กลายเป็นคู่เกาเหลาชามโตแห่งกองละคร ''สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา''ระหว่าง หนุ่มสเตฟาน และ ''สาวเอม-เจษยา'' กลายเป็นเรื่องใหญ่โตที่ไม่จบเสียที โดยที่สาวเอมออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อทั้งน้ำตาว่า สเตฟานไม่ใช่ลูกผู้ชาย

 
โดยก่อนหน้านี้ ''สาวเอม-เจษยา'' ให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับผู้สื่อข่าวพร้อมน้ำตาถึงกรณีดังกล่าวที่ว่า สเตฟานบอกว่า มีอะไรหรือไม่มีอะไรให้ไปคิดเอา ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นคำพูดของสเตฟาน เรื่องนี้น่าจะมีคนอยู่เบื้องหลัง ถึงทำให้หนุ่มสเตฟานพูดออกมาแบบนี้ จึงทำให้สาวเอมถึงกับน้ำตาแตกเพราะคำพูดของหนุ่มสเตฟาน
 

สำหรับหนุ่มสเตฟาน ได้เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าวกลางกองถ่ายละคร ''สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา'' ณ โรงถ่ายกันตนา ศาลายา เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2554
 

ถามถึงข่าวที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้เลยแล้วกัน
ครับ คือผมก็ไม่รู้นะว่า เค้าให้สัมภาษณ์อะไรบ้าง ผมไม่รู้จริงๆ แต่เท่าที่ผมได้ยินมา ผมก็แบบ (ทำหน้าคิด) ผมพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ผมถามจริงๆ ในสายดาราคนอย่างผมทำอะไรผิดมากเหรอ? ผมทำอะไร ผมยังไม่รู้เลยว่าผมผิดอะไร
 

เอาอย่างนี้เหมือนหลายๆ คนอยากรู้ว่า เหมือนตัวฟานเองตกลงเป็นแฟนหรือคบกัน หรือว่าอะไรยังไงรึป่าวอย่างนี้ คือประมาณว่า หลายๆ คนมองว่า ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเยอะขนาดนี้ แล้วถึงกับปล่อยโฮร้องไห้เลยกับคำที่ฟานพูดว่า มีอะไรหรือไม่มีอะไร คิดกันเอาเองแล้วกัน?
ก็ (ทำหน้าคิดอยู่นาน) ผมก็ไม่รู้นะ (เสียงเข้ม) คือ เอาก่อนอื่นเลยนะครับ ผมคือผมมาพูดอะไรเดี๋ยวคนหาว่า ผมแบบ โอ๊ะ? เพราะตอนนี้คนหาว่าผมโกหก คนหาว่าผมไม่ยอมพูดตรงๆ และที่ผมพูดไปจำได้ไหมครับว่า เค้าเป็นคนโทร.มาให้ผมโกหก
ให้ผมพูดว่าไม่ได้ขึ้นคอนโดผมก็ถึงพูดให้
 

คือว่าให้เกียรติเค้า?
ผมให้เกียรติเค้า ผมพูดจริงๆ ผมพยายามจะปกป้องเค้านะ ผมพูดตรงๆ เลยผมไม่เคยไปพูดเสียๆ ให้ผู้หญิงที่มีเคยข่าวกับผมเสียสักครั้งเลย เพราะฉะนั้นจะมาหาว่าผมไม่เป็นสุภาพบุรุษอะไรแบบนั้นไม่ได้ ผมยอมรับตลอด เค้าเป็นคนโทร.มาหาผมเอง และอีกวันเค้าก็ว่าผมว่าผมโกหก ถูกไหม? แค่นั้นก็น่าจะรู้แล้ว ผมไม่ได้ให้ข่าว ผมไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เลยสักครั้ง เพราะอะไร? เพราะผมไม่อยากจะไปพูด ไม่อยากจะไปว่าเค้า ไม่ได้จะไปพูดอะไรไม่ดีถูกไหม? พอนี่เค้าก็แบบ...มีแต่คนโทร.มาถามผม เค้าให้ข่าวไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง นึกออกไหม? แค่นี้คนก็น่าจะรู้แล้ว คือโอเคผมยอมได้ ถ้าเค้าพูดอะไรที่มันจริง บางทีเค้าก็พูดจริงบ้างไม่จริงบ้าง 2 อย่าง (หัวเราะ)
 

เดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นว่าตกลงเป็นยังไง
แล้วมาว่าผมไม่เป็นลูกผู้ชาย ว่าผมไม่เป็นนู้นเป็นนี่ ผมทำอะไรไม่เป็นลูกชายบ้าง ถ้าผมไม่เป็นลูกผู้ชาย ผมออกมาอะไรตั้งนานแล้ว นี่ผมแบบผมยอมรับอยู่คนเดียวเหมือนว่าไปฆ่าใครตายจริงๆ นะ พี่นึกออกไหม? (สีหน้าเคร่งเครียด) ข่าวผมเยอะมากขนาดนี้ ผมยังมานั่งคิดนะว่า ผมไปทำอะไรผิดมาก ผมทำอะไรผิด ผมไม่ได้เป็นแฟนเค้า ผมพูดจริง (เน้นเสียง) ผมพูดจริงๆ ผมเพิ่งรู้จักเค้า ผมเพิ่งคุยกันกับเค้า
 

คุยกับเค้ากี่วัน??
วันเดียว (เน้นเสียง) และคราวนี้คนก็จะมาว่าผมไม่เป็นลูกผู้ชายมาพูดแบบนี้ ผมนะผมไม่เป็นลูกผู้ชายตรงไหน นี่กี่เดือนแล้วที่เป็นข่าวเรื่องเกิดขึ้นเป็นเดือนแล้ว ผมไม่เคยออกมาพูดสักครั้ง ผมตอบอย่างเดียวแล้วผมก็พยายามจะไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าว นี่จริงๆ ถ้าพวกพี่ไม่มาผมก็ไม่ให้สัมภาษณ์ ผมก็ไม่มานั่งพูดอะไรเสียหาย อะไรที่เกี่ยวกับเค้าแต่พอพี่ๆ มาสัมภาษณ์ผมพูดก็ได้
 

อึดอัดไหมฟาน?
อึดอัดดิพี่ (เน้นเสียง) คือ ผมอั้นมาตั้งเดือนนึง ผมไม่ยอมพูด ผมก็ว่าโอเคไหนๆ เราก็เป็นผู้ชายเราก็ควรจะแบบเราไม่เป็นไร เพราะว่าเราก็โอเคเรารับได้เท่าที่เรารับได้ แต่พอมันเริ่มเป็นเรื่องไม่จริงมันเยอะขึ้นๆ อะไรแบบนี้ พี่นึกออกไหม?
 

ดูเหมือนว่าคิดบ้างไหมเราจะเป็นบันไดให้เค้า?
ไม่ครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลย แต่ว่าผมรู้ว่าผมคุยกับเค้าวันเดียวเอง และผมก็ขึ้นคอนโดแค่นั้น และวันที่ 2 ก็ยังคุยกับเค้าอยู่และก็น้อยลง น้อยลง น้อยลง
 

เพราะว่าอะไร?
เพราะว่ามันมีเหตุผลที่ผมคุยกับเค้า ผมไม่อยากออกมาพูดกับเค้าแบบนั้น
 

เพราะว่ามันไม่ใช่ ใช่ป่ะ?
ใช่พี่
 

อืมม...มันไม่ใช่อ่ะเข้าใจ
แล้วดีนะที่ผมตัดสินใจแบบนี้ พี่ลองคิดดู
 

ถ้าต่อเนื่องไปมันอาจจะเป็นปัญหาใหญ่กว่านี้มั้ย?
ใช่ ผมไม่ได้ คือ ผมคุยกะผู้หญิง (ทำมือนับนิ้ว) ถ้ารวมเวลาทั้งหมดหลังจากที่มีเรื่องนะ ผมคุยกับเค้าไปประมาณไม่ถึง 2 อาทิตย์กว่า แล้วเค้าคิดว่าผมเป็นแฟนเค้าได้ไง ผมไม่เคยทำอะไรให้เค้ารู้สึกว่า เป็นแฟนเลย คือ ยังคุยๆ กันอยู่เลย
 

คือ เราไม่ได้หยอดหวาน ไม่ได้ให้ความหวังไม่ได้อะไรเลยป่าว?
พูดตรงๆ คือ ผมก็ต้องพูดหยอดหวานบ้างใช่มั้ย? เราต้องมีคุยกันแบบดีๆ บ้าง (หันมาถามสื่อ) ถ้ามีผู้ชายมาคุยด้วยกับพี่ พี่คิดว่าเป็นแฟนกับเค้าป่าว ถูกมั้ย?
 

มันก็คือการเริ่มต้นที่รู้จักกันใช่ป่ะ?
ทำมาว่าผมเหมือนกับเค้าคบกับผมมา 5 ปี พี่นึกออกมั้ย?
 

เค้าบอกว่า ฟานเป็นคนบอกผู้ใหญ่ว่า ไม่ให้จัดคิวเค้ากับฟานมาเจอกัน
โห? (ฟานตะโกนถามพี่ระ) ผมเคยบอกไหมว่า ไม่ให้เอมเล่นเรื่องนี้ ผมเคยพูดมั้ย? (พี่ระยิ้ม) ผมไม่เคยสักครั้ง ผมมาผมเล่นผมเข้าฉาก
 

เค้าออกมาให้ข่าวแบบนี้รู้สึกยังไงบ้าง คือ เรียกว่ากระทบเราเต็มๆ
ผมไม่เคยทำไรเสียหายอะไรกับเค้าเลย ผมไม่เคยไปพูดอะไรไม่ดีกับเค้าเลย ผมเคยพูดอะไรมั้ย? คือ วันแรกที่ผมพูดเพราะอะไร ผมไม่ได้อยากพูดนะ ผมโดนบังคับให้พูดน่ะให้รู้ไว้ก่อนนะ ผมไม่อยากจะพูดจริงๆ
 

เค้าบอกว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ฟานไม่ได้เป็นคนพูดเอง
ผมพยายามปกป้องเค้านะ ผมพูดจริงๆ ผมพูดจากใจเลย ผมพูดปกป้องเค้าแต่ดูเหมือนว่าเค้าไม่อยากปกป้องตัวเอง
 

คือ เค้าอยากเปิด??
ไม่ เค้าออกมาพูด เค้าก็กลายเป็นดูไม่ดีเลย ถูกไหม? ผมพยายามที่จะไม่ให้ข่าวให้เค้าเสียหาย ให้เค้าโดนว่า ให้เค้าไม่อะไร นั่นคือเจตนาผมสาบานเลยนะ แต่แบบเค้าก็ออกมาให้ข่าวทุกวัน จริงๆ ผมไม่ได้โดนผลกระทบมากขนาดนั้น จนแบบเค้าเริ่มมาพูดอะไรที่มันไม่จริงบ้าง พูดอะไรไม่ดีที่เกี่ยวกับผมบ้าง หลายอย่างเกินมา นั่งด่า
ผมเหมือนว่าเป็นคนเลวมาก ผมไม่ได้อะไรเลย ผมพูดจริงๆ ผมคุยกับเค้าแค่นั้น
 

แล้วหลังจากที่มีข่าวออกมาเยอะแยะมากมาย เราได้คุยกับเค้ามั้ย?
ไม่ได้คุยเลยครับ
 

ก็คือแบบเลิกคุยไปเลย
ใช่พี่ ก็แบบผมเลิกคุยกะเค้ามาสักพักนึงแล้ว อยู่ดีๆ ก็มีข่าวออกมาแบบนี้ มีข่าวออกมาตลอด เค้าโทร.มาหาผม คือ เค้า sms มาก่อน แล้วผมอ่านไทยไม่ได้ แล้วเค้าก็โทร.มาว่า เนี่ย ถ้านักข่าวถามช่วยบอกว่า ไม่ได้มาเจอที่คอนโดนะ ให้บอกไปว่าเจอที่ห้างหรือที่ไหนก็ได้ บอกเป็นที่อื่น ผมเลยบอกเดี๋ยวบอกให้
แล้วนักข่าวก็โทร.มาสัมภาษณ์ผม ผมก็บอกไปวันนั้นที่แต่งตัวเกดิเอเตอร์ บอกว่า ขึ้นคอนโดแล้วไม่ยอมรับ นึกออกไหม เป็นกับดักมาก ผมเลิกคุยเลยวันนั้น
 

รู้สึกว่าเราเป็นเครื่องมือมั้ย?
วันนั้นน่ะ รู้สึกว่า อ้าว คุณเพิ่งบอกให้ผมโกหก ผมไม่ได้โกหกเลย สังเกตไหมผมพูดตรงตลอด กลายเป็นว่าผมเป็นคนขี้โกหกไม่เป็นลูกผู้ชาย ถูกไหม?
 

เสียความรู้สึกมั้ย?
ก็เสียความรู้สึกนะ เสียความรู้สึกซิ เพราะว่าแล้วมันมีอีกหลายเรื่องแล้วมาบอกว่า ฝนเป็นคนเอารูปไปปล่อย
 

ใช่ ตรงนี้ฟานพูดนิดนึง มันกระทบถึงฝนว่า ฝนเป็นคนที่เอารูปมาปล่อยอ่ะ
คือ ลองคิดดูซิ ฝนจะเป็นคนเอาไปปล่อยได้ไงพี่ คืออะไรอยู่ดีๆ ที่คอนโดนี้แล้วไปขอส่วนกลางมาแบบนี้เหรอ แบบพี่ขอรูปหน่อยแล้วมาปล่อยเค้าจะทำเพื่ออะไร? นึกออกไหมพี่ เห็นไหมแค่นี้เค้าก็พูดไม่ตรงแล้วบางวัน ผมขึ้นคอนโดวันแรกแล้ว เค้ามาให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า ผมขึ้นคอนโดวันที่สองใช่ไหมพี่ ที่รายการมดดำ มดดำถามว่า ขึ้นวันแรกรึป่าว เค้าบอกว่า ไม่ๆ ขึ้นวันที่สองใช่ไหม แต่ตอนแรกจำได้ไหมว่า ที่บอกนักข่าวว่าขึ้นวันแรก
 

อยากให้เรื่องจบยังไงสำหรับฟาน
ผมก็ไม่รู้นะ ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าอยากจะให้จบยังไงนะ แต่คือผม ผมจบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลยนี่ คือคนดูอาจจะเห็นผมให้สัมภาษณ์วันนี้แล้ว ก็มานั่งคิดว่า ผมให้สัมภาษณ์ตลอด ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลยนะ
 

นี่คือเป็นวันแรกที่ให้สัมภาษณ์เลย
นี่เป็นวันแรกที่ผมกลับมาให้สัมภาษณ์ เพราะว่าแบบคือเค้าก็ปล่อยไปเรื่อย แบบว่าผม ผมผิดอะไร ผมถามจริงๆ จากใจเลย
 

อยากจะบอกอะไรเอมมั้ย? หรือพูดอะไรกับเอมมั้ย?
ไม่ ผมไม่อยากพูดอะไรกับเค้า
 

คือถ้าเค้าหยุดจะจบมั้ย?
ผมก็ไม่รู้ว่าเจตนาเค้าคืออะไร เค้าอยากทำอะไร ผมก็งง แต่ผมก็รู้แก่ใจว่าแบบอะไรคืออะไร เค้ารู้อยู่แก่ใจว่าเค้าทำอะไร คือผมไม่ได้ไปบังคับอะไรเลย บังคับเค้าขอขึ้นคอนโดด้วยนะ ผมไม่ได้ขอเค้าขึ้นไปนะ และเค้านั่งแท็กซี่มากินข้าวกับผม พี่ถ้าผมจะไม่อยากเป็นลูกผู้ชายผมจะชวนเค้าไปกินข้าวกับเค้าข้างนอกหรอก ถูกไหม?
ผมก็ต้องไปส่งซิจะให้ผมแบบ อืม เจอกันแบบนี้เหรอ ใช่ไหม?
 

ไม่งั้นก็จะดูว่าเราไม่แมนอีกใช่ป่าว?
ใช่ ผมพูดแบบนี้เดี๋ยวคนก็หาว่าผมไม่แมนอีก จะให้ผมทำยังไง ผมพูดผมก็ไม่ดีอีก ผมไม่พูดก็หาว่าผมยอมรับอีก
 

อึดอัดมากเนาะอย่างนี้? อยากจะฝากบอกอะไรถึงแฟนๆ ไหม? เกี่ยวกับเรื่องนี้
ผมเชื่อว่า คือ คนเราไม่ค่อยได้มาฟังเรื่องอะไรเต็มๆ ทั้งหมด แล้วก็มานั่งตัดสินใจในหัวเราแล้ว ลองดูลองพิจารณาดีกว่า ดูสถานการณ์ก่อนค่อยพิจารณา