บรรดาสื่อบันเทิงชั้นนำของอเมริกา และอังกฤษ รายงานตรงกันว่า วิตนี่ย์ ฮุสตัน นักร้องดีว่าเสียงทองจบชีวิตอย่างอนาถล้มคว่ำขาชี้ฟ้านอนตายอยู่ในอ่างอาบน้ำของห้องพักในโรงแรมเบเวอร์ลี่ย์ ฮิลตัน โดยในที่เกิดเหตุพบยาร้ายแรงที่ ต้องอาศัยใบสั่งจากหมอตกอยู่เกลื่อนกลาด ขณะที่บรรดาเพื่อนร่วมวงการดนตรีพร้อมใจร่วมไว้อาลัยระหว่างานประกาศรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    TMZ.com เว็บไซต์ข่าวบันเทิงของประเทศสหรัฐฯ เผยว่าจากการตรวจค้นห้องพักของฮุสตัน ในชั้น 4 ของโรงแรมเบเวอร์ลี่ย์ ฮิลตัน ในเมืองลอสแอนเจลีส หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินประกาศว่าเธอเสียชีวิตในเวลา 15.55 น. ของวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ไม่พบสิ่งเสพติดใดๆ ยกเว้นยาที่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ในการซื้อเท่านั้น
    

    สื่อกอสซิปดัง เผยว่ามีความเป็นไปได้ที่ซูเปอร์สตาร์สาววัย 48 ปี จะจบชีวิตจากการจมน้ำในอ่างอาบน้ำตามที่มีข่าวลือว่าเธอถูกพบว่านอนคว่ำหน้าขาชี้ฟ้าอยู่ตอนที่มีผู้ติดตามเข้าไปเจอ โดยผลการชันสูตรศพอย่างเป็นทางการจะต้องใช้เวลาราว 4-6 สัปดาห์
    

    อย่างไรก็ตามกระแสความสนใจในการหาสาเหตุการตายของฮุสตัน ทำให้ เอ็ด วินเตอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกชันสูตรศพเมืองลอส แอนเจลีส ออกมาเผยว่าจะมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับพิเศษเช่นเดียวกับการตายของ "ราชา เพลงป็อป" ไมเคิ่ล แจ็กสัน เมื่อ 3 ปีก่อน แม้ว่าจะไม่พบร่องรอยว่าเป็นคดีฆาตกรรมก็ตาม
     

    "ในตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเป็นการฆาตกรรม ผมจะไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องยาที่เจอ อย่างที่ผมแจ้งว่าการชันสูตรอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยระดับพิเศษ เราจะไม่มองข้ามทุกความเป็นไปได้ และหวังว่าจะสามารถแจ้งความคืบหน้าภายในวันพุธหรือพฤหัสบดีนี้"
     

    ทางด้านเดอะ ซัน หนังสือพิมพ์จอมสาระแนประจำเกาะอังกฤษ ล้วงข้อมูลลึกกว่านั้นว่าเจ้าของเพลงฮิต "Greatest Love of All" และ "I Will Always Love You" ดื่มเหล้า และใช้ยาอย่างหนักติดต่อกัน 2 คืนก่อนหน้าจะเสียชีวิต โดยมีการพบยาไม่ทราบชนิดตกอยู่ในอ่างน้ำอีกด้วย
    

    อลิสัน ซามูเอลส์ นักข่าวของวีเอช วัน สถานีโทรทัศน์เพลงระดับโลกที่กำลังมารอสัมภาษณ์ ฮุสตัน ในเรื่องแผนการกลับคืนสู่วงการเพลงของเธอ เผยถึงช่วงเวลาที่ ลินน์ โวลค์แมน ผู้ช่วยคนสนิทของดีว่าสาว แสดงท่าทางตื่นตระหนกเข้ามาบอกยกเลิกการถ่ายทำ เมื่อวันเสาร์ว่า "เธอเข้ามาแล้วพูดว่า  วิตนี่ย์ มาไม่ได้แล้ว วิตนี่ย์ จะไม่มาแล้ว  ก่อนที่เธอจะทิ้งท้ายว่า  เธอตายแล้ว"
    

    ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าบอดี้การ์ดของฮุสตัน เป็นคนแรกที่เจอร่างของฮุสตัน แต่เดอะ ซัน เผยว่าเป็นช่างทำผมประจำตัวของเธอ และบอกอีกว่าในห้องน้ำของนักร้องสาวมียาประมาณ 12 ขวดตั้งอยู่ที่รวมถึง โลราเซปั่ม, วาเลี่ยม และ ซา แน็กซ์ กลุ่มยากล่อมประสาทที่เชื่อว่าเธอใช้เพื่อช่วยให้หลับ เหมือนกับ ไมเคิ่ล แจ็กสัน เคยใช้จนทำให้เขาหัวใจวายลาโลก เมื่อเดือนมิถุนายน 2009
    

    อย่างไรก็ตามลอสแอนเจลีส ไทม์ส หนังสือพิมพ์เจ้าถิ่น อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังพุ่งประเด็นว่า ฮุสตัน อาจเสียชีวิตจากการจมน้ำ หลังจากศพของเธอยังมีเหงื่อ และกลิ่นเหล้าเหม็นคลุ้ง

    ลูกสาวช็อกรู้ข่าวแม่ตาย-หามส่งรพ.ด่วน

   สถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ของประเทศสหรัฐฯ รายงานว่า บ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาวคนเดียวของ วิตนี่ย์ ฮุสตัน เกิดอาการเครียดอย่างหนักหลังจากรู้ข่าวการตายของแม่ จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเซดาร์ ไซไน ของเมืองลอสแอนเจลีส เป็นการด่วน เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)
    

    "เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการเครียด" เพื่อนสนิทของบ็อบบี้ ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี หลังจากมีรายงานว่าสาวน้อยวัย 18 ปี ถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลจากโรงแรมเบเวอร์ลี่ย์ ฮิลตัน สถานที่เสียชีวิตของฮุสตัน เช่นเดียวกับโฆษกตำรวจเบเวอร์ลี่ย์ ฮิลล์ ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า "เธอมีอาการวิตกกังวล และถูกนำตัวส่งเซดาร์ ไซไน"
     

    ในช่วงเวลาเดียวกันครอบครัวฮุสตัน ออกแถลงการณ์ถึงการเสียชีวิตของสุดยอดนักร้องสาวว่า "เราทุกคนรู้สึกเศร้าโศกที่ต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รักของเรา วิตนี่ย์ นี่เป็นโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึง และเราจะคิดถึงเธออย่างที่สุด เราซาบซึ้งกับความรัก และกำลังใจที่ได้รับจากแฟนเพลง และเพื่อนๆ ของเธอ"
    

    ทางด้าน บ็อบบี้ บราวน์ อดีตสามีนักร้องอาร์แอนด์บีของวิตนี่ย์ ที่ถูกโทษว่าเป็นต้นเหตุให้เธอติดยาเสพติดอย่างหนัก ส่งแถลงการณ์ออกมาแสดงความรู้สึกที่คนรักที่เขาเคยใช้ชีวิตด้วย 15 ปีต้องจากไป "ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับการเสียชีวิตของอดีตภรรยา วิตนี่ย์ ฮุสตัน ในช่วงเวลานี้เราอยากร้องขอความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะกับบ็อบบี้ คริสติน่า ลูกสาวของผม"

     
    เพื่อนร่วมวงการไว้อาลัย "ฮัดสัน" น้ำตาแตกกลางเวที

    ระหว่างพิธีประกาศรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 54 ที่สเตเปิลส์ เซนเตอร์ ในเมืองลอสแอนเจลีส เมื่อคืนวันอาทิตย์ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บรรดาเพื่อนร่วมวงการดนตรีได้ร่วมกล่าวไว้อาลัยให้ วิตนี่ย์ ฮุสตัน โดยแอลแอล คูล เจ แร็พเตอร์รุ่นใหญ่พิธีกรหลักของงานปีนี้เป็นคนเริ่มต้น
    

    "อย่างที่รู้กันดี เรามีสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตลง สำหรับผมสิ่งเดียวที่รู้สึกเหมาะสมคือการเริ่มต้นสวดมนต์เพื่อผู้หญิงซึ่งเราทุกคนรัก สำหรับพี่สาวที่จากไปของพวกเรา วิตนี่ย์ ฮุสตัน" แอลแอล คูล เจ กล่าวท่ามกลางเสียงตบมือของบรรดาศิลปินที่มาร่วมงาน "พระเจ้าบนสวรรค์ เราอยากขอบคุณที่แบ่งปันพี่สาววิตนี่ย์ กับ พวกเรา ในวันนี้เราขอส่งความเป็นห่วงถึงแม่ของเธอ, ลูกสาว และทุกคนที่รักเธอ แม้ว่าเธอจะจากไปก่อนเวลาอันควร เรายังคงรู้สึกโชคดีที่มีโอกาสสัมผัสจิตวิญญาณที่สวยงามของเธอ และงานเพลงที่เธอได้ทิ้งเอาไว้เพื่อให้เราแบ่งปันตลอดไป อาเมน"
    

    จากนั้นระหว่างช่วงรำลึกบุคคลสำคัญในวงการเพลงที่จากไปในรอบปีที่ผ่านมา เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน นักร้องสาวจากเวทีอเมริกันไอดอล ขึ้นมาร้องเพลง  "I Will Always Love You" 1 ในผลงานฮิตตลอดกาลของฮุสตัน แต่ด้วยบรรยากาศสุดเศร้า และการเสียชีวิตแบบกะทันหันของดีว่าสาว ทำให้ฮัดสัน กลั้นน้ำตาไม่อยู่ระหว่างกำลังร้อง โดยทีมงานรายหนึ่งเผยว่าเธอแสดงอาการเสียใจอย่างหนักต่อการจากไปของนักร้องขวัญใจ ระหว่างการซ้อมในช่วงเช้า "เธอต้องขอเริ่มต้นร้องเพลงใหม่หลายครั้ง ก่อนจะร้องได้จบเพลง"
    

    ขณะที่ บียอนเซ่ โนว์ลส์ นักร้องซูเปอร์สตาร์อาร์แอนด์บี ส่งแถลงการณ์ออกมาแสดงความเสียใจที่ฮุสตัน 1 ในนักร้องต้นแบบของเธอต้องจากไปอย่างน่าเศร้า "การจากไปของ วิตนี่ย์ ฮุสตัน เป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ฉันจำได้ว่าเจอกับ วิตนี่ย์ ครั้งแรกตอนฉันอายุ 15 เธอเป็นเหมือนตำนานอย่างไร้ข้อโต้แย้ง ผู้หญิงที่สง่างาม ไม่ใช่เพียงเพราะเธอเป็นคนมีความมั่นใจสูง, เข้มแข็ง, สวยงาม และฉลาด แต่เธอยังเป็นคนมีน้ำใจ และ ความเมตตา เธอใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญมากต่อเธอ"
    

    "ฉันชอบทุกๆ เพลงของเธอ ฉันต้องการเป็นอย่างเธอ เสียงร้องของเธอสมบูรณ์แบบ มีความแข็งแรง แต่อ่อนหวาน เข้าถึงจิตวิญญาณ และมีความคลาสสิก เสียงของเธอเพราะจับใจ รวมทั้งจังหวะการร้อง และการควบคุมเสียง"
    

    "มีความทรงจำในชีวิตของฉันมากมายที่เกี่ยวข้องกับเพลงของ วิตนี่ย์ ฮุสตัน เธอเป็นเหมือนราชินีของเรา เธอเป็นคนเปิดประตูแห่งโอกาส และเป็นต้นแบบของพวกเราทุกคน ขอให้พระเจ้าจงคุ้มครองเธอด้วย"