แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำแสบพา เอฟเวอร์ตัน เปิดรังเชือด เชลซี อดีตต้นสังกัด 1-0 จากประตูชัยของ ริชาร์ลิซอน โดยที่เกมนี้ จอร์แดน พิคฟอร์ด โชว์เซฟอุตลุด ส่งผลให้ขุนพล "ท๊อฟฟี่" เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้ม ตาม ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลีย์ โซนปลอดภัยเหลือ 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่ทัพ "สิงห์บลูส์" หยุดอยู่ที่ 66 แต้ม

    ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2565 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 18 พบ เชลซี ทีมอันดับ 3

    แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือเอฟเวอร์ตัน พาทีมแพ้ลิเวอร์พูล 0-2 ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 3 เกม โดยนัดนี้สามประสานแนวรุกใช้ เดมาไร เกรย์, ริชาร์ลิซอน และ แอนโธนี่ กอร์ดอน ลงล่าตาข่าย

    ส่วน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี พาทีมบุกไปเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 แบบน่าชนะในเกมล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว นัดนี้คู่หน้ายังใช้งาน ติโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ โดยมี เมสัน เมาน์ท ยืนปั้นเกมด้านหลัง

    เปิดฉากครึ่งแรกมาได้ 2 นาที เอฟเวอร์ตัน ได้โอกาสทักทายก่อน แอนโธนี่ กอร์ดอน ปั่นฟรีคิกบอลข้ามกำแพงก่อนจะเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว

    หลังจากนั้นเป็นโอกาสของ เชลซี บ้าง นาทีที่ 8 เมสัน เมาน์ท เก็บตกได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะตั้งป้อมปั่นด้วยขวาบอลข้ามคานไปแบบหวุดหวิด

    นาที 14 เดมาไร เกรย์ ปีกเอฟเวอร์ตันหลุดไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ รับเข้าซอง

    เกมดำเนินมาถึงนาที 33 เอฟเวอร์ตัน เกือบขึ้นนำ แอนโธนี่ กอร์ดอน ลากจากขวาตัดเข้าในแล้วกดด้วยซ้ายบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

    นาที 42 เชลซี ได้โอกาสสวนกลับเร็ว ติโม แวร์เนอร์ ลากบอลไปถึงสุดเส้น ก่อนตบมาที่หน้าเขตโทษให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายไปติดบล็อกของ เยอร์รี่ มีน่า

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน เสมอ เชลซี 0-0

    ครึ่งหลังเล่นมาได้เพียง 2 นาที เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ออกบอลจากแนวรับพลาด ก่อนจะโดน เดมาไร เกรย์ ฉกบอลไปแล้วไหลต่อให้ ริชาร์ลิซอน หลุดมาซัดเน้นๆในเขตโทษส่งบอลตุงตาข่าย

    ถัดมานาที 49 เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ลูกสอง อับดูลาย ดูกูเร่ แทงบอลไปที่เสาไกลให้ วิตาลี่ มีโคเลนโก้ หลุดมาซัดด้วยซ้ายเน้นๆบอลข้ามคานไปนิดเดียว

    เชลซี น่าได้ประตูตามตีเสมอสุดๆ ในนาที 59 ไค ฮาแวร์ตซ์ พักบอลให้ เมสัน เมาน์ท วอลเลย์ด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาสองฝั่ง แล้วกระดอนมาเข้าทางปืนของ อัซปิลิกวยต้า ก็ยังติดเซฟของ พิคฟอร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟควักบอลออกจากเส้น

    จากจังหวะถัดมา นาที 60 เชลซี เกือบได้อีกหนจากจังหวะเตะมุมแล้วเป็น ลอฟตัส ชีค ที่ไหลมาให้ รือดิเกอร์ หลุดเดี่้ยวมาซัดโล่งๆก็ยังไม่ผ่าน พิคฟอร์ด ใช้หน้าเซฟออกไปเต็มๆ

    เชลซี โหมบุกใส่อย่างหนักหวังทวงประตูคืน นาที 66 รือดิเกอร์ เติมขึ้นมาก่อนจะส่องไกลด้วยขวาบอลยังเหินข้ามคาน

    "สิงห์บลูส์" ครองเกมได้แบบเบ็ดเสร็จ นาที 79 รูเบน ลอฟตัส ชีค ลากบอลมากดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ พิคฟอร์ด ยังโชว์เซฟปัดทิ้งได้อีก

    นาที 86 เอฟเวอร์ตัน ได้โต้กลับมาเกือบได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะที่ เดมาไร เกรย์ ได้วางเท้ากดด้วยขวาเน้นๆบอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

    จนแล้วจนรอด เชลซี ก็ยังตีเสมอไม่ได้ ช่วงทดเวลา นาที 90+2 มัตเตโอ โควาซิช ได้กดด้วยขวาระยะไม่กี่หลา พิคฟอร์ด ก็ยังพุ่งปัดทิ้งไปได้อีก    

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เอฟเวอร์ตัน ชนะ เชลซี 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้ม ตาม ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลีย์ โซนปลอดภัยเหลือ 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่ทัพ "สิงห์บลูส์" หยุดอยู่ที่ 66 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - เชมัส โคลแมน, เยอร์รี่ มีน่า, เมสัน โฮลเกท, วิตาลี่ มีโคเลนโก้ - อับดูลาย ดูกูเร่, ฟาเบียน เดลฟ์ (อลัน น.71), อเล็กซ์ อิโวบี้ - เดมาไร เกรย์, ริชาร์ลิซอน, แอนโธนี่ กอร์ดอน

เชลซี (3-4-1-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (คริสเตียน พูลิซิช น.68), ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่ (มัตเตโอ โควาซิช น.46), รูเบน ลอฟตัส ชีค, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาน์ท - ติโม แวร์เนอร์ (ฮาคิม ซิเย็ค น.68), ไค ฮาแวร์ตซ์