-

ฟุตบอลสแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดสอง

       วันพุธที่ 29 สิงหาคม 2555

       เรอัล มาดริด 2 - 1 บาร์เซโลน่า

      (รวมผลสองนัดเสมอ 4-4, เรอัล มาดริด ชนะด้วยกฏประตูทีมเยือน)

สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด

 

        ศึกซูเปร์โกปา หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ สเปน นัดแรกนั้น บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะมาได้ก่อน 3-2
 
        เกมนี้ เรอัล มาดริด กลับมาเฝ้าบ้านบ้างได้ตัว เปเป้ ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกส ฟิตกลับมาคุมแนวรับร่วมกับ เซร์คิโอ รามอส แต่ไม่มี ฟาบิโอ โคเอนเตรา วิงแบ็คทีมชาติโปรตุเกส ที่ไปด่าผู้ตัดสินจนโดนไล่ออกในเกมแพ้เคตาเฟ่ในลีก ทั้งที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนลงสนามด้วยซ้ำไป ทำให้อาจถูกสั่งแบนถึง 4 นัด
 
        สำหรับ ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมทัพชาวโครแอตที่เพิ่งย้ายมาจากสเปอร์ส มีชื่อเป็นสำรอง ในแดนกลางเรียก ซามี่ เคดิร่า ที่เป็นแค่สำรองในเกมล่าสุดนั้นกลับมาเป็นตัวจริงลงคุมเกมร่วมกับ ชาบี อลอนโซ่ ปล่อยให้ อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินเกมรุกสนับสนุน กอนซาโล่ อิกวาอิน หัวหอกตัวเป้าทีมชาติอาร์เจนติน่า
 
        ทางด้าน "อาซูลกราน่า" บาร์เซโลน่า ไม่มี การ์เลส ปูโยล ปราการหลังกัปตันทีมที่กระดูกโหนกแก้มแตก ทำให้ต้องส่ง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ เคราร์ด ปีเก้ สามประสานแดนหน้าส่ง เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ อเล็กซิส ซานเชซ ลงล่าตาข่าย
 
        เปิดฉากครึ่งแรกมาได้เพียงแค่ 2 นาที เรอัล มาดริด ทักทายก่อน กอนซาโล่ อิกวาอิน หลุดไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษบอลเหินข้ามคานไป
 
        หลังจากนั้น 5 นาที ราชันชุดขาว ลุยหนัก กอนซาโล่ อิกวาอีน หลุดเดี่ยวไปดวลกับ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า แต่ยิงไม่ผ่านบัลเดส
 
        อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 11 เรอัล มาดริด ขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ เปเป้ ตักบอลยาวขึ้นหน้า ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองหลังบาร์ซ่าเตะสกัดพลาดเลยทำให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน หลุดเดี่ยวเข้าไปพักบอลลงด้วยอกแล้วหวดด้วยขวาลอดตัว บัลเดส เข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว เรียกเสียงเชียร์จากแฟนเจ้าถิ่นได้กระหึ่ม
 
        หลังจากนั้น 8 นาที เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ เคราร์ด ปิเก้ ปราการหลังของเจ้าบุญทุ่มสกัดบอลพลาด โดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกี่ยวบอลด้วยส้นเท้าขึ้นหน้าไปแล้วพาบอลเข้าเขตโทษ ก่อน โรนัลโด้ ยิงเต็มหลังเท้าบอลผ่าน บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่าที่พยายามล้มตัวปัดแต่บอลยังปลิ้นเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0 แล้ว
 
        เกมยังเป็นราชันชุดขาว บุกอยู่ข้างเดียว มีโอกาสอีกในนาทีที่ 21 กอนซาโล่ อิกวาอีน หลุดเดี่ยวไปซัด แต่ บัลเดส ออกมาบล็อกได้ทัน
 
        สามนาทีต่อมา เจ้าถิ่นส่งบอลไปกองก้นตาข่ายได้อีกครั้งในนาที 24 จากลูกฟรีคิก ชาบี อลอนโซ่ เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู เซร์คิโอ รามอส โผนโหม่งบอลซุกก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู โดยเป่าเป็นการทำฟาวล์ของเปเป้ ที่ไปผลักใส่ผู้เล่นบาร์ซ่าก่อนแล้ว
 
        นาทีที่ 28 บาร์เซโลน่า ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อาเดรียโน่ คอร์เรอา ที่ยืนแบ็คขวาในเกมนี้ไปทั้งฉุดและดึงเสื้อ โรนัลโด้ จนล้มคว่ำในจังหวะที่กำลังจะหลุดเดี่ยว เลยโดนผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกไปทันที
 
        นาทีต่อมา เรอัล มาดริด โหมบุกเข้าใส่ มาร์เชโล่ หลุดมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนตวัดบอลเข้ากลางให้ อิกวาอิน ยิงเร็ว แต่บอลตรงตัว บัลเดส
 
        กระเถิบมานาทีที่ 32 บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา มาร์ติน มอนโตย่า ลงมายืนแบ็คขวา แล้วถอด อเล็กซิส ซานเชซ ออกมาพัก
 
        หกนาทีต่อมา ชุดขาว อาศัยจังหวะสวนกลับ กอนซาโล่ อิกวาอิน หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงช้าเกินไปเลยโดน มาสเคราโน่ เสียบสกัดออกหลังไปได้ทัน
 
        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 38 บาร์ซ่า มีโอกาสบ้างจากจังหวะที่ อิเนียสต้า เปิดบอลเปิดบอลยัดเข้าไปในเขตโทษบอลเลยไปเสาไกล มาร์ติน มอนโตย่า พยายามเข้าชาร์จแต่ไม่โดนบอลผ่านหน้าประตูออกไป
 
        นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก บาร์ซ่า ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ลีโอเนล เมสซี่ ปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลไซด์เสียบเสาเข้าไปสุดงามให้เจ้าบุญทุ่มไล่มา 1-2 หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 2-1
 
        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ห้านาที เคราร์ด ปิเก้ กองหลังของบาร์ซ่าไปทำแฮนด์บอลรับใบเหลืองไป
 
        เจ้าบ้านที่มีกำลังพลมากกว่า พยายามครองบอลบุกกดดันแล้วมีโอกาสจากจังหวะที่ กอนซาโล่ อิกวาอีน เปิดให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ บัลเดส ออกมารับบอลไว้ได้ก่อนในนาทีที่ 54
 
        แม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่า แต่ บาร์ซ่า น่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อ มาสเคราโน่ วางบอลยาวขึ้นหน้าเข้าเขตโทษให้กับ เปโดร โรดริเกซ เกี่ยวบอลด้วยซ้ายแล้วหวดด้วยขวาทันทีชนิดบอลไม่ตกพื้นด้วยซ้ำ แต่ อีเกร์ กาซียาส นายทวารกัปตันทีมของเรอัล มาดริด ใช้ขาเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมในนาทีที่ 62
 
        สามนาทีต่อมา เปโดร โรดริเกซ ของบาร์ซ่าพลิกบอลหลบขึ้นมาทางด้านขวา กระชากไปจนถึงสุดเส้นหลัง แต่ไม่ยอมจ่ายให้กับ เมสซี่ โดยเลือกยิงยัดเสาแรกเอง ทว่า กาซียาส เซฟไว้ได้

        เรอัล โต้ขึ้นมาบ้างเกือบได้ลูกที่สาม เมื่อ ซามี่ เคดิร่า พาบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษแล้วดีดด้วยขวาแต่ไปติดเซฟของ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ที่ป้องกันได้เยี่ยมในนาทีที่ 68
 
        ถัดมานาทีเดียว บาร์ซ่า โต้กลับมา อิเนียสต้า ล็อบบอลจากระยะร่วม 40 หลา บอลข้ามคานไปชนิดได้เสียว
 
        จากนั้น บาร์ซ่า เปลี่ยนเอา อเล็กซ์ ซง กองกลางตัวใหม่ทีมชาติแคเมอรูน ลงมาเล่นแทน บุสเก็ตส์ ในนาทีที่ 75
 
        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังเฉือนชนะ บาร์เซโลน่า ไปได้ 2-1 รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 แต่ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองด้วยกฏประตูทีมเยือนที่ดีกว่า 
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล (ลูก้า โมดริช น.83), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน  
สำรอง : อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - ราอูล อัลบิโอล, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ลูก้า โมดริช, คาริม เบนเซม่า, โฆเซ่ กาเยฆอน 

บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - อาเดรียโน่ คอร์เรอา, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (อเล็กซ์ ซง น.75), อันเดรส อีเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่, อเล็กซิส ซานเชซ (มาร์ติน มอนโตย่า น.32)
สำรอง : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - มาร์ก บาร์ตรา, เชส ฟาเบรกาส, คริสเตียน เตโย่, ดาบิด บีย่า

ใบแดง : อาเดรียโน่ คอร์เรอา น.28 
 

ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาโอซ