โจชัว เซิร์กซี่ และ นุสแซร์ มาซราวี เปิดตัวอย่างหรูช่วย แมนยู ชนะ ฟูแล่ม 1-0 เกมลีกเปิดซีซั่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

แมนยู ลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดซีซั่นได้ดีเยี่ยม แม้ว่าสกอร์จะชนะ ฟูแล่ม แค่ 1-0 ก็ตาม แต่รูปเกมของพวกเขาถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ โดยเฉพาะนักเตะใหม่อย่าง โจชัว เซิร์กซี และ นุสแซร์ มาซราวี ที่ลงสนามเปิดตัวฟอร์มสร้างผลงานดีมีคุณภาพ ขณะเดียวกัน "ผีแดง" ก็มีจุดอ่อนในเรื่องการป้องกันจังหวะสวนกลับซึ่ง เอริค เทน ฮาก ต้องหาทางปรับแก้ให้เร็วที่สุด

1. เซิร์กซี เปิดตัวในฐานะฮีโร่

 แมตช์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างเกมรุกได้ดี แต่จังหวะการจบสกอร์ของพวกเขายังไม่ค่อยเฉียบคม กระนั้นส่วนหนึ่งที่ "ผีแดง" เจาะประตูไม่ได้มาจากความเหนียวหนึบของ แบรนด์ เลโน่ ที่เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง

 อย่างไรก็ตามหลังจากที่ โจชัว เซิร์กซี ลงสนามในนาทีที่ 61 แทน เมสัน เมาท์ แม้ช่วงแรกๆ ฟอร์มอาจจะยังกระท่อนกระแท่น แต่หลังจากปรับตัวได้นักเตะเริ่มมีบทบาทในเกมรุก โดยเฉพาะการวิ่งหาพื้นที่ว่าง และการพยายามเล่นร่วมกับทีม

 จังหวะประตูชัยเริ่มจากการสร้างเกมของ เซิร์กซี ก่อนนักเตะจะวิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนจะจิ้มบอลให้จังวะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เปิดเข้ามา ซึ่งเป็นประตูสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูฯ คว้า 3 คะแนนสำคัญได้สำเร็จ

 หลังจากนั้น เซิร์กซี แสดงให้เห็นความมั่นใจในการเล่น และกล้าครองบอลมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งทำให้เขาแสดงศักยภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่า ดาวยิงวัย 23 ปียังมีทีเด็ดให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ได้ตื่นเต้นอีกเพียบ

2. มาซราวี โชว์ฟอร์มสุดประทับใจ

 แม้ว่า นุสแซร์ มาซราวี จะเพิ่งย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ช่วงต้นสัปดาห์นี้ แต่ปราการหลังรายนี้ได้รับความไว้วางใจจาก เอริค เทน ฮาก ให้ลงสนามเป็นตัวจริง และเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งแบ็กขวา

 สตาร์ชาวโมร็อกโก ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งถนัด ขณะที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ ต้องโยกไปยืนแบ็กซ้ายจำเป็น โดย มาซราวี แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถปรับตัวกับเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเล่นในลีกที่เน้นใช้ร่างกายได้อย่างสบายๆ

 มาซราวี โดดเด่นมากๆ ในการครองบอล การพาบอลขึ้นไปเล่นเกมรุก และการประสานงานกับ อาหมัด ดิยัลโล่ ทางฝั่งขวา ที่สำคัญนักเตะยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น และยังอ่านเกมทะลุปรุโปร่ง แถมการสกัดบอลก็แม่นยำ

 แม้ว่านี่จะเป็นเกมแรกของ มาซราวี ในฐานะนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เจ้าตัวแสดงให้เห็นศักยภาพแล้วว่าสามารถเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบายๆ

3. ยังต้องปรับเรื่องการป้องกันจังหวะสวนกลับ

 แม้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีจังหวะการเล่นเพรสซิ่งได้อันตรายมากๆ แต่บางครั้งพวกเขาก็เผยให้เห็นจุดอ่อนสำคัญนั่นก็คือการป้องกันจังหวะสวนกลับ ซึ่งถ้าหาเจอกับทีมใหญ่ "ผีแดง" อาจจะโดนลงโทษได้เลย

 จะเห็นได้ชัดว่าในแมตช์นี้ ฟูแล่ม มีช่วงเวลาที่สามารถกดดันเจ้าบ้านได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวะที่ "เจ้าสัวน้อย" ตัดเกมจากหน้าประตูของพวกเขาหรือแย่งบอลได้ในแดนกลาง จะสร้างเกมจนเกือบที่จะได้ประตูหลายครั้ง

 โดยเฉพาะจังหวะที่ ฟูแล่ม ตัดบอลในแดนตัวเอง และ อันเดรียส เปเรยร่า มีโอกาสทองฝังเพชรเลี้ยงบอลหลุดเข้าไปในแดน แมนฯ ยูไนเต็ด แต่น่าเสียดายที่เขาดันส่งบอลไม่ดีไปติดเท้าของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ซึ่งหากในจังหวะนั้น เปเรยร่า ทำได้ดีกว่านี้ ทีมเยือนอาจจะได้ลุ้นประตูเลยก็ว่าได้

 อีกจังหวะที่ ฟูแล่ม มีลุ้นทำประตูก็คือตอนที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ พุ่งล้มหวังเอาฟาวล์แต่กรรมการปล่อยให้เล่นต่อ และ "เจ้าสัวน้อย" มีโอกาสสร้างเกมขึ้นมาจนถึงหน้าประตู "เร้ด เดวิลส์" แต่เดชะบุญที่ ลิซานโดร มาร์ติเนส ลงมาเคลียร์บอลออกไปทัน ไม่งั้นคงโดนลงโทษไปแล้ว

 ดังนั้น เทน ฮาก ต้องไปปรับแก้วิธีการป้องกันเกมสวนกลับให้ดีกว่านี้ เพราะถ้าเจอกับทีมใหญ่มีสิทธิ์ได้น้ำตาตกแน่นอน

4. ฟูแล่มขาดความเฉียบคม

 หนึ่งในสิ่งที่ต้องพูดถึงมากๆ ในแมตช์นี้ก็คือความเฉียบคมของ ฟูแล่ม เพราะจะว่าไปแล้วทีมเยือนถือว่าทำผลงานได้ดี หากมองจากขุมกำลังที่พวกเขามีอยู่ในทีม และสามารถสร้างปัญหาให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างต่อเนื่อง

 จังหวะการเล่นสวนของของ "เจ้าสัวน้อย" ถือว่าอันตรายมากๆ และพวกเขาน่าจะได้อะไรมากกว่านี้ ถ้าหากแนวรุกมีประสิทธิภาพในการสร้างโอกาส และการจบสกอร์ เพราะมีหลายครั้งที่พวกเขามีลุ้นทำประตูแต่ดันทิ้งโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

 งานนี้ มาร์โก ซิลวา กุนซือทีม ฟูแล่ม ต้องรีบไปจัดการติวเรื่องการจบสกอร์ให้กับลูกทีมเป็นการด่วน เพราะอุตส่าห์สร้างเกมรุกขึ้นมาอย่างน่ากลัว แต่ดันมาตายตอนจบถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายมากๆ

5.  แม็กไกวร์ พิสูจน์คุณค่าตัวเอง

 แม้ว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ จะตกเป็นข่าวว่าจะโดนลอยแพในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังทีมคว้าตัว เลนี่ โยโร่ และ มาต์ไตส์ เดอ ลิกต์ มาร่วมทีม แต่งานนี้นักเตะไม่ยอมย้ายไปไหน และสามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีความสำคัญกับทีมมากแค่ไหน

 ช่วงครึ่งแรก แม็กไกวร์ ยืนเป็นหัวใจในเกมรับของทีมได้ดีเยี่ยม มีบางจังหวะที่พยายามขึ้นไปเล่นเกมบุก แต่อาจจะมีเรื่องที่โดนตำหนินั่นก็คือการพุ่งล้ม กระนั้นเมื่อมองอีกมุมจะเห็นได้ว่านักเตะมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามสร้างโอกาสเพื่อช่วยทีมทำประตู

 ขณะที่ครึ่งหลัง แม็กไกวร์ ยกระดับฟอร์มได้ดีกว่าเดิมโดยเฉพาะในจังหวะที่สกัดการสวนกลับของ ฟูแล่ม ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นถึงสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และการแย่งบอลกลับมาอย่างรวดเร็ว

 ตอนนี้ แม็กไกวร์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเป็นหัวใจในเกมรับของทีมได้ และหากได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง สตาร์กองหลังทีมชาติอังกฤษ อาจเป็นแข้งที่ เทน ฮาก ขาดไม่ได้เลย