ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » หมูป่าอ่วมเบื้องต้นโดนปรับแสนห้า,อาจตัดสิทธิ์ห้ามแข่ง

หมูป่าอ่วมเบื้องต้นโดนปรับแสนห้า,อาจตัดสิทธิ์ห้ามแข่ง

Posted 29/12/2010 by siamsport

 

      "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ส่ออ่วม ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก พิจารณาบทโทษโดนแน่ๆ เบื้องต้นปรับ 150,000 บาท แถมอาจตัดสิทธิ์ ห้ามส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน 1 ฤดูกาล หลังไม่สามารถควบคุมแฟนบอลไม่ให้ลงสนามได้ ด้าน สาวก "กูปรีอันตราย" ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ฝั่งไหนจะรับผิดชอบค่าเสียหาย ขณะที่ แฟนบอลผู้ก่อเหตุของนครปฐม มอบตัวอีก 6 คน อ้างป้องกันตัว พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 

       ความคืบหน้าจากเหตุการณ์ที่ แฟนบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี รุมทำร้าย แฟนบอล พร้อมทั้ง ทำลายข้าวของและรถยนต์ของ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เสียหายเป็นจำนวนมาก ในเกมเพลย์ออฟ สาย เอ เพื่อหาทีมขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่สนาม ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
 
       ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมทั้งคณะกรรมการ รวมทั้งผู้ควบคุมการแข่งขัน ได้ร่วมประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เกี่ยวกับผลสรุปในคดีดังกล่าว
  
       เพื่อจะนำเสนอต่อ พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทและข้อประท้วง ในการตัดสินคดี สตาฟฟ์โค้ชและแฟนบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ไล่ตะลุมบอน แฟนบอลรวมทั้งทำลายข้าวของและรถยนต์ของ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ในเกมดังกล่าว โดยใช้เวลาหารือกว่า 3 ชั่วโมงจึงได้ข้อเสนอ

    

ตัดสินเบื้องต้นปรับนครปฐม1.5แสนบาท

 
      หลังจากนั้นเวลา 17.00 น. ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้เปิดห้องประชุมเพื่อให้สื่อมวลชน ที่ให้ความสนใจ ในการเดินทางไปทำข่าวกันอย่างเนืองแน่นทุกสำนักให้สัมภาษณ์
 
      โดยเบื้องต้นนั้น นายใหญ่ไทยพรีเมียร์ลีก เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการจัดการแข่งขันของ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ได้ดูเหตุการณ์จากเทปบันทึกภาพ ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากทาง สยามกีฬาทีวี พร้อมกับได้ข้อสรุปที่จะนำเสนอต่อ สมาคมฟุตบอลฯ ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ เวลา 15.00 น. เพื่อตัดสินลงโทษกับทีม นครปฐม เอฟซี
 
       เบื้องต้นมี 2 ประเด็นด้วยกัน คือ 1. ผู้เล่น ใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับผู้ตัดสิน 2. เจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ตัดสินมีโทษปรับ 100,000 บาท ส่วนกองเชียร์ ทำร้ายผู้ตัดสิน ปรับ 50,000 บาท

    

เพิ่มโทษทีม "หมูป่าเขี้ยวตัน" อีกอ่วม

 
     นอกจากนั้นประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ยังได้กล่าวอีกว่า "ในส่วนของการเพิ่มโทษกับทีม นครปฐม เอฟซี เหตุก็เพราะว่า เหตุการณ์ดังกล่าว มันรุนแรงเกินกว่าที่ทีมเจ้าบ้าน จะควบคุมเจ้าหน้าที่ทีมและแฟนบอลของตัวเอง ไม่ให้ก่อเหตุได้
 
      ซึ่งมีอยู่ 3 กรณีด้วยกัน ก็คือ 1. จำเป็นจะต้องงดการให้ทีม นครปฐม เป็นเจ้าบ้านไม่ต่ำกว่า 10 นัด  2. ตัดสิทธิ์ถอนทีมออกจากลีกดิวิชั่น 1 โดยจะเริ่มต้นในฤดูกาลหน้า โดยพัก 1 ปีแล้วค่อยส่งทีมใหม่ในปีถัดไป 3. ลดชั้นให้ไปอยู่ลีกดิวิชั่น 2 โดยข้อนี้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ค่อนข้างไม่เห็นด้วยเนื่องจากหากควบคุมไม่ได้ไปอยู่ลีกไหนก็มีปัญหาเหมือนกัน"

    

แจงเล่น 17 ทีมไม่มีปัญหาแน่

 
      ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าว ในกรณีที่หากถอนทีม นครปฐม เอฟซี ออกจากลีกดิวิชั่น 1 จะทำให้เหลือทีมแข่งขันในฤดูกาลหน้าเพียงแค่ 17 ทีมเท่านั้น โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง กล่าวว่า "หากต้องตัดสิทธิ์ทีม นครปฐม ไม่ให้ส่งแข่งขันในฤดูกาลหน้าจริงๆ ก็จะทำให้เหลือทีมในลีกเพียงแค่ 17 ทีมนั้นในทางเทคนิคสามารถแข่งขันได้ ตนไม่สนใจว่าจะมีกี่ทีม ขณะเดียวกันระเบียบการแข่งขันก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"

    

ยันตรวจสอบการนัดสินนัดแรกแล้ว

 
      นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวยังซักต่อไปอีกว่า เหตุการณ์นี้มันอาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากเกม ที่ นครปฐม เอฟซี โดนผู้ตัดสินเป่าไม่ให้ความเป็นธรรมในนัดแรก ที่เจอกันกับเกมเพลย์ออฟ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 53 ที่บ้านของ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เป็นชนวนเหตุให้เกิดความรุนแรงในเกมนัดสองหรือไม่นั้น
 
      นายใหญ่ไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า "เราได้ตรวจสอบการตัดสินในเกมแรกระหว่าง ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี กับ นครปฐม เอฟซี ซึ่งมันมีปัญหาในจังหวะที่ นครปฐม เอฟซี จะได้ประตูขึ้นนำแต่ถูกยกธงล้ำหน้านั้นหลักฐานไม่ชัดเจนว่า ออฟไซด์" ดร.วิชิต ยืนยัน

    

ซุ้มม้านั่งเป็นของผู้ตัดสินที่ 4

 
      ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวถึงหน้าที่และความรับผิดชอบบริเวณข้างสนามเป็นข้อบกพร่องของ ผู้ควบคุมการแข่งขันหรือไม่ที่ปล่อยให้ คนไม่มีไอดีการ์ดลงไปอยู่ในซุ้มม้านั้งสำรอง
 
      ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง กล่าวว่า "ในซุ้มม้านั่งสำรอง หากว่าคนที่ไม่คล้องบัตรไอดีการ์ด อยู่ในบริเวณนั้น เป็นหน้าที่ของ ผู้ตัดสินที่ 4 ที่จะต้องเชิญตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าว ส่วนที่มีคนพกปืนเข้าไปอยู่ในสนามด้วยนั้น ก็ต้องเป็นของฝ่ายเจ้าบ้าน เพราะเราก็มีกฎระเบียบที่เขียนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ในขณะที่เราไม่สามารถที่จะเข้าไปเข้มงวดกับเรื่องตรงนั้นได้"

   

มั่นใจผู้ตัดสินไม่สไตรก์เกม ด.2 แน่

  
      ขณะเดียวกันจากกรณีที่มีข่าวออกมาว่า ผู้ตัดสินจะทำการประท้วงไม่ลงตัดสินในเกมดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง บุรีรัมย์ เอฟซี พบกับ เอฟซี ภูเก็ต และเกมชิงอันดับ 3 ระหว่าง ชัยนาท เอฟซี พบกับ เชียงใหม่ เอฟซี ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ ที่สนามศุภชลาศัย หากทางสมาคมฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ เพื่อนผู้ตัดสินดวงซวย
  
      ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เผยว่า "ตนไม่เชื่อว่าผู้ตัดสินจะไม่ลงทำหน้าที่ในเกม ดิวิชั่น 2 เพราะว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย มั่นใจว่าเกมจะดำเนินการอย่างไม่มีปัญหาแน่"

    

ยันปีหน้า อาจมีระเบียบเข้มข้นกว่าเดิม

       นอกจากนั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยังตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในเรื่องของระเบียบการแข่งขัน ที่สโมสรส่วนใหญ่ไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหลายครั้งในสนามฟุตบอลขึ้น
  
      "ในวันที่ 13-14 ม.ค. นี้ ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย จะจัดงานสัมมนาเอกซโปรฟุตบอลขึ้น พร้อมกับเปิดโอกาสนี้ให้ทาง "ทีพีแอล" ได้นำเสนอรายงาน 2 ชั่วโมง โดยตนก็จะถือโอกาสนี้ นำเอาเรื่องของระเบียบการจัดการแข่งขัน ขึ้นให้ชัดเจน ปีหน้ามาตรการในการจัดการแข่งขันอาจจะต้องเข้มข้น ทีมไหนไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย เราอาจจะไม่ให้แข่งขัน ใครจะบอกว่าโหดก็ต้องจัดการ"

    

แฟน "กูปรี" เรียกร้องใครรับผิดชอบค่าเสียหาย

 
      หลังการประชุมสิ้นสุดลงได้มีแฟนบอลของ "กูปรีอันตาย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทาง ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทย พรีเมียร์ลีก
 
      โดย นายชนิด วงษ์ฮาม ประธานกองเชียร์พลัดถิ่น ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เผยว่า ที่เรามาครั้งนี้ต้องการที่จะรู้ว่าค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับกองเชียร์ของเราทางฝั่งไหน ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เพราะว่าเวลานี้มันเงียบหายไม่ได้รับการติดต่อเข้ามา มีเพียงแต่ "เฮียหวด" สมบัติ เกียรติสุรนนท์ ของทางฝั่งศรีสะเกษเท่านั้นที่ให้ค่ารักษาพยาบาล ส่วนข้าวของและรถยนต์ ก็เสียหายเยอะเรื่องยังเงียบ
 
      ประธานกองเชียร์พลัดถิ่น "กูปรีอันตาย" ยังกล่าวเสริมอีกว่า "อยากให้กรณีของ ศรีสะเกษ เป็นสโมสรสุดท้ายอยากจะให้ทุกสโมสรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในสนามฟุตบอล ทุกวันนี้หลายทีมต้องดูตัวอย่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของแฟนบอล ซึ่งถ้าเขาทำดี ทุกทีมก็ควรนำเอามาเป็นตัวอย่างไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลยอย่างนี้"

    

ตั้งกล่องรับบริจาคเกมนัดสุดท้าย

        นอกจากนั้น นายชนิด วงษ์ฮาม ยังกล่าวอีกว่า เกมสุดท้ายในวันที่ 31 ธ.ค. นี้ที่เราจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของเรา ได้หารือกันว่าถ้ายังไม่ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของค่าเสียหายกับแฟนบอลของเรา รวมทั้งข้าวของและรถยนต์ ตนจะทำกล่องรับบริจาคจากแฟนบอลของเราเอง เพื่อนำเอาเงินมาช่วยเหลือพี่น้องเราที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว" ประธานกองเชียร์กูปรีพลัดถิ่น กล่าว

    

แฟนบอล "หมูป่า" มอบตัว 6 คน

       ส่วนความคืบหน้าในคดีแฟนบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี รุมทำร้ายแฟนบอล พร้อมทั้งทำลายข้าวของและรถยนต์ของ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี นั้นในเวลา 13.30 น. ทาง สภ.กำแพงแสน ได้รับแจ้งว่ามีผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน
 
      ประกอบด้วย นายวิศาล ลักษณ์ในธรรม หรือ อั้น อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/1 ม.1 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม, นายนิคม ทองหอม หรือ กรุง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6210 ซอยพิพิธประสาท 7 ถนนพิพิธประสาท ต.พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม, นายยุมมาคาร โคเกเคล หรือ ยู อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม,
 
      นายกิตติศักดิ์ ศรีมนทก หรือ บี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ถ.เทศบาล 1 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม, นายชัยศิริ สกลพันธุ์ หรือ หนึ่งดอยคำ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 305/1-2-3 ถนนรถไฟ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม และ นายฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ หรือ โจ๊ย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 ถนนยิงเป้า ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม

    

เจ้าหน้าที่ทีมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 
      ส่วน นายฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ หรือ "โจ๊ย" เจ้าหน้าทีม นครปฐม เอฟซี ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเข้าไปไกล่เกลี่ยในสนามเท่านั้น และที่เดินทางมาแสดงตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้ก็เพราะความบริสุทธิ์ใจไม่ใช่การมอบตัวแต่อย่างใด
 
     "ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการออกหมายเรียกแต่อย่างใด ทว่าที่มาวันนี้เพราะอยากจะแสดงความบริสุทธิ์ เนื่องจากมีคนจำนวนมากเห็นพวกเราทั้ง 6 คนผ่านจอโทรทัศน์ และเราขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น"

    

ที่เหลือยันไม่ใช่ "กองเชียร์พลัดถิ่น"

 
      ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าว ที่ถามอีก 5 คน ว่าใช่ "กองเชียร์พลัดถิ่น" หรือไม่ เนื่องจากมีแฟนบอลของ นครปฐม เอฟซี จำนวนหนึ่ง เดินทางไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "สรยุทธ เจาะข่าวเด่น" แล้วพูดถึงประเด็นนี้ว่า ทำให้เกิดเรื่องทุกอย่างขึ้นมา ซึ่งทั้ง 5 คน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ใช่ "กองเชียร์พลัดถิ่น" แต่เป็นแฟนบอลที่ติดตามคอยดูผลงานของ นครปฐม เอฟซี มาโดยตลอด
 
      หลังจากนั้นผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ได้เข้าห้องประชุมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 (ปป.1) ร่วมหารือด้วย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม จึงได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้ปากคำในห้องสืบสวน แต่ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานว่าทุกคนยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

    

"รองภาค7" ชี้เป็นสิทธิ์ในการต่อสู้คดี

 
     นอกจากนี้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 (ปป.1) ยังได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการประชุมในวันนี้ว่า "จากการที่เราได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย มามอบตัวในวันนี้ เมื่อรวมกับที่มอบตัวไปแล้ว 1 ราย ทำให้ตอนนี้ทั้งหมดมี 7 คนแล้ว โดยที่เราได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดให้ทราบแล้ว
 
     "หากถูกข้อกล่าวหาพยายามร่วมมือกันทำร้ายร่างกาย จะถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 4 พันบาท ถ้ากรณีพกอาวุธปืนในที่สาธารณะ จะจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท ซึ่งพนักงานจะเร่งดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เชื่อว่าจะใช้ในการรวบรวมหลักฐานไม่เกิน 2 สัปดาห์อย่างแน่นอน"

    

ออกหมายเรียกหากไม่มากลายเป็นหมายจับ

 
     พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ยังได้พูดถึงผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ยังไม่มาให้ปากคำว่า ตอนนี้เราเหลือแค่การออกมามอบตัวอีก 3 คน หากยังไม่เดินทางมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำได้ จะกลายเป็นการออกหมายจับทันที เนื่องจากเป็นการผิดต่อพระราชบัญญัติที่วางไว้
 
     รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 (ปป.1) ยังได้กล่าวถึงเกมการแข่งขันฤดูกาลหน้า เราได้รับคำสั่งมาจากผู้บัญชาการตำรวจ ภาค 7 ซึ่งบอกนโยบายมาแล้วว่า จะขอดูใบตารางการแข่งขันทุกนัดใน นครปฐม หากมีแมตช์ที่สำคัญและมีความเข้มข้น จะจัดเจ้าหน้าจำนวน 1 กองร้อย เพื่อคอยไปดูแลความเรียบร้อยถึงขอบสนาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ชิงดำ ภูเก็ต-บุรีรัมย์ โวขอถ้วยแชมป์เป็นของขวัญปีใหม่
    ศึกชิงชิงชนะเลิศดิวิชั่น 2 รอบแชมป์เปี้ยนส์ลีกพุธนี้ โค้ชยงกุนซือ บุรีรัมย์ เอฟซี ท้าภูเก็ตเปิดเกมรุ กแลกมั่นใจเข้าทางทีมแน่ ขอมอบถ้วยแชมป์เป็นของขวัญปีใหม่แฟนบอล ด้านอ.อาจหาญ กุนซือ เอฟซี ภูเก็ต ขอใช้เกมรัดกุมสยบ มั่นใจคว้า แชมป์เช่นกัน
  • ศึกชิงอันดับ 3 ชปล. เชียงใหม่-ชัยนาท ไม่ฟูลแต่โวพร้อมคว้าชัยทั้งคู่
    ศึกดิวิชั่นรอบแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงที่สามพุธนี้ โค้ชยศไม่หวั่นแบนเจ็บเพียบขอเปิดเกมรุกบุกแหลกหวังคว้าชัยก่อนลุยด.1 ด้านโค้ชปอนด์โวขาดศรัณย์ไม่ส่งผลกระทบต่อทีม เชื่อผู้เล่นที่เหลือทดแทนได้ มั่นใจไม่กดดันคว้าชัยได้แน่นอน
  • โดนขั้นแรกปรับ"หมูป่า"1.5 แสน แถมจ่อโดนพักทีม
    สโมสรนครปฐมเอฟซี โดนพิจารณาตัดสินขั้นแรกปรับ 150,000 บาท พร้อมพิจารณาอีกครั้งพรุ่งนี้(29ธ.ค.) เผยอาจมีสิทธิ์จ่อโดนพักทีม
  • เจ้าท่ายิ้มผู้ร่วมทุนโอเคควัก110ล้าน,เตี้ยคุมต่อรั้งโจ้อยู่
    ลงเอยด้วยดี "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี พร้อมเดินหน้าลุยทุกรายการในปีหน้าอย่างไร้ปัญหา "บิ๊กเชฐ" พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสร ออกมาการันตีเอง คุยกับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนลงตัวแล้วรอแถลงข่าวเร็วๆ นี้ พร้อมควัก 110 ล้าน ใช้หนี้ บ.การท่าเรือไทย เอฟซี จำกัด 50 ล้าน และให้งบทำทีม 60 ล้าน ยังไว้ใจ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ คุมต่อ ทุบสถิติไทยลีก รับเน้นๆ เดือนละ 5 แสน รั้ง "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี อยู่ล่าตาข่ายให้ทีมต่อ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »