''เอม-เจษยา'' ฉุน! ''สเตฟาน'' ชอบตอบคำถามกำกวม เหน็บเป็นผู้ชายกลับกลอก เผยพระเอกลูกครึ่งได้เข้าไปในห้องจริง โต้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ปัดเป็นฝ่ายชวนขึ้นห้องรับเตี๊ยมกับ ''สเตฟาน'' จริง แต่ทำไมก่อนหน้านี้พระเอกหนุ่มถึงไม่ออกมาพูดว่ารู้จักไม่ใช่แค่เป็นสาวนิรนาม ยันตนเป็นผู้หญิงกล้าทำกล้ารับ ตอกกลับฝ่ายชายคิดจะมาจีบตนแต่ถามหรือยังว่าจะเอาไหม? แจงตนเองมีแฟนแล้ว พร้อมยืนยันชัดเจนว่าตนเองไม่ชอบผู้ชาย

ถือว่ากลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกหนึ่งกระแสข่าวที่กำลังพูดถึงกันอย่างมากในวงการบันเทิง ที่หลังจากมีภาพหลุดของพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' ฐสิษฐ์ สิงคณาวิวัฒน์ ควงดาราสาว ''เอม'' เจษยา เวียงเกตุ ขึ้นคอนโดไปพร้อมๆ กันนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้พระเอกหนุ่ม ''สเตฟาน'' ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ขึ้นไปในห้องส่วนตัวของ ''เอม'' ทั้งสิ้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ''สาวเอม'' ก็ได้ออกมาแฉกลับว่าพระเอกหนุ่มลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' เป็นฝ่ายขอขึ้นคอนโดตนเอง ซึ่ง ''สเตฟาน'' ก็ได้ยืนยันกลับมาว่าดาราสาวเป็นฝ่ายโทร.มาเตี๊ยมให้ตนพูดอย่างนั้นกับสื่อ และเป็นฝ่ายชวนตนขึ้นห้องส่วนจะไปทำอะไรกันนั้นให้คิดกันเอาเอง ตามที่ ''สยามดารา'' ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
 
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ''สยามดารา'' จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากดาราสาว ''เอม-เจษยา'' เกี่ยวกับประเด็นที่ ''หนุ่มสเตฟาน'' ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า ''เอม'' เป็นฝ่ายชวนพระเอกลูกครึ่งขึ้นคอนโดเองและไปทำอะไรกันนั้นให้คิดกันเอาเอง ซึ่งดาราสาว ''เอม-เจษยา'' ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้คนอ่านและคนรับข่าวสารนี้ใช้วิจารณญาณกันด้วยว่าใครกันแน่ที่พูดกลับไปกลับมา
 
''เค้าบอกอย่างนั้นเหรอค่ะ... อันนี้หนูขอพูดตรงๆ นะคะ เพราะหนูเป็นคนตรงๆ อยู่แล้วด้วย หนูคิดว่าคนอ่านหรือคนที่รับข่าวสารนี้เค้าน่าจะมีวิจารณญาณในการแยกแยะออกนะคะว่าอะไรคือข้อเท็จจริง ใครกันแน่ที่กลับกลอกพูดกลับไปกลับมา ถ้าเค้าจะพูดอย่างนี้ก็แล้วแต่คนอ่านแล้วกันค่ะ (จริงๆ ได้ชวนเค้าไหม?) คือเอาตรงๆ นะคะคือหนูก็เพิ่งรู้จักกับเค้าตอนงานแถลงผังช่อง 9 นี่เอง แล้วเค้าเป็นคนชวนหนูไปกินข้าวถูกไหมคะ แล้วก่อนหน้านี้ทำไมเค้าถึงไม่พูดล่ะค่ะ ว่ารู้จักหนู ชวนหนูไปกินข้าวจริง แล้วเค้าก็ไปส่ง แต่ ณ เวลานี้มันกลายเป็นว่าหนูพาผู้ชายขึ้นห้องแล้วมันมีชื่อหนูออกไป''
 
ต่อข้อซักถามที่พระเอกหนุ่ม ''สเตฟาน'' ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ''เอม'' เป็นฝ่ายโทร.มาเตี๊ยมให้ตนเองตอบคำถามกับสื่ออีกอย่าง แต่ ''เอม'' กลับพูดอีกอย่างนั้นจริงหรือเปล่า ซึ่งดาราสาวก็ได้ยอมรับว่าเป็นความจริงที่ตนเองโทร.เตี๊ยมเรื่องภาพ แต่ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จักและเรียกตนว่าสาวนิรนามขนาดนั้น
 
''คือเอมเห็นนสพ.ฉบับหนึ่งลงภาพหลุดไป หนูก็เลยบอกเค้าว่าจะให้สัมภาษณ์ยังไงก็ได้แต่อย่าทำให้เอมเสียชื่อ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่เลิกคุยกันไปแล้ว ทุกอย่างที่พี่ฟานทำพี่ฟานเองรู้อยู่แก่ใจในทุกอย่าง แต่เค้าบอกว่าเค้าไม่รู้จักหญิงสาวนิรนามในภาพ แล้วเค้ายังให้สัมภาษณ์กับสื่อเลยว่าน้องเค้าเป็นคนขอให้ผมไปส่งเอง หนูถามหน่อยว่าใครได้ยินใครก็โกรธ ว่าอ้าว! คุณเป็นคนมาเองนะ แล้วทำไมพูดแบบนี้ล่ะ แล้วการที่เตี๊ยมกันไว้ก็คือว่าหนูเป็นคนบอกให้พี่ฟานพูด ก็ใช่ค่ะ หนูยอมรับว่าหนูเป็นคนบอกเค้าว่าภาพหลุดที่ห้องเป็นที่ห้างก็ได้ แต่คือในสื่อเขียนว่าคอนโด ซึ่งถ้า ณ เวลานั้นพี่ฟานออกมาพูดมันก็จบแล้ว แต่นี่คือมันทิ้งระยะเวลาให้สื่อเดินมาหาหนูเองอีกไง''
 
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามต่อถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง ''เอม'' กับ ''สเตฟาน'' เป็นอะไรกันแน่นั้น ดาราสาว ''เอม-เจษยา'' ก็ได้ชี้ชัดว่าตนเองกับพระเอกหนุ่มไม่ได้เป็นแฟนกันทั้งสิ้นและไม่เคยคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำไป
 
''หนูกับเค้าไม่ได้เป็นแฟนกันอยู่แล้ว คือหนูไม่ได้คิดอะไรกับคนคนนี้เลย ถามว่าก่อนที่จะเป็นข่าวเนี่ย หนูไม่ได้เดินไปหาข่าวแต่ข่าวมันเข้ามาหาหนูเอง คือถ้าเกิดเค้าออกมาพูดตั้งแต่วันที่มีภาพหลุด เค้าพูดมาสิว่าเค้ารู้จักหนู เอมเป็นแค่น้องก็เท่านั้นมันก็จบแล้ว แต่เค้ามาพูดให้กำกวม ปฏิเสธทุกอย่างจนต้องให้สื่อมาถามฝั่งหนูเนี่ยมันคืออะไรเหรอ เพราะยังไงสื่อก็ต้องได้สัมภาษณ์เค้าก่อนอยู่แล้วไงคะ นี่คือเค้าทิ้งความสงสัยให้สื่อเดินเข้ามาถามหนูไงคะ แล้วการที่เค้าจะมาโยนว่าเค้าเตี๊ยมกับหนูไว้ ทำไมเค้าไม่ออกมาพูดก่อนที่หนูจะออกมาพูดล่ะคะ คือเค้าน่าจะพูดปกป้องหนูตั้งแต่ตอนนู้น ไม่ใช่ว่าพอหนูออกมาพูดแล้วเค้าถึงออกมาพูดว่าเฮ้ย! เตี๊ยมกันไว้ไม่ใช่เหรอ''
 
ส่วนประเด็นที่พระเอกหนุ่ม ''สเตฟาน'' ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าคิดจะจีบและศึกษาดูใจกับ ''เอม'' แต่มาเจอเหตุการณ์อย่างนี้จึงขอยุติความสัมพันธ์ดีกว่านั้น ดาราสาวก็ได้ตอกกลับทันทีว่าฝ่ายชายคิดจะจีบตนแล้วถามตนบ้างหรือเปล่าว่ายังไง พร้อมยืนยันว่าตนเองมีแฟนแล้วและไม่ได้ชอบผู้ชายด้วย
 
''เออ...พี่คิดว่าถ้าเค้าบอกว่าเค้าจะจีบหนูจริงแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล้วยุติความสัมพันธ์กันดีกว่า...ถามว่าพูดอย่างนี้จะจีบหนูจริงแล้วเจอเหตุการณ์อย่างนี้ คนถ้าจะจีบหนูจริงเนี่ย ก็ต้องมาติดต่อกับหนูสิคะ ไม่ได้ผ่านสื่ออย่างนี้ เค้าบอกว่าเค้าจะจีบหนูแล้วเค้าถามหนูหรือยังว่าหนูจะเอาเค้าไหม...คือก่อนหน้านี้มันต้องมีอะไรที่ทำให้เราไม่คุยกันอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างหนึ่งหนูก็พูดตรงๆ เลยว่าหนูก็มีแฟนแล้วนะพี่ แล้วจริงๆ หนูก็ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยนะ แล้วอีกอย่างหนูก็ค่อนข้างที่จะเกรงใจแฟนหนูด้วย เพราะว่าแฟนหนูเค้าก็รู้ว่าเรื่องทุกอย่างหมดว่ามันเป็นยังไง เค้าก็เข้าใจเอมนะ เค้าก็อยู่ข้างเอมมาตลอด''
 
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าสรุปวันนั้นที่มีภาพออกมา ''สเตฟาน'' ได้เข้าไปในห้องของ ''เอม'' หรือเปล่า? ดาราสาวก็ได้ยอมรับว่าพระเอกหนุ่มลูกครึ่งเข้าไปในห้องจริง
 
''วันนั้นลูกตาล (อาริษา วิลล์) ก็อยู่ค่ะ เข้ามาก็คือยอมรับว่าเข้ามาจริงๆ ค่ะ แต่หนูถามจริงๆ เถอะค่ะถ้าเค้าบอกว่าหนูชวนเค้าขึ้นห้องเองเนี่ย ในความคิดคนอ่านก็น่าจะรู้แล้วค่ะว่าคำตอบของเค้าคืออะไร แล้วใครเป็นคนพูดกลับไปกลับมา ใช่หนูยอมรับว่าหนูเป็นคนบอกให้พี่ฟานพูดอย่างนั้น แต่ ณ ช่วงเวลาวันนั้นคุณพูดไปอย่างนั้นก็จบ สื่อก็ไม่จำเป็นต้องเดินเข้ามาถามหนู ถ้าเกิดว่าคุณคิดว่าไม่อยากให้ใครมาถามหนูคุณก็ต้องรักษาเกียรติเรานิดนึงสิ''
 
ทั้งนี้เมื่อถามเจาะลึกว่าในวันนั้นหลังจากเข้าไปในห้องแล้วได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันด้วยไหม? ดาราสาวก็ได้ปฏิเสธยืนยันเสียงดัง ''ไม่มีค่ะ...ไม่มีแน่นอน แล้วหนูก็ยืนยันด้วยว่าไม่มีแน่นอน (เสียงดังฟังชัด)''
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่าแต่ทางฝั่ง ''สเตฟาน'' อึกๆ อักๆ ในคำตอบ บอกเพียงแค่ให้คิดเอาเอง ดาราสาว ''เอม-เจษยา'' ถึงกับให้สัมภาษณ์เหน็บพระเอกหนุ่มว่าเป็นคนกลับกลอก ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตอบอย่างนั้น พร้อมยืนยันว่า ''ลูกตาล''  อาริษา วิลล์ ก็อยู่ด้วย
 
''ใช่ไง...นั่นแหละทำไมเค้าต้องตอบอย่างนั้นล่ะ (เสียงแข็ง) ในเมื่อหนูเองก็เคลียร์ความบริสุทธิ์แล้วว่าก็ขึ้นมาใช่...หนูก็กล้าพูดว่าเค้าขึ้นมาจริง เพราะวันนั้นลูกตาลก็อยู่ พี่ลองไปถามลูกตาลก็ได้ว่าเค้าขึ้นมา แล้วก็ถามว่าหนูก็ไม่รู้หนูไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ด้วย เพราะหนูยืนยันว่าพูดความจริง แล้วก็ถามว่าเค้ามาพูดว่าหนูเป็นคนให้เค้าพูดแบบนี้ ทุกอย่างคนก็มองออกอยู่แล้วว่าใครเป็นคนกลับกลอก''
 
อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงผลกระทบและปัญหาที่ทั้ง ''เอม-สเตฟาน'' ยังต้องร่วมงานถ่ายละครเจอกันอยู่นั้น ดาราสาวก็ได้ปฏิเสธว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เพราะผู้ใหญ่ก็น่าจะเข้าใจว่าเป็นปัญหาเด็ก 2 คนเท่านั้นและยืนยันว่าตนเองเป็นผู้หญิงกล้าทำยังกล้ารับ แต่ผู้ชายทำไมกล้าทำแล้วไม่กล้ารับ
 
''ไม่มีนี่ค่ะ คือหนูคิดว่าเรื่องนี้ผู้ใหญ่เค้าน่าจะเข้าใจค่ะว่ามันเป็นเรื่องของคน 2 คน เป็นเรื่องกันเอง ซึ่งเรื่องตรงนี้มันคอนโทรลกันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ แต่ในแง่ของการทำงานก็ต้องทำงานด้วยกันอยู่แล้วค่ะ เจอหน้ากันตามกองก็อาจจะเฉยๆ มากกว่า คงไม่ต้องเคลียร์ทั้งสิ้น ทุกอย่างรู้อยู่แก่ใจ เพราะหนูก็ไม่ได้เกลียดเค้านะ แต่หนูเป็นคนพูดตรงๆ แล้วหนูก็ยืนยันในคำพูดของหนูด้วยว่าหนูพูดความจริงทุกอย่าง หนูเป็นผู้หญิงที่กล้าทำและกล้ารับค่ะ แต่เค้าเป็นผู้ชายทำไมกล้าทำแล้วไม่กล้ารับล่ะ ซึ่งถ้าหนูอยากจะเกาะเค้าดังหนูให้ข่าวกับสื่อไปนานแล้วค่ะ'' เอม กล่าวในที่สุด