะ เดอะ กันเนอร์ส ซึ่งลงเล่นน้อยกว่า ผีแดง สามนัด และมีแต้มตามหลังสองแต้ม ขณะที่ ไก่เดือยทอง ลงบู๊น้อยกว่าสองนัด และตามหลังห้าแต้ม

    เท่ากับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกที่นั่งลำบากอย่างแท้จริงหลังทำได้แค่เจ๊ากับ แตนอาละวาด แบบโนสกอร์ และกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับสามทีมยักษ์ทั้ง เรือใบสีฟ้า , หงส์แดง และ ไก่เดือยทอง

    เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจึงน่าจะมาวิเคราะห์กันดูว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเก็บแต้มในสามเกมข้างหน้าสักกี่แต้มเชียว

    หรือจะได้ 0 แต้มจาก 9 แต้มเต็มก็ไม่รู้!!!

 1.แมนฯ ซิตี้ v แมนฯ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค.

    เข้าสู่เกมแรกของเดือน แมนฯ ยูไนเต็ด มีอันต้องต่อกรกับ แมนฯ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง และแชมป์เก่าทันที แถมต้องลงเล่นในถิ่นเพื่อนบ้านซะด้วย

    จากการคำนวณของ Sports Power Index ผีแดง ถูกยกให้มีโอกาสเก็บสามแต้มเต็มแค่ 12% เท่านั้นจากการวิเคราะห์ฟอร์มที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย และเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ของพวกเขา

    อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปดูสถิติที่สองทีมร่วมเมืองฟาดเกือกกัน แฟน ผีแดง อาจมองโลกในแง่ดีได้อยู่

    มันเป็นเพราะว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ แมนฯ ซิตี้ สามครั้งจากการเผชิญหน้ากันห้าครั้งหลัง และเก็บมาได้ 10 แต้ม

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยกพลไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม หนล่าสุดเมื่อ 12 เดือนก่อน ปีศาจแดง บุกไปคว้าชัยได้ด้วยสกอร์ 2-0

    หากยังไม่น่าอุ่นใจพอ ก็ลองมองดูฟอร์มช่วงหลังของ แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ที่แพ้ สเปอร์ส คาบ้าน 3-2 ก่อนบุกไปเฉือนเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้แบบเต็มกลืน 1-0 โดยผู้ตัดสินกล่าวขอโทษกับทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน แล้วว่าพวกเขาสมควรได้ลูกโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ โรดรี้ ซึ่งอาจทำให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สะดุดต่ออีกนัดเก็บได้แค่แต้มเดียวก็เป็นได้

    ยิ่งไปกว่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แค่นัดเดียวจากการลงสนาม 11 นัดหลังอีกด้วย โอกาสเก็บแต้มของพวกเขาจึงใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย แม้อาจเป็นเรื่องยากที่จะคว้าสามแต้มเต็ม และสมควรหวังผลเสมอมากกว่า

    -เฮดทูเฮดใน พรีเมียร์ลีก ห้านัดหลัง

    แมนฯ ซิตี้ ชนะ : 1

    เสมอ : 1

    แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ :3

    แต้มของ แมนฯ ยูไนเต็ด : 10จาก15

 2.แมนฯ ยูไนเต็ด v สเปอร์ส วันเสาร์ที่ 12 มี.ค.

    การดวลกันในช่วงหลังของทั้งคู่จบลงด้วยการยิงประตูกันอย่างมโหฬาร และในสามเกมหลังมีการสอยตาข่ายกันมากถึง 14 เม็ด

    กระนั้นก็ดี จากผลงานการกุมบังเหียนของ รังนิก แฟน ผีแดง คงคาดหวังอะไรแบบนั้นไม่ได้มากนักเนื่องจากพวกเขาประสบกับปัญหาในการคลำเป้า อย่างล่าสุดมีโอกาสสับไก วัตฟอร์ด มากถึง 22 ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่สามครั้ง และไม่ดีพอที่จะเป็นประตู

    เอาเป็นว่าหาก ผีแดง หักคอ ไก่เดือยทอง ได้สำเร็จก็ต้องบอกว่าโอเคแล้ว ส่วนเรื่องจำนวนประตูให้ถือว่าเป็นโบนัสจะดีกว่าเนื่องจากทีมของนายใหญ่จากแดนไส้กรอกเช็คบิลฝ่ายตรงข้ามากกว่าหนึ่งเม็ดได้แค่สองเกมเท่านั้นจากแปดเกมหลัง

    ในทางตรงกันข้าม สเปอร์ส กำลังระเบิดตาข่ายได้อย่างเร่าร้อนโดยพวกเขามีชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ 3-2 และก่อนหน้านั้นก็พิชิต ไบรท์ตัน ในศึก เอฟเอคัพ 3-1 รวมทั้งชนะ เลสเตอร์ ในลีก 3-2

    กระนั้นก็ดี ทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็ยังมีผลงานที่แกว่งไปแกว่งมาเป็นลูกตุ้ม หากไม่เชื่อก็ไปถาม เบิร์นลีย์ และ เชลซี ดูได้จากที่พวกเขาเอาชนะ ไก่เดือยทอง ได้ด้วยสกอร์ 1-0 และ 2-0

    ขณะเดียวกัน ผีแดง ก็มีผลงานที่ดีในระยะหลังที่ต้องบู๊กับทีมจากลอนดอนรายนี้จากที่พวกเขากระชากมาได้ 10 แต้มในเกม พรีเมียร์ลีก ห้านัดหลังซึ่งเป็นการคว่ำ สเปอร์ส ได้สามนัด

    -เฮดทูเฮดใน พรีเมียร์ลีก ห้านัดหลัง

    สเปอร์ส ชนะ : 1

    เสมอ : 1

    แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ :3

    แต้มของ แมนฯ ยูไนเต็ด : 10จาก15

3. ลิเวอร์พูล v แมนฯ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค.

    สำหรับคู่ต่อกรสองรายแรก แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด อาจมองในแง่บวกได้ แต่ไม่ใช่แน่สำหรับเกมต่อกรกับ ลิเวอร์พูล

    ทั้งนี้เพราะจากการโม่เกือกกันในลีกห้าหนหลัง เร้ด เดวิลส์ เก็บแต้มจาก เร้ด แมชีน ได้แค่สองแต้มเท่านั้น แถมเสียประตูมากถึง 12 ลูก และยิงคืนได้แค่ 3 ลูก

    ยิ่งไปกว่านั้น ในเกมล่าสุดที่ได้ห้ำหั่นกัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายกำชัยไปอย่างขาดลอย 5-0 ที่ โรงละครแห่งความฝัน สมัยที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังกุมบังเหียน

    ด้วยเหตุนี้ ผีแดง จึงถูกคำนวณว่ามีโอกาสชวดชัยในเกม แดงเดือด อีกตามเคยมากถึง 86% เนื่องจากชั่วโมงนี้ หงส์แดง น่าจะเป็นทีมที่น่าเกรงขามมากที่สุดในยุโรป  และพวกเขาเพิ่งคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ มาครองหมาดๆ

    เท่านั้นไม่พอ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกไปประกาศศักดาที่ แอนฟิลด์ ได้อีกเลยนับตั้งแต่ปี 2016 พวกเขาจึงน่าจะรอดยากเป็นแน่แท้

    - เฮดทูเฮดใน พรีเมียร์ลีก ห้านัดหลัง

    ลิเวอร์พูล ชนะ : 3

    เสมอ : 2

    แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ : 0

    แต้มของ แมนฯ ยูไนเต็ด : 2จาก15

 4.ฟันธง

    เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะผ่านด่านสามเกมสุดโหดนี้ไปได้ในสภาพไหน?

    จากเก้าแต้มที่มีให้ไขว่คว้า ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ทีมของ รังนิก จะกำชัยได้แบบ 100% และมันคงน่าช็อกเช่นกันหากถึงขั้นที่พวกเขาจะแพ้รวด ไม่มีแต้มติดมือเลยในสามเกมนี้

    จากความน่าจะเป็น ผลชนะ เสมอ และแพ้อย่างละนัดในสามเกม และเก็บได้ 4 แต้มน่าจะโอเคแล้วตามมาตรฐานของ ปีศาจแดง ณ เวลานี้

    แต่ก็นั่นแหละ ผีแดง ของกุนซือชาวเยอรมันที่ไม่ปราชัยใครง่ายๆเช่นกันจะหลุดจากอันดับท็อปโฟร์แน่นอนหากเก็บได้แค่สี่แต้มจากสามเกมโหดที่รออยู่