"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เตรียมจัด "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เฟอร์ซี่ รับบทกัปตันทีมยืนศูนย์หน้าตัวหลักนำทัพแข้งปืนโตเปิดรังทำสงครามลูกหนังกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมเยือนที่จะใช้บริการสองคู่ดาวเพชรฆาตร หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์ หวังผนึกคมแข้งบุกหักกระบอกปืนคาถิ่น ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม เวลา 18.45 น. 

ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2554

อาร์เซน่อล - ลิเวอร์พูล

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

       เกมบิ๊กแมตช์ของทีมบิ๊กไฟฟ์ตั้งแต่นัดที่สองของฤดูกาล อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส มีปัญหาบานเบอะให้ต้องปรับทัพ โดยเฉพาะการขาด แชร์วินโญ่ กับ อเล็กซ์ ซง ที่เริ่มติดโทษแบนคนละ 3 นัด

  แชร์วินโญ่ กองหน้าคนใหม่ โดนใบแดงจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล จากการไปตบหน้า โจอี้ บาร์ตัน ขณะที่ ซง เพิ่งโดนพิจารณาโทษย้อนหลัง จากการไปเหยียบ บาร์ตัน คู่กรณีคนเดียวกัน แต่ผู้ตัดสินมองไม่เห็น

   ปัญหาแดนกลางนอกจากขาด ซง แล้ว ยังไม่มี โทมัส โรซิชกี้ ที่ได้พัก หลังผ่านการทดสอบความฟิตจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ลงตัวจริงเกมยุโรป ขณะที่ แจ็ค วิลเชียร์ (ข้อเท้า) กับ อาบู ดิยาบี้ (ข้อเท้า) พลาดแน่นอน ทำให้ต้องดัน เอ็มมานูเอล ฟริมปง ลงตัวจริง

  ปัญหาแนวรับก็มี คีแรน กิ๊บบ์ส เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมยุโรป ส่วน อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ ก็เจ็บอยู่ก่อนแล้ว และ โยฮัน ฌูรู ก็มาเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอีก หลังลงสนามแทน กิ๊บบ์ส

  อย่างไรก็ตาม ข่าวดีของเกมนี้คือจะได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กัปตันทีม กับ ซามีร์ นาสรี่ กลับมาอยู่ในทีม หลังติดโทษแบนพร้อมกันในเกมยุโรป ที่เฉือนชนะ อูดิเนเซ่ 1-0 เมื่อวันอังคาร

  เวนเกอร์ ยืนยันว่า นาสรี่ จะอยู่ในทีมวันเสาร์ และพร้อมลงสนามด้วย เนื่องจากไม่มีตัวเลือกมากนัก ถึงแม้จะมีข่าวว่าใกล้ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็มที โดยก่อนหน้านี้เพิ่งเสีย เชส ฟาเบรกาส ไปให้ บาร์เซโลน่า หมาดๆ

  ระบบการเล่น 4-2-3-1 วอยเช็ก เชสนี่ เฝ้าเสา แผงหลังใช้ บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โธมัส แฟร์มาเล่น, คาร์ล เจนกินสัน แดนกลางมี เอ็มมานูเอล ฟริมปง กับ อารอน แรมซี่ย์ ดูแลพื้นที่กลางสนาม แนวรุกวาง ธีโอ วัลค็อตต์, อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี่ หน้าเป้าใช้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

  ด้าน เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ หงส์แดง ไม่มีปัญหาในการจัดทัพจากนัดก่อนที่เสมอ ซันเดอร์แลนด์ คารัง แอนฟิลด์ 1-1 โดย หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งประตูแรกให้ หงส์แดง ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งพลาดจุดโทษ

  ปัญหาเดียวที่ต้องลุ้นในเกมนี้คืออาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัว เข่าของ เกล็น จอห์นสัน ต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง ส่วนที่พักยาวอยู่มีเพียง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม กับ มาร์ติน สเคอร์เทล ยังพักฟื้นอยู่ทั้งคู่

  ดัลกลิช อาจพิจารณาปรับนักเตะลงตัวจริงเล็กน้อย โดย เดิร์ค เค้าท์ ที่นั่งสำรองนัดแรก เช่นเดียวกับ ราอูล เมยเรเลส และ มาร์ติน เคลลี่ มีลุ้นลงเล่นเป็นตัวจริง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เป็นกุนซือเพียงคนเดียว

   ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ กองกลางมี ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลว่า, ชาร์ลี อดัม, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง คู่หน้ายังคงเป็น หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี้ แคร์โรลล์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

     อาร์เซน่อล : วอยเช็ก เชสนี่ - บาการี่ ซานย่า, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โธมัส แฟร์มาเล่น, คาร์ล เจนกินสัน - เอ็มมานูเอล ฟริมปง, อารอน แรมซี่ย์ - ธีโอ วัลค็อตต์, อังเดร อาร์ชาวิน, ซามีร์ นาสรี่ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ราอูล เมยเรเลส, ลูคัส เลว่า, ชาร์ลี อดัม, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์

     ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน

โรบินเต็ง 1 ยิงประตูแรกบิ๊กแมตช์

        วิลเลียม ฮิลล์ ร้านรับพนันชื่อดัง เปิดราคา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าตัวเก่งของ อาร์เซน่อล เป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรก สำหรับบิ๊กแมตช์ที่ ปืนใหญ่ เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล วันเสาร์นี้

ปืนไร้พ่ายหงส์ในลีก 8 นัดติดแล้ว

        อาร์เซน่อล มีผลงานยอดเยี่ยมไร้พ่าย ลิเวอร์พูล ในเกมลีก มาตลอด 8 นัดหลัง ขณะที่รวมผลการแข่งขันทุกรายการ ปืนใหญ่ ไม่แพ้ หงส์แดง มาติดต่อกัน 7 นัดรวดแล้ว

   เดอะ กันเนอร์ส ไม่รู้จักคำว่าแพ้ในการเผชิญหน้ากับ หงส์แดง ในพรีเมียร์ลีกมาตลอด 4 ฤดูกาลหลัง จากผลงาน 8 นัด เป็นผลเสมอถึง 6 นัด ในฤดูกาล 2007-08, 2008-09 และซีซั่นที่แล้ว 2010-11 มีเพียงฤดูกาล 2009-10 ที่ ปืนใหญ่ เอาชนะได้ทั้งเหย้า-เยือน

    เมื่อรวมผลงานในทุกรายการทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ คาร์ลิ่ง คัพ ด้วยแล้ว อาร์เซน่อล ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล มา 7 นัดรวดแล้ว เกมล่าสุดที่ หงส์แดง เอาชนะคือเกมยุโรปปี 2008 ที่แอนฟิลด์ ในชัยชนะ 4-2


เกร็ดที่น่าสนใจ อาร์เซน่อล - ลิเวอร์พูล
ผลงานการพบกันที่อาร์เซน่อล (100 นัด)
- อาร์เซน่อลชนะ 43 ลิเวอร์พูลชนะ 24 เสมอ 33

ประตู
- อาร์เซน่อล 141 ประตู เฉลี่ย 1.41 ประตูต่อเกม
- ลิเวอร์พูล 92 ประตู เฉลี่ย 0.92 ประตูต่อเกม

เฮด ทู เฮด
- ผ่านมาแล้ว 11 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะอาร์เซน่อล 1-0 เมื่อเดือนก.พ.2000 และที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ปรากฎว่าแข้งหงส์แดงยังไม่เคยบุกมาเอาชนะได้เลย
- เกมที่เสมอกัน 1-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เป็นประตูที่เกิดขึ้นช้าที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยที่อาร์เซน่อลขึ้นนำไปก่อนจากจุดโทษ ในน.90+8 แต่ว่าลิเวอร์พูลตีเสมอในน.90+12
- ลิเวอร์พูลชนะแค่ 3 จาก 20 ครั้งหลังสุดที่พบกับอาร์เซน่อลในพรีเมียร์ลีก และ 8 นัดหลังสุดลิเวอร์พูลยังไม่เคยเอาชนะได้เลย
- การพบกันระหว่างสองทีมเป็นเกมที่มีนักเตะทำแฮ็ตทริกได้มากที่สุด (5 คน)

อาร์เซน่อล
- นับตั้งแต่ปี 2001 อาร์เซน่อลยังไม่เคยแพ้เกมนัดแรกในฤดูกาลที่เล่นใบ้าน โดย 4 ปีหลังสุดเป็นฝ่ายเอาชนะได้ทั้งหมด
- ตามสถิติของพรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อลชนะ 64 เปอรืเซนต์ในเกมที่มี เชส ฟาเบรกาส ลงสนามเป็นตัวจริง และชนะเพียงแค่ 31 เปอร์เซนต์เท่านั้นในเกมที่ไม่มีเขา
- เมื่อฤดูกาลที่แล้วอาร์เซน่อลเป็นทีมที่เสียประตูจากลูกเซ็ตพีซมากที่สุด 53 เปอร์เซนต์
- ธีโอ วัลค็อตต์ เตรียมลงสนามนัดที่ 200 ในการเล่นระดับสโมสร

ลิเวอร์พูล
- เมื่อฤดูกาลที่แล้วหงส์แดงเป็นทีมที่มีผลงานเฮด ทู เฮด ดีที่สุดในการพบกันระหว่าง "บิ๊กโฟร์" โดยชนะ 3 จาก 6 แมตช์ และเก็บได้ 11 คะแนน
- มีค่าเฉลี่ยเก็บได้ 14 คะแนนจาก 14 นัดเยือนหลังสุด
- ยิงได้ 36 ประตูจาก 19 นัดในพรีเมียร์ลีกที่มี เคนนี่ ดัลกลิช เป็นผู้จัดการทีม เทียบกับ 24 ประตูจาก 20 นัดตอนที่มี รอย ฮ็อดจ์สัน เป็นผู้จัดการทีม
- แอนดี้ แคร์โรลล์ เตรียมเล่นนัดที่ 100 ในลีก
- เดิร์ค เค้าท์ ตจ้องการยิงอีก 1 ประตูเพื่อทำให้ครบ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีก

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านอาร์เซน่อล)
อาร์เซน่อล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 
ผู้ทำประตู : 1-0 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.90+7, 1-1 เดิร์ค เค้าท์ น.90+12
17 เม.ย.2011 : ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - นิวคาสเซิ่ล
18.45 น. อาร์เซน่อล - ลิเวอร์พูล
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - แบล็คเบิร์น
21.00 น. เอฟเวอร์ตัน - ควีนส์ปาร์ค 
21.00 น. สวอนซี - วีแกน 
23.30 น. เชลซี - เวสต์บรอมวิช