หนึ่งในเกมที่น่าสนใจของวงการฟุตบอลประจำสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่สนาม แอนฟิลด์ หลังจากที่ ลิเวอร์พูล รองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อน จะต้องรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าจากซีซั่นที่แล้ว
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงฟอร์มโดยรวมในตอนนี้ก็ต้องบอกว่า แมนฯ ซิตี้ ดูมีภาษีดีกว่าจากการที่กำลังทำผลงานได้ร้อนแรงจนเป็นรองจ่าฝูงในปัจจุบัน ขณะที่ ลิเวอร์พูล ฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่นักจนเป็นอันดับ 10 ก่อนถึงโปรแกรมในสัปดาห์นี้ แต่อย่างที่เขาว่ากันว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ และยิ่งเป็นการเจอกันระหว่างทีมใหญ่ด้วยกันเองแล้วนั้นมันก็ยิ่งเดาผลการแข่งขันได้ยากขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ก่อนจะถึงเกมใหญ่ที่สนาม แอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคมนี้นั้น เรามีเกร็ดบางอย่างของเกมนี้มานำเสนอกันสักหน่อย

- ลิเวอร์พูล กับโอกาสหยุดสถิติอันเลวร้าย
แม้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล็อปป์ จะปลุกปั้น ลิเวอร์พูล ได้ดีจนได้ขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนฯ ซิตี้ อย่างสูสี แต่ในเกมลีก 5 นัดหลังสุดนั้นพวกเขาไม่สามารถพิชิต "เรือใบสีฟ้า" ได้เลย แบ่งเป็นการเสมอ 3 เกมกับแพ้ 2 หน

ด้วยเหตุนี้ ถ้าเกิดในวันอาทิตย์นี้พวกเขาปล่อยให้ทีมเยือนมีแต้มติดมือกลับบ้านไปแล้วล่ะก็ มันก็จะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเขาไม่สามารถชนะ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกได้มากถึง 6 นัดติดต่อกัน

- แมนฯ ซิตี้ ผลงานเริ่มดีที่ แอนฟิลด์

เกมลีก 2 นัดหลังสุดที่ทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า บุกเยือน ลิเวอร์พูล นั้น พวกเขาได้กลับไป 4 คะแนน แบ่งเป็นวันที่กลับไปพร้อมชัยชนะ 4-1 เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2021 และเกมที่จบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 เมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน

ผลงานดังกล่าวถือว่าสวนทางกับเกมลีก 17 ครั้งก่อนหน้านั้นที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเล่นที่ แอนฟิลด์ อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากช่วงดังกล่าวพวกเขาเก็บได้เพียง 5 คะแนน แบ่งเป็นการเสมอ 5 เกมกับแพ้ 12 หน หรือก็คือตอนนั้นพวกเขาไม่เคยบุกมาชนะ ลิเวอร์พูล ได้เลยเป็นเวลานาน

- เกมรุก ลิเวอร์พูล ลุ้นสร้างสถิติ

หากนับจากการเจอกัน 4 ครั้งหลังสุดในทุกรายการแล้วล่ะก็ ลิเวอร์พูล สามารถทำประตูใส่ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างน้อย 2 ลูกครบทุกนัด จนทำให้ผลงานในช่วง 4 เกมที่ว่าแบ่งเป็นการชนะ 2 เกมกับเสมอ 2 หน

แน่นอน ถึงแม้ กวาร์ดิโอล่า จะขึ้นชื่อลือชาเรื่องการเป็นกุนซือที่เน้นเกมบุกเป็นหลัก แต่ที่จริงแล้วเกมรับของทีมที่เขารับงานด้วยก็ไม่ได้ขี้เหร่เกินไปเลย ดังนั้นการที่ ลิเวอร์พูล เจาะตาข่ายทีมของ กวาร์ดิโอล่า ได้เยอะติดต่อกันแบบนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจในระดับหนึ่ง

ผลงานที่ว่าทำให้เกมในวันอาทิตย์นี้ทีมของ คล็อปป์ มีโอกาสสร้างสถิติที่พิเศษไปในตัว เพราะตลอดอาชีพการคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า นั้น มันไม่เคยมีทีมไหนของเขาเลยที่เสียประตูให้คู่แข่งรายเดียวกันอย่างน้อย 2 ลูกเป็นจำนวนถึง 5 นัดรวด

- โฟเด้น จะตามรอยสถิติเด่น ?

หนึ่งในนักเตะของ แมนฯ ซิตี้ ที่ทำผลงานได้ดีกับการเยือน ลิเวอร์พูล ในพักหลังเห็นจะหนีไม่พ้น ฟิล โฟเด้น เพราะในการเล่นที่ แอนฟิลด์ 2 นัดหลังสุดนั้น เขาทำประตูได้ครบทั้ง 2 เกม แถมช่วงนี้เจ้าตัวก็กำลังฟอร์มฮอตอยู่พอดีอีกหลังในซีซั่น 2022-23 ดาวเตะชาวอังกฤษทำประตูในลีกไปแล้วถึง 6 ลูกจากการลงเล่น 9 นัด

ถ้าหาก โฟเด้น ยังรักษาฟอร์มอันร้อนแรงได้และทำประตูในวันอาทิตย์นี้ได้ด้วยล่ะก็ มันก็จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่บุกมาเยือน แอนฟิลด์ แล้วทำประตูได้ถึง 3 นัดติดต่อกัน โดย 2 คนก่อนหน้านี้คือ แอนดี้ โคล ที่เคยทำได้ระหว่างปี 1999-2002 กับ คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่ทำเอาไว้ระหว่างปี 2012-2017