รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือวัยดึกของ "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ชี้ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างต่อเนื่อง ต้องยกเครดิตให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จอมคนแดนวิสกี้ ที่สามารถจัดระเบียบลูกทีมได้อย่างอยู่หมัด ผิดกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปล่อยแข้งในทีมเอาแต่ใจจนเกิดปัญหามากมายในเวลานี้

 รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ออกมายอมรับว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังศึกพรีเมียร์ลีก พาต้นสังกัดครองความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลได้อย่างต่อเนื่องเพราะมี ประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาหลายปีสำหรับการจัดการกับนักเตะตัวปัญหาภายในทีมก่อน ที่จะลุกลามใหญ่โตในภายหลัง

 ในวันพุธที่ 11 เม.ย. นี้ เวสต์บรอมฯ มีโปรแกรมลงสนามพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังประสบปัญหารอบด้านไม่ว่าจะเป็นผลงานที่ตกลงไปอย่างน่าใจหายจนเสีย ตำแหน่งจ่าฝูงให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่แค้นร่วมเมือง รวมถึงนักเตะในทีมทั้ง คาร์ลอส เตเวซ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่คอยสร้างปัญหาให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" ปวดหัวอย่างต่อเนื่อง

ฮ็อดจ์สัน กล่าวว่า "ไม่มีนักเตะคนไหนสำคัญไปกว่าสโมสรหรือผู้จัดการทีม ผมพูดถึงทั่วโลกนะ ผมไม่ได้พาดพิง บาโลเตลลี่ ผมไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว เขาอาจจะเป็นคนที่นิสัยดีที่สุดในโลกหรือมืออาชีพชั้นยอดก็ได้ แต่ความแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของ ยูไนเต็ด คือการที่ อเล็กซ์ อยู่เหนือลูกทีม ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งแค่ไหนก็ตาม"

"อเล็กซ์ เป็นตัวอย่างชั้นดี เขามีอำนาจที่จะพูดว่า "คุณทำหน้าที่ไม่ได้ตามที่ผมคาดหวัง ประตูอยู่ตรงนั้น ผมพร้อมที่จะกำจัดคุณออกจากทีมนะ" แต่เมื่อคุณริบอำนาจของผู้จัดการทีมไปและพูดว่า "เขาต้องได้เล่นเพราะแฟนบอลกับผู้สื่อข่าวชอบเขา" คุณกำลังทำให้สโมสรอ่อนแอลง มันควรเป็นเรื่องของสโมสรไม่ใช่ตัวนักเตะ"

พร้อมกันนี้ กุนซือวัย 64 ปี เชื่อว่าการที่ เตเวซ ได้โอกาสกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังจากที่ฝ่าฝืนคำสั่งสโมสรด้วยการกลับไปพักผ่อนที่ อาร์เจนตินา เป็นเวลาร่วม 5 เดือน เป็นเพราะเรื่องเงินล้วนๆ "เราเห็นความสำคัญของเรื่องเงินกับ เตเวซ แล้ว มันชัดเจนเลยว่าเหตุผลหลักที่ คาร์ลอส กลับมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง เพราะเขาไม่อยากสูญเงินก้อนโตนั้นไป"

"มันเป็นเรื่องโชคร้ายที่เราอยู่ในโลกที่ตำแหน่งผู้จัดการ ทีมได้รับความสำคัญน้อยกว่าผลงานของนักเตะ และมันลงเอยด้วยการที่ทุกคนต้องทำตามที่นักเตะต้องการ คุณต้องได้รับการสนับสนุนจากเจ้าของสโมสรรวมถึงผู้บริหารในระดับสูงที่จะพูด ว่า "แฟนบอลกำลังอยากเห็นเราถูกลงโทษ แต่เราต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งและพร้อมจะรับคำตำหนิถ้า หากว่าเราแพ้ในเกมต่อไปโดยที่ไม่มีนักเตะตัวปัญหาคนนั้นลงเล่น""

นอกจากนี้ อดีตนายใหญ่ลิเวอร์พูล ยอมรับว่าตัวเองโชคดีที่สามารถหลีกเลี่ยงการมีปัญหากับนักเตะซูเปอร์สตาร์ จอมเอาแต่ใจมาได้ตลอดระยะเวลา 36 ปีบนเส้นทางสายกุนซือ "ในสวีเดน นักเตะต่างมีงานอื่นนอกจากเล่นฟุตบอล คุณจึงทำแค่ไล่พวกเขากลับไปทำงานเหล่านั้นถ้าเกิดว่ามีคนสร้างปัญหาในทีม พวกเขาไม่ได้รับเงินมหาศาล และไม่มีใครสนใจพวกเขา"

"ครั้งเดียวที่ผมเจอปัญหาแบบนี้คือตอนที่ผมไปคุม อินเตอร์ มิลาน รอบที่ 2 มันมีการแบ่งพรรคพวกในห้องแต่งตัวและมีเรื่องราวบาดหมางกันระหว่างกลุ่มนัก เตะอาร์เจนตินาและกลุ่มนักเตะบราซิล และมันก็ยังมีกลุ่มนักเตะอิตาลีที่ไม่ชอบ 2 กลุ่มนั้นอีก!" ฮ็อดจ์สัน กล่าวทิ้งท้าย