เหมือนจะง่าย แต่สุดท้ายก็หืดจับอีกจนได้สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องเปิดบ้านรับมือ เซบีย่า ทีมที่พวกเขาไม่เคยเอาชนะได้เลยในเกม ยูโรปาลีก รอบแปดทีมนัดแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.

และทั้งๆที่ออกสตาร์ตได้ดี นำหน้าทีมเยือนได้ก่อนถึงสองเม็ดในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเห็นได้ชัดว่า ผีแดง พยายามเน้นแพ็คเกมหมายรักษาสกอร์ แต่ก็มาพลาดท่าเหลือสิบคนจนต้านเจ้าพ่อแชมป์รายการนี้หกสมัยไม่อยู่ เสมอกันไป 2-2  อย่างสุดแสบสันต์โดยทีมเจ้าบ้านเป็นฝ่ายคลำเป้าเรียบวุธทั้งสี่ประตู

1. มาร์กซิยาล เสียบแทน แรชฟอร์ด เจอทีมเก่า

เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทัพด้วยการส่ง อ็องโตนีย์ มาร์กซิยาล ดาวยิงเฟรนช์แมนซึ่งเคยย้ายไปเล่นให้ เซบีย่า แบบยืมตัวลงเล่นแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มีปัญหาบาดเจ็บ

ด้วยเหตุนี้ อดีตสตาร์ทีม โมนาโก จึงอยู่ในโผ 11 คนแรกของทีมเป็นนัดแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ ราฟาแอล วาราน แย่งตำแหน่งคืนจาก แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้ตามคาดเพื่อเป็นคู่ขาในแดนหลังของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ

ด้าน กาเซมีโร่ ที่ติดโทษแบนในเกมลีกอังกฤษลงบู๊ได้ตามปกติประสานงานกับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ในแดนกลางเนื่องจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ บาดเจ็บโดยที่ เฟร็ด กับ คริสเตียน เอริคเซ่น นั่งเป็นตัวสำรอง

2. ลาเมล่า นำทัพ เซบีย่า

เอริค ลาเมล่า อดีตขุนพลทีม สเปอร์ส หวนกลับมาเหยียบเมืองผู้ดีโดยนำทีม เซบีย่า บุกมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมด้วย อีวาน ราคิติช มิดฟิลด์จอมเก๋าชาวโครแอตวัย 35 ปีซึ่งเป็นกัปตันทีมเกมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ในรอบตัดเชือกรายการนี้เมื่อปี 2020 ที่โคโลญจน์โดยเกมที่ว่า  บรูโน่ แฟร์นันด์ส สังหารลูกโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่มาเสียท่าให้ ซูโซ่ กับ ลุค เดอ ยอง ซัดคืนในนาทีที่ 26 และ 78 พาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศไปสยบ อินเตอร์ มิลาน 3-2

สำหรับ อเล็กซ์ เตลเลส แบ็คซ้ายชาวเมืองกาแฟที่ถูกทีมเจ้าบ้านปล่อยให้สโมสรใน ลา ลีกา ยืมตัวมีชื่อนั่งข้างสนามตามคาดร่วมกับ เฆซุส นาบาส และ ไบรอัน กิล ที่ย้ายไปจาก สเปอร์ส แบบยืมตัว รวมแล้ว โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ เปลี่ยนทีมมากถึงเจ็ดรายจากเกมลีกนัดเปิดบ้านเสมอกับ เซลต้า 2-2 โดยถูกทีมเยือนยิงคืนสองเม็ดรวดในสองนาทีสุดท้าย

อย่างไรก็ดี แม้กุนซือทีมเยือนจะมีประสบการณ์คุมทีมในลีกสูงสุดของเมืองกระทิงมากกว่า 450 นัด แต่นี่เกมฟุตบอลถ้วยยุโรปนัดแรกของเขาโดยก่อนหน้านี้นายใหญ่วัย 62 ปีเคยมีประสบการณ์คุมทีม แอธเลติก บิลเบา ลงเล่นถ้วย อินเตอร์ โตโต้คัพ เท่านั้นในปี 2005 และตกรอบสองโดยแพ้การดวลลูกโทษต่อ คลูจ สโมสรจากโรมาเนียหลังเสมอกัน 1-1

3. เทน ฮาก ครึ่งร้อยนัด

สำหรับเกมนี้ เทน ฮาก คุมทีม ผีแดง ลงสนามเป็นเกมที่ 50 พอดี และแม้จะออกสตาร์ตได้แย่แพ้ในสองเกมแรกโดยเฉพาะนัดที่สองที่ออกไปโดน เบรนท์ฟอร์ด ถล่ม 4-0 แต่ถึงวันนี้เขาพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ ได้แล้ว และมีลุ้นซิวถ้วยอีกสองรายการ รวมถึงการคว้าอันดับท็อปโฟร์ด้วย

จาก 49 นัดที่ผ่านมา กุนซือสกินเฮดพาทีมกำชัยได้ 35 นัดคิดได้เป็น 71.42% และเป็นรอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่มากเนื่องจากผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ มีค่าเฉลี่ยคุมทีมชนะ 73.87%

ขณะเดียวกัน ผีแดง ในยุคของ เทน ฮาก ยิงได้ 91 ประตู และเสีย 50 ประตูเฉลี่ยนัดละประตูพอดีเป๊ะ

4. ลุ้นซื้อขาด ซาบิตเซอร์

ถือเป็นเรื่องน่าตกตะลึงไม่น้อยที่ ผีแดง มีเกมที่ดีกับ เซบีย่า ทีมที่พวกเขาแพ้ทางเห็นๆ และสามารถนำหน้าไปก่อนได้ถึง 2-0 ใน 45 นาทีแรกซึ่งเจ้าบ้านครองบอลได้เหนือกว่า 57:43% และแม้จะได้ส่องยิง 7 หนเท่ากัน แต่ทีมเมืองผู้ดีส่องบอลเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ เซบีย่า ทำได้ครั้งเดียวเท่านั้นโดยถูก ดาบิด เด เคอา เซฟได้อย่างเหลือเชื่อก่อนจบครึ่งแรกอึดใจเดียวจากลูกโขกของ ต็องกีย์ นีอ็องซู

แต่ที่แน่ๆ คงไม่มีใครอยากเชื่อว่า ซาบิตเซอร์ เป็นคนเหมาสองประตูที่ว่าให้ แมนฯ ยูไนเต็ด สตาร์ตนำ และมันเป็นการยิงได้ 3 ประตูแล้วสำหรับดาวเตะทีมชาติ ออสเตรีย ในสีเสื้อ เร้ด เดวิลส์ จากการลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่เก้า

เทียบผลงานสมัยเล่นให้ บาเยิร์น 18 เดือนก่อนย้ายมาแบบยืมตัว ซาบิตเซอร์ ซัดให้ เสือใต้ รวมทุกรายการได้แค่ 2 เม็ดเท่านั้นจึงหมายความว่าเขาระเบิดตาข่ายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลาที่สั้นกว่าได้มากกว่าในทีมเมืองเบียร์แล้ว และบางทีฟอร์มที่เด็ดขาดในเกมนี้ของพ่อค้าแข้งวัย 29 ปีอาจทำให้เขาได้ย้ายมาเล่นใน โรงละครแห่งความฝัน แบบถาวรสมใจก็เป็นได้

5. เกมหน้าบอกเลยงานช้างงงงงง

ในที่สุด เทน ฮาก ก็มีปัญหาให้ต้องขบคิดเพิ่มอีกจนได้สำหรับการพาทีมบุกไปเยือน เซบีย่า เกมหน้าเนื่องจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ใบเหลืองช่วงท้ายครึ่งแรกจนต้องติดโทษแบนหนึ่งนัด

ก่อนเกมบู๊กับทีมจาก ลา ลีกา ขุนพล ผีแดง ที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้วหนึ่งใบประกอบไปด้วย กาเซมีโร่ และ แฟร์นันด์ส สองรายด้วยกัน

อย่างไรก็ดี แม้ดาวเตะทีมชาติ โปรตุเกส ออกจะโชคร้ายที่โดนจดชื่อในจังหวะพยายามแหย่เท้าสกัด เนมานย่า กูเดลจ์ และไม่โดนคู่กรณีด้วยซ้ำ แต่เขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพลาดเกมหน้าซึ่งทีมเจ้าบ้านยังไม่คิดยกธงอย่างแน่นอนหลังมาได้ประตูตีไข่แตกก่อนหมดเวลาหกนาทีจากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองของ ไทเรลล์ มาลาเซีย ที่เข้าบล็อกลูกยิงมุมแคบที่เส้นหลังของ นาบาส ตัวสำรองอดีตดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ หลังจากเจ้าบ้านผ่อนเกมมากเกินไปตลอดทั้งครึ่งหลัง

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงทดเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งมีผู้เล่นน้อยกว่าก็พลาดอีกจนได้โดยถูก เซบีย่า ทวงคืน 2-2 จากลูกโขกของ ยุสเซฟ เอ็น เนซีน์รี่ ตัวสำรองอีกรายที่แฉลบ แม็กไกวร์ เข้าประตูเหมือนกัน

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า 55:45% แต่ได้ยิงเป็นรองตามสภาพ 12:13 ครั้ง ทว่ายังส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 5:3 ครั้ง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เซบีย่า ได้เปรียบแล้วในการเฝ้าบ้านนัดหน้า

ฉะนั้นแล้ว เกมที่เมืองกระทิง เทน ฮาก จะต้องคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้ได้โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเสีย กาเซมีโร่ ที่ติดโทษแบนในลีกอังกฤษมาแล้วสองหน รวมถึงเกมล่าสุดที่ไม่มีดาวซัลโวอย่าง แรชฟอร์ด

ต่อในรายของ แฟร์นันด์ส เชื่อว่า เทน ฮาก จะมอบหน้าที่เพลย์เมคเกอร์ในเกมที่สองให้กับ เอริคเซ่น ที่หายเดี้ยงแล้วเช่นกันค่อนข้างแน่เนื่องจากพ่อค้าแข้งทีมชาติเดนมาร์คสามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวได้เช่นกัน

แต่ที่หนักกว่านั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องลุ้นว่า มาร์ติเนซ ซึ่งเหมือนจะข้อเท้าพลิกเองในช่วงสามนาทีสุดท้ายจนต้องออกจากเกม และเจ้าบ้านต้องเล่นกันแค่สิบคนหลังเปลี่ยนตัวสำรองครบถ้วนแล้วจะหายทันเกมหน้าหรือเปล่า และหากไม่ทัน แม็กไกวร์ ซึ่งลงเล่นเป็นตัวสำรองไปก่อนแล้วแทนที่ วาราน ซึ่งบาดเจ็บจะคุมแผงหลังให้ทีมได้ดีแค่ไหนต่อการพยายามผ่านเข้ารอบตัดเชือก

นอกจากนี้ หากว่า แรชฟอร์ด หายเดี้ยงไม่ทันก็มีโอกาสเป็นได้สูงที่ เซบีย่า จะผูกขาดผลงานการดวลกับ ผีแดง ได้ต่อไป และมันจะทำให้โอกาสคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยอีกรายการของ เทน ฮาก ต้องจบลงในรอบแปดทีมสุดท้ายเนื่องจากรวมนัดนี้จนถึงสี่นัด ทีมเมืองกระทิงมีผลงานขี่เห็นๆจากการกำชัยได้สองครั้ง และเสมอสองครั้งซึ่งแรกทีเดียวดูเหมือนว่ากุนซือจากแดนทิวลิปจะแก้อาถรรพ์ที่ว่านี้ให้กับทีมได้ แต่สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำโดยที่อย่าลืมว่าสถิติเกมเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ด้วย