"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เก็บชัยเกมเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ ด้วยการยกพลบุกปราบ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ถึงถิ่น 2-0 จากประตูของ แอนดี้ แคร์โรลล์ และ หลุยส์ ซัวเรซ โดยเกมนี้เจ้าบ้านเหลือ10คนตั้งแต่นาทีที่22 จาก แจ็ค ร็อดเวลล์ โดนใบแดง ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเสาร์ที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554

เอฟเวอร์ตัน 0-2 ลิเวอร์พูล 

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

         ศึกเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เอฟเวอร์ตัน เปิดรังกูดิสัน พาร์ค ต้อนรับอริร่วมเมือง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดย เดวิด มอยส์ ปรับเล่น 4-4-1-1 ให้ ทิม เคฮิลล์ ทำเกมหลัง หัวหอกตัวเป้าที่ให้ หลุยส์ ซาฮา ประจำการคนเดียว ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่ส่ง กัปตันจอมแกร่ง สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ลงตัวจริง โดยมีชื่อเป็นตัวสำรองเท่านั้น กองหน้าใช้งาน3ประสาน เดิร์ค เค้าท์ หลุยส์ ซัวเรซ และ แอนดี้ แคร์โรลล์

       นาทีที่8 ลิเวอร์พูล ได้มีโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะบุกมาทางฝั่งซ้าย ของ โฆเซ่ เอ็นริเก้ เปิดเข้ากลางให้ หลุยส์ ซัวเรซ ขึ้นโขก แต่บอลเบาและตรงตัว ทิม ฮาวเวิร์ด

      หนึ่งนาทีต่อมา เป็น เอฟเวอร์ตัน ได้ตอบโต้บ้าง จากการขึ้นโขกเต็มๆของ ทิม เคฮิลล์ แต่ไม่ผ่านมือของ โฆเซ่ เรน่า

      เล่นไปเพียง22นาที เกมได้เดือดสมกับเป็นเกมดาร์บี้ เมื่อผู้ตัดสินชูใบแดง ไล่ แจ็ค ร็อดเวลล์ จากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่า ร็อดเวลล์ มีเจตนาสไลด์เปิดปุ่มเข้าใส่ หลุยส์ ซัวเรซ ทำให้เจ้าถิ่นเอฟเวอร์ตัน เหลือผู้เล่นแค่10คนในทันที

      อีก5นาทีต่อมา ทิม เคฮิลล์ มารับใบเหลืองไปอีกราย เมื่อเจตนาเปิดปุ่มยันใส่ ชาร์ลี อดัม

      นาทีที่37 หงส์แดง มีโอกาสได้ลุ้น เมื่อได้ฟรีคิก ในระยะหวังผล จากจังหวะที่ มารูยาน เฟลไลนี่ ไปทำฟาวส์ใส่ ลูคัส แต่ ชาร์ลี อดัม ยิงไปติดกำแพงเต็มๆ

      ในนาทีที่43 แฟน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้เฮ เมื่อ ฟิล จากีลก้า มาทำฟาวส์ใส่ หลุยส์ ซัวเรซ ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกจุดโทษ ให้กับทีมเยือนทันที

       เดิร์ค เค้าท์ ที่รับหน้าที่สังหาร ด้วยการวิ่งมาแปไปทางซ้ายมือของประตู แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด เดาทางถูก ทิ้งตัวไปปัดเต็มๆ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสขึ้นนำ

      ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ชาร์ลี อดัม มีโอกาสซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด ตรงกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งติดจรวดผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด ไปแล้ว แต่บอลกับบินไปจนคานเต็มๆ หมดครึ่งแรก จึงยังเสมอกันอยู่ 0-0

      เริ่มเกมมาครึ่งหลังเพียงสี่นาที เป็นฝ่ายทีมเยือน ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองไปบ้าง จากจังหวะที่ ลูคัส เลว่า ไปเสียบด้านหลังใส่ หลุยส์ ซาฮา

      สามนาทีต่อมา หงส์แดง มีโอกาส ได้เสียว เมื่อได้ ชาร์ลี อดัม เปิดมุมเข้ามาให้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ขึ้นโขกเต็มๆ แต่ หลุยส์ ซาฮา ที่ลงไปช่วยเกมรับ สกัดออกจากเส้นได้อย่างหวุดหวิด

      นาทีที่59 เดวิด มอยส์ ต้องแก้เกมด้วยการ ส่ง รอยส์ตัน เดรนเธ่ ลงมาแทน เชมัส โคลแมน

      นาทีที่67 ลิเวอร์พูล ทำการเปลี่ยนสองตัวรวด ด้วยการส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงมาแทน ชาร์ลี อดัม และ เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง

      สองนาทีต่อมา ทีมทอฟฟี่ แก้เกมบ้าง ด้วยการส่ง ฟิล เนวิลส์ ลงมาแทน ลีออน ออสแมน เพื่อตามติด สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทันที

      แต่แล้วในนาทีที่71 เหล่าเดอะค็อป ได้เฮกันลั่น เมื่อ ขึ้นบอลมาทางฝั่งซ้ายโดย เคร็ก เบลลามี่ ก่อนดาวเตะศิลปินจะจ่ายต่อให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่วิ่งเติมขึ้นมาเปิดบอลมาที่กลางประตู ให้ แอนดี้ แคร์โรลล์  ตวัดยิงด้วยดาวซ้ายเข้าประตู ให้ ลิเวอร์พูล บุกขึ้นนำ 1-0

      นาทีที่82 สาวกหงส์แดง ได้เฮกันอีกรอบ หลัง หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลแหวกเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโดน ซิลแว็ง ดิสแต็ง กับ เลห์ตัน เบนส์ ตามมาประกบ แต่แล้วสองกองหลังเจ้าถิ่นกับยืนตำแหน่งกันไม่ดีวิ่งทับไลน์กันเอง ทำให้ ซิลแว็ง ดิสแต็ง สกัดบอลไปโดนตัว หลุยส์ ซัวเรซ หลุดไปล่อเป้ากับ ทิม ฮาวเวิร์ด ก่อนหัวหอกอุรุกวัย จะซัดด้วยเท้าซ้ายไม่เหลือ ลิเวอร์พูล บุกนำ 2-0

      ก่อนหมดเวลา3นาที ลิเวอร์พูลใช้โควต้า เปลี่ยนตัวครั้งสุดท้าย ด้วยการส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาแทน ลูคัส เลว่า

       หมดเวลาการแข่ง ลิเวอร์พูล บุกมาปราบ เอฟเวอร์ตัน 2-0 เก็บสามคะแนนสำคัญกับคู่อริร่วมเมือง พร้อมกับเก็บสามคะแนน ทำแต้มขึ้นมาแซงหน้า นิวคาสเซิ่ล ขึ้นมาอยู่ที่4 ชั่วคราว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน  : ทิม ฮาวเวิร์ด , โทนี่ ฮิบเบิร์ต ( อปอสโตลอส เวลลิออส น.78),  ฟีล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ , ลีออน ออสแมน (  ฟิล เนวิลล์ น.69),  แจ็ค ร็อดเวลล์,  มารูอาน เฟลไลนี่, เชมัส โคลแมน ( รอยสตัน ดเรนเธ่ น.59) ,  ทิม เคฮิลล์, หลุยส์ ซาฮา

สำรอง : แยน มูช่า (ผู้รักษาประตู), ดินิยาร์ บิลยาเลตดินออฟ, เดนิส สตรัคควาซี่, รอสส์ บาร์คลี่ย์

ลิเวอร์พูล  : โฆเซ่ เรน่า,  มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์,  โฆเซ่ เอ็นริเก้,  ชาร์ลี อดัม (สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.67), ลูคัส เลวา (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.88),  เดิร์ค เค้าท์, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง (เคร็ก เบลลามี น.67), หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์

สำรอง : อเล็กซานเดอร์ โดนี่ (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน โคอาเตส, เจย์ สเพียริ่ง, จอน ฟลานาแกน

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน