"แชมป์เก่า" แมนฯ ซิตี้ ทำได้แค่บุกเสมอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ไป 1-1 โดยเจ้าถิ่นซัดนำก่อนจาก ปีเตอร์ เคร้าช์ น.15 ก่อน ฆาบี การ์เซีย นักเตะใหม่จะมายิงกู้หน้า น.35 เก็บได้แต้มเดียวเท่านั้น สำหรับ แมนฯซิตี้ ในศึกในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา

สนาม:บริทานเนีย สเตเดี้ยม


         ที่บริทานเนีย สเตเดี้ยม เป็นเกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง สโต๊ค ซิตี้ เจ้าถิ่น กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า


         ไฮไลท์ ของเกมนี้ อยู่ที่ ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษที่เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายมาเล่นกับ เดอะพอตเตอร์ส มีชื่อเป็นตัวสำรองด้วย ขณะที่ สตีเว่น เอ็นซอนซี่ ได้ลงทำหน้าที่ในแดนกลางคู่กับ ชาร์ลี อดัม สมาชิกใหม่อีกราย


         ด้าน แมนฯ ซิตี้ ได้ มาริโอ บาโลเตลลี่ เรียกความฟิตกลับมายืนคู่ คาร์ลอส เตเวซ ในแดนหน้า เช่นเดียวกับสามผู้เล่นใหม่ สกอตต์ ซินแคลร์, ฆาบี การ์เซีย และ ไมคอน ที่ได้เป็นตัวจริงตั้งแต่ต้นเกม ขณะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ไม่มีแม้แต่ชื่อบนม้านั่งสำรอง 


         เพียงแค่สี่นาที เรือใบสีฟ้าก็ได้โอกาสทักทายก่อน เตเวซ ซึ่งเป็นตัวหลักในแนวรุกของ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มลากบอลจี้เข้าหาปากประตู ก่อนตัดสินใจยิงเองบริเวณกรอบเขตโทษ หลังจากโดน เอ็นซอนซี่ พยายามดึงเสื้อ บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบเฉียดฉิว


         หลังผ่านไปสิบนาที สโต๊ค ก็เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ และพยายามสร้างปัญหาให้ทีมเยือนด้วยลูกกลางอากาศของถนัด และก็ทำสำเร็จจนได้ในนาทีที่ 14 เมื่อกองหลังเรือใบสีฟ้าเคลียร์บอลไม่ขาด ปล่อยให้ โจนาธาน วอลเตอร์ส งัดลอยโด่งในเขตโทษไปถึง ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่ยืนเบียดอยู่กับผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ สองสามคน เป็นจังหวะชุลมุนหน้าประตู สุดท้ายเป็นหัวหอกร่างโย่งได้ยิงจากระยะแค่หกหลา เบียดเสาขวามือเข้าไปเป็น 1-0 


         แม้จะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่เกมของเรือใบสีฟ้ายังขาดๆเกินๆ ไม่อาจหาช่องเจาะเกมรับของ สโต๊ค ที่เน้นแพ็กแน่นหน้าเขตโทษ หรือพยายามทำฟาวล์ตัดเกมตั้งแต่บริเวณกลางสนาม จนไม่เปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้สับไกยิงเพื่อกดดัน อัสเมียร์ เบโกวิช อย่างที่ควรจะเป็น


         อย่างไรก็ดี ทีมเยือนก็ตีเสมอสำเร็จจากจังหวะเซตพีซเช่นกัน ในนาทีที่ 34 เมื่อ บาโลเตลลี่ ถูก แอนดี้ วิลกินสัน ทำฟาวล์ เรียกฟรีคิกจากระยะประมาณ 35 หลาให้กับ ซิตี้ ได้ เตเวซ ทำหน้าที่หยอดเข้าไปในเขตโทษ และเป็น ฆาบี การ์เซีย ขึ้นโหม่งง่ายๆแบบไม่มีใครประกบ ให้สกอร์เสมอกัน 1-1


         เรือ ใบชักได้ใจ เป็นฝ่ายเดินหน้ารุกไล่ต่อเนื่อง และน่าได้ประตูแซงนำในนาทีถัดมา เมื่อ ไมคอน ได้โอกาสวอลเลย์ในเขตโทษ บอลทำท่าจะพุ่งเข้าทางเสาแรก แต่ เบโกวิช ไม่พลาดทิ้งตัวปัดออกหลังไปได้  


         ช่วง เวลาที่เหลือ ซิตี้ ยังเป็นฝ่ายรุกไล่อยู่ข้างเดียว แต่ เบโกวิช ยังเหนียวหนึบ ช่วยป้องกันจังหวะอันตรายไว้ได้หลายครั้ง หมด 45 นาที สกอร์ยังเสมอกัน 1-1


        กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเกมของทั้งสองทีมยังสูสี และเป็น "เรือใบสีฟ้า" มาได้โอกาสสจากจังหวะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ลากเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษก่อนซัดไกลเต็มเท้า ทว่าข้ามคานออกหลัง


          นาทีที่ 63 มันชินี่ สั่งเปลี่ยนตัวเป็นครั้งแรกด้วยการถอด เตเวซ ออก และส่ง แกเร็ธ แบร์รี่ ลงมาเติมเกมตรงกลางสนามแทน ขณะที่เจ้าบ้านก็แก้เกมบ้าง ด้วยการส่ง แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน ลงมาแทน ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์ ในนาทีที่ 69


          ช่วงเวลาที่เหลือเกมสุดจืด แทบไม่มีจังหวะยิงเข้ากรอบกันแม้ว่าท้ายเกม "ซิตี้" จะโหมบุกอย่างหนัก สุดท้ายไม่มีสกอร์เกิดขึ้นเพิ่ม จบเกม "แชมป์เก่า" แมนฯ ซิตี้ ทำได้แค่บุกเสมอ สโต๊ค 1-1 เท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช, แอนดี้ วิลกินสัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ก วิลสัน, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, เกล็นน์ วีแลน, ชาร์ลี อดัม, ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์, โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์

 สำรอง: โธมัส โซเรนเซ่น, เจฟฟ์ คาเมรอน, ไมเคิ่ล โอเว่น, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว อัพสัน, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, คาเมรอน เจอโรม

 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมค่อน, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, ฆาบี การ์เซีย, ซามีร์ นาสรี่, สกอตต์ ซินแคลร์, คาร์ลอส เตเวซ, มาริโอ บาโลเตลลี่

 สำรอง: ริชาร์ด ไรท์, เอดิน เชโก้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แจ็ค ร็อดเวลล์, ดาบิด ซิลบา, แกเร็ธ แบร์รี่, โคโล่ ตูเร่

 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก