ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2010-2011 วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553 คู่บิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของทีมจ่าฝูง เชลซี

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2010-2011

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553

ลิเวอร์พูล 2:0 เชลซี

สนาม : แอนฟิลด์
ผู้ทำตัดสิน: ฮาเวิร์ด เว็บบ์
เวลาเตะ : 23:00 น.
ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (101)
ผู้ทำประตู: เฟอร์นานโด ตอร์เรส น.12, เฟอร์นานโด ตอร์เรส น.45

      เกมคู่บิ๊กแมตช์ประจำวัน! ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นผ่านเกมกลางสัปดาห์บุกไปเอาชนะ นาโปลี มาได้ 3:1 จากการทำคนเดียว 3 ประตูของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งยังคงลงเล่นเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางเกมนี้ ตอร์เรส ยืนเป็นหน้าเป้าตัวเดียว ข่าวดีคือ เดิร์ก เคาท์ แข้งคนสำคัญหายเจ็บกลับมาแล้ว

      ฝั่งทีมเยือน เชลซี ทำผลงานได้อย่างยอดเยีย่มตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล เกมนี้ ดีดิเยร์ ดร็อกบา โดนดร็อปเป็นเพียงตัวสำรอง โซโลมง กาลู ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกแทนประสานวงานร่วมกับ อเนลก้า และ มาลูด้า ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ

      ครึ่งแรก 
      เขี่ยลูกเริ่มเล่น นาทีที่ 5 ลิเวอร์พูล ได้ลูกฟรีคิกระยะค่อนข้างไกลต้องเปิดเข้ามาลุ้นในเขตโทษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สาดมาจะให้เพื่อนร่วมทีมเล่น จอห์น โอบี มิเกล โขกสกัดออกมาได้

      ประตูแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 12 มาร์ติน สเคอร์เทล วางยาวขึ้นหน้ามาให้ เดิร์ก เคาท์ ทางซ้ายของสนามก่อนจะครอสข้ามแนวรับ เชลซี ไปในเขตโทษ ตอร์เรส เกี่ยวเอาบอลลง ดึงจังหวะยิงเล่นทางหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปกองก้นตาข่าย ลิวเวอร์พูล ขึ้นนำ 1:0

      นาทีที่ 28 ผู้เล่น ลิเวอร์พูล ชูมือประท้วงยกใหญ่ จังหวะสกัดบอลของ ยูริ เซอร์คอฟ บอลกระดอนสูงไปโดนมือแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ราอูล เมไรเรส ได้ส่องด้วยขวา ปีเตอร์ เช็ก เซฟไว้ได้

      เชลซี ได้ลุ้น! นาทีที่ 38 มาลูด้า ได้บอลหน้าเขตโทษพลิกหนีหาจังหวะยิงด้วยขวา ไปติดกองหลัง ลิเวอร์พูล บอลแฉลบออกหลัง

      ลิเวอร์พูล ได้ประตูสำคัญช่วงนาทีสุดท้าย! แอชลีย์ โคล เสียบอลเกือบๆกลางสนาม ราอูล เมไรเรส จ่ายออกซ้ายให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส แตะเลาะเข้ามาในได้เหลี่ยม ปั่นโค้งไปเสาไกล ส่งบอลเข้ากองก้นตาข่ายอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ เชลซี 2:0

      ครึ่งหลัง
      เขี่ยลูกเริ่มเล่นครึ่งหลัง เชลซี แก้เกมส่ง ดีดิเยร์ ดร็อกบา ลงมาทำเกมรุกขู่แนวรับ ลิเวอร์พูล แทน โซโลมง กาลู ที่เล่นได้ไม่ดีนักในครึ่งแรก เพียง 2 นาทีเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะยิงไกลของ โรดริเกซ แต่ไม่ผ่าน ปีเตอร์ เช็ก

      นาทีที่ 58 เชลซี ได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผลหน้ากรอบเขตโทษเยื้องออกมาทางขวา ดีดิเยร์ ดร็อกบา รับหน้าที่สังหารปั่นบอลกะให้โค้งเสียบเสาแรก ทว่าทำได้ไม่ดีพอ บอลหลุดออกหลัง

      เกมครึ่งหลังของ เชลซี หลังเปลี่ยนดร็อกบา ลงมาดูวูบวาบมากขึ้น! นาทีที่ 61 จอห์น เทอร์รี่ จ่ายให้ ซีร์คอฟ แตะเข้าไปในเขตโทษทางซ้าย แต่งหาจังหวะยิงที่เสาแรก เรน่า ต้องทุบออกหลัง

      เชลซี ได้ลุ้นจะๆ อีกครั้งในนาทีที่ 66 ดร็อกบา เปิดบอลยัดจากขวาเข้ามากลางประตู มาลูด้า เข้ามาตวัดยิงเน้นๆ แต่ไปตรงตัว โฆเซ่ เรน่า

      นาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้น! บอลโยนจากขวาข้ามาซ้าย เคาท์ กั๊กกับ เมไรเลส แต่ยังมีจังหวะเอี้ยวตัวยิงด้วยขวา ปีเตอร์ เช็ก เซฟไว้ได้ด้วยปลายเท้า เชลซี หวิดเสียประตูที่ 3

      นาทีที่ 87 เชลซี ใกล้เคียงกับการได้ประตูตีไข่แตก!! โบซิงวา จ่ายบอลให้ อเนลก้า ในเขตโทษทางขวา ก่อนหอกเลือดน้ำหอมจะสับไกด้วยขวา เรน่า ปัดบอลได้จังหวะแรกกระดอนชนคานบนเหลี่ยมนอกเด้งออกมา ดร็อกบา จะเข้าซ้ำ คาร์ราเกอร์ ล้มตัวขวางก่อนที่ บอลจะถูกเคลียร์ออกมา

      ทดเวลา 3 นาที!! ลิเวอร์พูล เริ่มดึงเกมช้า ช่วงท้าย มักซี่ โรดริเกซ ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ เช็ก ออกมาตัดเหมือนจะรวบ โรดริเกซ ล้มลงแต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เล่นต่อ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่ม! ลิเวอร์พูล คว้า 3 คะแนนสำคัญ เอาชนะ เชลซี ไปได้ 2:0

ลิเวอร์พูล : ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : โฆเซ่ เรน่า
กองหลัง : เจมี่ คาร์ราเกอร์,พอล คอนเชสกี้, มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล
กองกลาง : ราอูล เมไรเรส (เจย์ สเปียร์ริ่ง น.90+), ลูคัส เลว่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์ (จอนโจ้ เชลเวย์ น.83), มักซี่ โรดริเกซ
กองหน้า : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (ดาวิด เอ็นก็อก น.88)
สำรอง : มิลาน โยวาโนวิช, แดนนี่ วิลสัน, ดาวิด เอ็นก็อก, เจย์ สเปียร์ริ่ง, คริสเตียน โพลเซ่น, จอนโจ้ เชลเวย์, มาร์ติน ฮานเซ่น

เชลซี: ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (โชเซ่ โบซิงวา น.69), จอห์น เทอร์รี่, อเล็กซ์, แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ ซีร์คอฟ (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ น.76)
กองหน้า : ฟลอร็องต์ มาลูด้า, โซโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : ดีดิเยร์ ดร็อกบา, โชเซ่ โบซิงวา, เปาโล เฟอร์เรร่า, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, กาแอล กากูต้า, แม็คแอชแครน, รอส เทิร์นบูลล์