อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่ อาร์เซน่อล ยอมรับ แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ มีโอกาสในการได้เฮฮากับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้มากที่สุด แต่เสริมว่า ทั้งคู่ก็มีโอกาสพลาดเช่นกัน พร้อมบอกว่า เกม "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ในวันอาทิตย์นี้ ยังไม่ใช่นัดชี้ชะตาแชมป์

 อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 คู่แข่งร่วมลีก คือทีมที่มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีไปครองในท้ายที่สุด แต่เชื่อว่า ทั้งสองทีมมีโอกาสที่จะพลาดท่า เหมือนที่เคยหลุดฟอร์มในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน

 เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ใช่ แน่นอนว่า พวกเขาเป็นทีมที่จะคว้าแชมป์ได้ ทั้งคู่เริ่มต้นฤดูกาลได้ดี และมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง ทว่าแม้คุณอาจไม่คิดว่า พวกเขาจะทำแต้มหายมากเท่าไหร่ แต่ผมเชื่อว่า พวกคุณได้เห็นกันแล้วว่า ทั้ง แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างทำได้ไม่เหมือนเดิม เมื่อลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะงั้นทุกๆทีมต่างก็ต้องมีการทำแต้มหล่นหายกันได้บ้าง"

 ทั้งนี้ "ปีศาจแดง" ซึ่งกำลังรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง จะเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ "เรือใบสีฟ้า" ที่มีคะแนนนำพวกเขาอยู่ 2 คะแนน ในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ และแม้ว่า แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทิ้งคู่แข่งร่วมเมืองห่างถึง 5 คะแนน หากชนะเกมในนัดดังกล่าว แต่กุนซือแดนน้ำหอม เชื่อว่า ผลจากเกม "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ที่กำลังจะถึง ยังเร็วไปที่จะตัดสินในเรื่องของผู้คว้าแชมป์

 "มันยังเร็วไป ที่จะบอกว่าเกมในวันอาทิตย์นี้จะเป็นเกมตัดสินแชมป์ และผมว่ามันน่าแปลกใจมากที่ผู้คนต่างด่วนสรุปกันแล้ว เพราะคุณต้องไม่ลืมว่า เราเพิ่งเล่นไป 8 นัด และยังมีแมตช์เหลืออีก 30 เกม ดังนั้นอย่าได้ตัดสินเรื่องแชมป์ทั้งๆ ที่มันเพิ่งผ่านไปแค่ 9 นัดเท่านั้น มันจะเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่โดยรวมแล้ว ไม่ว่าในเกมนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น การชิงแชมป์ก็ยังเปิดกว้างอยู่ ซึ่งสำหรับทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ผลเสมอคงเป็นสิ่งที่เป็นใจมากที่สุด" เวนเกอร์ ระบุ

ขณะที่ในวันเดียวกัน "ไอ้ปืนใหญ่" ก็ต้องเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือ สโต๊ค ซิตี้ ที่มีเวลาพักน้อยกว่ายอดทีมจากเมืองหลวง 24 ชั่วโมง เนื่องจาก "ช่างปั้นหม้อ" เพิ่งเปิดบ้านเอาชนะ มัคคาบี้ เทล-อาวีฟ 3-0 ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขงเบ้งลูกหนังเลือดเฟร้นช์ หวังว่า สิ่งนี้จะทำให้ทีมของตนได้เปรียบเหนืออาคันตุกะ

 เวนเกอร์ เผยว่า "มันเป็นเรื่องยากในการกลับมาเล่นศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากที่คุณเพิ่งลงเล่นเกมระดับทวีปยุโรปมา (อาร์เซน่อล ออกไปเอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ เมื่อวันพุธที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา) แต่หวังว่า สโต๊ค จะต้องลำบาก และทรมานสักหน่อยนะ!"

 "มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่เราจะต้องเล่นให้แข็งแกร่งเหมือนที่เคยทำได้ และต้องไม่ตั้งความหวังสูงเกินไปว่า สโต๊ค เป็นทีมที่แข็งแกร่งน้อยกว่าเรา เพราะพวกเขาได้เล่นเกมระดับยุโรปเลย เราคาดว่าจะเจอคู่ต่อสู้ที่เก่ง รวมไปถึงคาดว่า เราจะยังมีสมาธิกับเกมอยู่"

"ผมรู้สึกว่า ทีมของเรามีพื้นฐานที่ดี เพราะนักเตะต่างมีความเฉลียวฉลาด มีความต้องการที่จะทำผลงานให้ดี และคุณจะเห็นได้เลยว่า ทีมของเรามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกด้วย เรามีส่วนประกอบที่ดีสำหรับทีมที่ยอดเยี่ยม แต่เอาเป็นว่าตอนนี้เราต้องคิดว่า เราเป็นทีมที่ยังไม่ดีพอไว้ก่อน รวมไปถึงมีความต้องการที่จะพัฒนาในฐานะทีมเช่นกัน" อดีตเทรนเนอร์ โมนาโก ร่ายยาว

ปัจจุบัน ทีมของ โทนี่ พูลิส มีสถิติการเล่นเป็นทีมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2011-12 ไม่ดีเท่าไหร่นัก โดย 2 นัดล่าสุดกับการออกไปเล่นนอกบ้าน พวกเขาแพ้ ซันเดอร์แลนด์ (0-4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา) และ สวอนซี ซิตี้ (0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา) อีกทั้งพวกเขายังไม่เคยเอาชนะที่บ้านของ อาร์เซน่อล มาถึง 30 ปีแล้ว   

 อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ กล่าวว่า ตนไม่ยึดถือเรื่องสถิติดังกล่าว และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้ทีมเสียสมาธิกับเกมที่รออยู่แน่นอน "พวกเขาเล่นได้ไม่เหมือนเดิมในการออกไปเยือนหรือเปล่าน่ะเหรอ? มันขึ้นอยู่กับแต่ละเวลามากกว่า ในฤดูกาลก่อนอาจจะใช่ ส่วนในฤดูกาลนี้ผมไม่รู้หรอก แต่สถิติมันไม่สำคัญกับเราอยู่แล้ว"

"สิ่งที่สำคัญสำหรับเราคือ การชนะเกมของเราให้ได้ การเจอกับ สโต๊ค นี่แค่ชนะ 1-0 ผมก็ว่ายอดเยี่ยมแล้ว ดังนั้นเราจะตั้งสมาธิกับเกม ใช้ความมั่นใจที่ได้จากเกมกับ มาร์กเซย และลงไปเล่นกับ สโต๊ค เพื่อรักษาการชนะเอาไว้ได้ต่อไป" กุนซือวัย 60 ปี กล่าวทิ้งท้าย